บุรีรัมย์ - ชาวบ้านในศูนย์อพยพ ที่ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ เริ่มทยอยกลับเข้าบ้าน แม้ยังเสี่ยงอันตรายจากการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา หลังต้องทิ้งบ้านเรือนมาลี้ภัยที่ศูนย์อพยพนานถึง 9 วัน โดยขณะนี้เหลือยอดผู้อพยพประมาณ 4,000 คน จากเดิมทั้ง 9 ศูนย์มีมากกว่า 9,000 คน
วันนี้ ( 30 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จ.บุรีรัมย์ ที่หนีภัยการสู้รบระหว่างทหารไทยกับฝ่ายกัมพูชาด้านชายแดน จ.สุรินทร์ มาพักพิงที่ศูนย์อพยพใน อ.บ้านกรวด และ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ทั้ง 9 ศูนย์ ที่มีมากกว่า 9,000 คน บางส่วนได้เริ่มทยอยอพยพกลับเข้าบ้านแล้วหลังเสียงปืนจากการปะทะของกองกำลังทั้งสองฝ่ายเริ่มเบาบาง และไม่มีลูกกระสุนปืนตกเข้ามาในพื้นที่หมู่บ้าน ขณะนี้เหลือยอดผู้อพยพเพียง 4,000 คน ส่วนใหญ่จะเป็นเด็ก สตรี และคนชรา ถึงแม้เหตุการณ์ยังไม่หน้าไว้ว่างใจก็ตาม
โดยชาวบ้านที่อพยพกลับเข้าบ้านบางส่วนก็จะกลับมานอนที่ศูนย์อพยพ บางส่วนก็นอนในหมู่บ้านเพราะเป็นห่วงทรัพย์สินและสวนยางพาราที่กำลังเปิดกรีดยาง แต่หากมีการปะทะหรือได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ชาวบ้านที่กลับเข้าไปในหมู่บ้านก็ยังมีการเตรียมความพร้อมอพยพออกมาได้ทุกเมื่อ
ทางด้านนายณัฐ ชาติวัฒนศิริ นายอำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า สถานการณ์การสู้รบล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมายังมีเสียงปืนดังขึ้นจากการปะทะฝั่งชายแดนด้าน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. ถึง 21.00 น. ถึงแม้จะมีการเจรจาหยุดยิงแล้วก็ตาม จนถึงวันนี้สถานการณ์ก็ยังไม่น่าไว้วางใจ อย่างไรก็ตามถึงแม้ประชาชนจะทยอยกลับเข้าหมู่บ้าน โดยเฉพาะที่ศูนย์อพยพโรงเรียนโนนเจริญพิทยาคม ต.โนนเจริญ อ.บ้านกรวดเหลือยอดผู้อพยพราว 2,000 คน จากเดิมมีมากกว่า 6,000 คน แต่ทางอำเภอก็ยังไม่ปิดศูนย์อพยพ ถึงแม้เหลือผู้พักพิงอยู่เพียงคนเดียวก็ตาม เพราะยังไม่มั่นใจในสถานการณ์ว่าจะมีการสู้รบรุนแรงเกิดขึ้นในวันได และไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้