xs
xsm
sm
md
lg

แฉทหารเขมรขวัญเสียหนักขาดเสบียงรบไร้ทิศทาง - หันพึ่งไสยศาสตร์สู้ไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สุรินทร์ - ทหารเขมรไม่สน ยิงโจมตีไทยตามใจชอบ เปิดปะทะชายแดนสุรินทร์เป็นวันที่ 10 ไทยเจ็บอีก 2 “ทภ.2” ชี้ขวัญกำลังใจทหารเขมรตกต่ำ ขาดเสบียงไร้การเหลียวแลจากระดับสูง ทำให้รบไร้ทิศทาง เผย พบต้องสงสัยสปายเขมร 3 คน ตระเวนกระบะติดจานดาวเทียม หาข่าวในพื้นที่ ยัน BM-21 ยิงไม่ถึงศูนย์อพยพไทย สรุปรบ 10 วัน ทหารเจ็บ 120 นาย ตาย 7 นาย ปชช.ตาย 1 เจ็บ 7 ศูนย์อพยพ 43 แห่ง รวม 48,670 คน สะพัดทหารแขมร์หันพึ่งไสยศาสตร์สู้ทหารไทย

วันนี้ (1 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์สู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ ยังไม่คลี่คลาย ทหารไทยกับกัมพูชายังเปิดฉากปะทะกันต่อเนื่องเป็นวันที่ 10 ในวันนี้ ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา (30 เม.ย.) ที่ชายแดนบริเวณปราสาทตาควาย บ.ไทยนิยมพัฒนา ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ มีเสียงปืนปะทะกันขึ้นตั้งแต่เวลา 23.00 น.ต่อมาเวลา 01.00 น.ของวันนี้ (1 พ.ค.) ทหารทั้ง 2 ฝ่ายได้ยิงต่อสู้อย่างหนักจนถึงเวลา 02.00 น.โดยมีเสียงลูกระเบิดเอ็ม 79 ยิงเข้ามาประมาณ 20 นาที จากนั้นเป็นการปะทะกันด้วยปืนเล็กประปรายเป็นระยะๆ ตลอดแนวชายแดนถึงปราสาทตาเมือนธม บ.หนองคันนา ต.ตาเมียง กระทั่งถึงเวลา 07.00 น.ของเช้าวันนี้ (1 พ.ค.) เสียงปืนจึงได้สงบลง

จากเหตุปะทะกันดังกล่าว มีรายงานทหาร ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 นาย ทราบชื่อ คือ ส.ต.รัฐพล ครองยุทธ์ สังกัด ร.8 พ.2 ถูกสะเก็ดระเบิดบาดเจ็บบริเวณใบหน้า และทหารไม่ทราบชื่อ อีก 1 นาย ถูกสะเก็ดระเบิด เช่นกัน ทั้ง 2 นาย ถูกนำตัวส่งรักษาพยาบาลเบื้องต้นที่ โรงพยาบาลพนมดงรัก อ.พนมดงรัก ก่อนส่งต่อไปยังโรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน จังหวัดทหารบกสุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์

ขณะเดียวกัน วันนี้ (1 พ.ค.) เวลา 09.00 น.ศูนย์ประชาสัมพันธ์ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ส่วนหน้าได้แจกเอกสารรายงานสถานการณ์กับสื่อมวลชน ระบุว่า ขณะนี้สถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ได้เบาบางลง ล่าสุด เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 30 เม.ย.มีการปะทะตามหน้าแนวชายแดนปราสาทตาควาย ต.บักได โดยทหารกัมพูชาใช้ปืนเล็กประจำกายยิงขึ้นฟ้าตลอดเวลา และสุดท้ายได้ยิงเข้ามาใส่ฐานทหารไทย และเริ่มขว้างระเบิดมือพร้อมยิงอาร์พีจี เข้าใส่ฐานทหารไทย แต่ไม่สามารถตรวจสอบจำนวนได้ เนื่องจากไม่เข้าเป้าหมาย และไม่ได้ทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บ จนกระทั่งเวลา 04.00 น.ของเช้าวันที่ 1 พ.ค.จึงหยุดการปะทะจนถึงขณะนี้

