สุรินทร์ - ทหารไทย-กัมพูชา ยังตรึงกำลังเข้มเผชิญหน้าตลอดแนวชายแดนสุรินทร์ เผย รบ.เขมร ส่งปืนใหญ่และอาวุธใหม่เสริมเขี้ยวเล็บด้าน “ตาควาย-ช่องกร่าง-ตาเมือนธม” พบทหารเขมรซ้อมยิงปืนใหญ่สนั่นชายแดนทุกวัน ขณะทหารไทยติดตามความเคลื่อนไหวใกล้ชิด สั่งกำลังเตรียมพร้อมรับสถานการณ์รุนแรง แจ้งอำเภอพร้อมอพยพ ปชช.ตลอดเวลา และยังสั่งห้ามส่งสินค้ายุทธปัจจัยเข้าเขมร ผ่าน “ด่านช่องจอม”
วันนี้ (10 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ ขณะนี้ทหารไทยและกัมพูชา ยังคงตรึงกำลังพร้อมอาวุธหนักเผชิญหน้ากันตลอดแนวชายแดน ตั้งแต่บริเวณด้านปราสาทตาควาย บ.ไทยนิยมพัฒนา ต.บักได, ช่องกร่าง บ.รุน ต.บักได จนถึง ปราสาทตาเมือนธม บ.หนองคันนา อ.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดการปะทะกันระหว่างทหาร 2 ฝ่าย ตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย.-2 พ.ค.ที่ผ่านมา
แหล่งข่าวทางการทหาร ระบุว่า ล่าสุด รัฐบาลกัมพูชาได้สนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์เข้ามาเพิ่มเติม โดยส่งปืนใหญ่และอาวุธปืนใหม่ให้กับกองกำลังทหารเขมรที่ประจำการอยู่แนวหน้าชายแดนด้าน จ.สุรินทร์ ทั้งบริเวณฝั่งข้ามปราสาทตาควาย, ช่องกร่าง และ ปราสาทตาเมือนธม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรบกับทหารไทยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ขณะนี้ทหารกัมพูชาจึงมีการฝึกซ้อมยิงปืนใหญ่ และฝึกการใช้อาวุธที่ได้รับมาใหม่ในพื้นที่ชายแดนฝั่งกัมพูชากันทุกวัน และได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังขึ้นมาจากชายแดนฝั่งกัมพูชาเป็นระยะๆ ซึ่งทหารไทยได้เฝ้าประเมินสถานการณ์และติดตามความเคลื่อนไหวของทหารกัมพูชาอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา พร้อมได้จัดชุดลาดตระเวนออกตรวจพื้นที่ตลอดแนวชายแดนและสั่งเตรียมพร้อมกำลังพล และอาวุธ อย่างเต็มที่เพื่อรองรับสถานการณ์ที่อาจกลับมารุนแรงอีกครั้ง
พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ทหารไทยได้แจ้งให้ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทุกหมู่บ้าน ตามแนวชายแดน ได้รับทราบถึงเหตุการณ์การฝึกใช้อาวุธของทหารกัมพูชาเพื่อป้องกันความแตกตื่นของประชาชน และแจ้งให้ประชาชนที่เดินทางออกไปทำสวนยางพารา ไร่อ้อย และไร่มันสำปะหลัง ใกล้กับพื้นที่แนวชายแดน ด้านปราสาทตาควาย, ปราสาทตาเมือนธม หากได้ยินเสียงปืนให้หลบเข้าที่กำบัง และให้รีบเดินทางไปยังจุดนัดหมายที่ปลอดภัย ซึ่งทางอำเภอพนมดงรัก จ.สุรินทร์ ได้จัดเตรียมแผนพิทักษ์ส่วนหลังไว้รองรับอยู่แล้ว
“ทหารในพื้นที่ได้ประสานงานกับทางอำเภอพนมดงรัก อยู่ตลอดเวลา ในการให้ข้อมูลที่เป็นจริงแก่ประชาชนเพื่อไม่ให้เกิดความตระหนกตกใจและสามารถอพยพเดินทางไปยังพื้นที่ปลอดภัย ที่ทางอำเภอจัดเตรียมไว้หากมีการปะทะกันเกิดขึ้นอย่างทันท่วงที” แหล่งข่าวกล่าว
อย่างไรก็ตาม การฝึกซ้อมของทหารกัมพูชาดังกล่าว ก่อนที่จะทำการยิงปืนใหญ่ทหารกัมพูชา ได้แจ้งมาให้ทหารไทยได้รับทราบก่อน เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดจนนำไปสู่การปะทะกันรอบใหม่
นายอำนวย เล็งตามดี อายุ 53 ปี ชาวบ้านไทยนิยมพัฒนา ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งมีอาชีพปลูกยางพารา บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ช่วงบ่ายเมื่อวานที่ผ่านมาได้มีเสียงปืนใหญ่ดังขึ้น 2 นัด ใกล้กับปราสาทตาควาย ที่อยู่ห่างจากหมู่บ้านออกไปประมาณ 4 กิโลเมตร ทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านไทยนิยมพัฒนา พากันแตกตื่นเตรียมอพยพ แต่ไม่มีเสียงปืนเล็กปะทะกันเมื่อเสียงปืนเงียบลงไม่มีการปะทะเกิดขึ้น ชาวบ้านจึงไม่อพยพ ส่วนตนกับภรรยาจึงทำงานในสวนยางพาราต่อ อีกทั้งตนได้สร้างหลุมบังเกอร์ไว้ในสวนยางพารา หากมีเหตุการณ์ปะทะกันก็สามารถให้เป็นที่หลบภัยในเบื้องต้นได้
“ทราบจากที่ชาวบ้านได้ถามทหารที่ขับรถผ่านมา บอกว่า เสียงปืนใหญ่ดังกล่าวเป็นการทดสอบยิงปืนใหญ่ของทหารเขมรเพื่อปรับพิกัด ซึ่งเป็นปืนใหม่ที่ทางรัฐบาลกัมพูชาส่งเข้ามาสนับสนุนทหารในแนวหน้าเพิ่มเติม และบอกให้ชาวบ้านทำหลุมหลบภัยให้มีความแข็งแรงมากขึ้นเพื่อความปลอดภัย” นายอำนวย กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ที่บริเวณด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องจอม-โอร์เสม็ด ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ บรรยากาศการค้าขายและการท่องเที่ยวยังไม่ค่อยคึกคัก แม้พ่อค้าแม่ค้าชาวไทยและกัมพูชา ได้กลับมาเปิดร้านขายสินค้าในตลาดชายแดนช่องจอมกันกว่า 90% แล้วก็ตาม แตกต่างจากนักพนันชาวไทยที่เดินทางเข้าไปเล่นพนันในบ่อนกาสิโนชายแดนฝั่งประเทศกัมพูชากันจำนวนมากเป็นปกติทุกวัน โดยไม่มีท่าทีวิตกกังกลต่อเหตุการณ์สู้รบแต่อย่างใด
ขณะที่กองทัพภาคที่ 2 ยังคงมีคำสั่งให้ด่านศุลกากรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ประสานกับบริษัทผู้ส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิง แก๊ส และสินค้าเกี่ยวกับยุทธปัจจัยต่างๆ ให้ชะลอการส่งสินค้าเหล่านี้ออกไปยังประเทศกัมพูชา ผ่านด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด เป็นการชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์จะกลับคืนสู่ภาวะปกติ