ทั้งนี้ ทหารกัมพูชา เริ่มมีขวัญและกำลังใจตกต่ำ เนื่องจากการขาดเสบียงและการไม่ได้รับความเหลียวแลจากผู้บังคับบัญชาระดับสูง อีกทั้งกัมพูชานั้นได้รับข่าวสารว่าทหารไทยมีการส่งเสบียงจากแนวหลัง ทั้งจากประชาชน และอาวุธยุทโธปกรณ์สนับสนุนขึ้นมาแนวหน้าตลอดเวลา ทำให้ขณะนี้น้ำหนักของการปะทะของทหารกัมพูชาไม่ว่าจะเป็นการรบแบบใดเริ่มไม่มีทิศทางและแผนการปฏิบัติอย่างเป็นรูปแบบ อย่างไรก็ดี สถานการณ์ดังกล่าวเป็นผลให้ฝ่ายทหารไทย คาดเดาอารมณ์ของทหารกัมพูชาได้ยากขึ้น ว่า จะเกิดความเครียดแล้วเปิดฉากใช้อาวุธต่อทหารไทยเมื่อใด

จากเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ รวม 10 วัน (22 เม.ย. -1 พ.ค.) มีทหารไทยได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 120 นาย เสียชีวิต 7 นาย พลเรือนเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 7 ราย บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 11 หลัง, ประปาหมู่บ้านเสียหาย 2 แห่ง, ปศุสัตว์ตาย 4 ตัว ด้านการอพยพประชาชน ขณะนี้มีศูนย์อพยพทั้งสิ้น 43 แห่ง แบ่งกันเป็น จ.สุรินทร์ 35 ศูนย์ มีผู้อพยพ 42,804 คน จ.บุรีรัมย์ 7 แห่ง ผู้อพยพ 5,866 คน รวมจำนวนผู้อพยพทั้งสิ้น 48,670 คน

นอกจากนี้ มีสายข่าวจากประชาชน แจ้งว่า พบมีผู้ต้องสงสัยจำนวน 3 คน เข้ามาหาข่าวการวางกำลังของทหารไทย โดยมีลักษณะต้องสงสัยหลายประการ ใช้ยานพาหนะรถกระบะ ในลักษณะมีจานดาวเทียมขนาดเล็กบริเวณเหนือตัวรถ คาดว่า จะเป็นอันตรายต่อความมั่นคง ดังนั้น ขอให้สื่อมวลชน ช่วยกันระมัดระวังและเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่รัฐด้วย หากพบผู้ต้องสงสัยดังกล่าวขอให้แจ้งผ่านมายังศูนย์ประชาสัมพันธ์ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ทันที
ส่วนการที่มีข่าวลือว่าหากมีการปะทะกันด้วยอาวุธหนัก ทหารกัมพูชาสามารถยิงจรวด BM- 21 เข้ามาได้ถึงศูนย์อพยพต่างๆ ของ จ.สุรินทร์และ จ.บุรีรัมย์ ทำให้ประชาชนหวาดกลัว นั้น รองผู้บัญชาการกรมทหารปืนใหญ่ที่ 6ได้ยืนยัน ว่า ข่าวนี้ไม่เป็นความจริง และขอยืนยันว่าศูนย์อพยพต่างๆ ของทาง จ.สุรินทร์และ จ.บุรีรัมย์ มีความปลอดภัยจากระยะการยิงจรวดดังกล่าวอย่างแน่นอน ขอให้ประชาชนที่ยังอยู่ศูนย์อพยพได้มั่นใจในความปลอดภัยดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ว่า ขณะนี้ในพื้นที่ชายแดนด้านปราสาทตาควาย บ.ไทยนิยมพัฒนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก มีข่าวลือสะพัด ว่า ทหารกัมพูชาได้ใช้ไสยศาสตร์แปลงกายเป็นมนุษย์ลิงลมเข้ามาหลอกพรางตาในลักษณะถูกยิงแล้วไม่ตาย กระโดดหลบไปมา ปีนขึ้นต้นไม้และหายตัวไป ซึ่งเชื่อว่า ทางทหารกัมพูชาได้หันมาเล่นไสยศาสตร์สู้กับทหารไทย และทางทหารไทยแก้เคล็ดไสยศาสตร์ดังกล่าวด้วยการนำเลือดประจำเดือนของสุภาพสตรี ทาที่อาวุธปืนแล้วทำการยิงมนุษย์ลิงลมตายไปหลายคนแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น