สุรินทร์ - “มาร์ค” ย้ำ การเจรจาจะเกิดขึ้นฝ่ายเขมรต้องหยุดยิงก่อน ลั่นหากไม่หยุดยิงไทยจำเป็นต้องตอบโต้เพื่อรักษาดินแดนอธิปไตยของไทยอย่างเต็มที่ต่อไป มั่นใจกัมพูชาสร้างสถานการณ์ยกระดับความขัดแย้งสู่เวทีนานาชาติไม่ได้ผล เหตุต่างชาติไม่เชื่อ
วันนี้ (27 เม.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจแก่ประชาชนผู้ประสบภัยจากการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ ที่ศูนย์อพยพชั่วคราวโรงเรียนบ้านโคกกลาง ต.โคกยาง อ.พนมดงรัก จ. สุรินทร์ ซึ่งผู้อพยพอยู่กว่า 5,000 คน โดยนายกรัฐมนตรีพบปะให้กำลังใจ และสอบถามประชาชนผู้อพยพอย่างใกล้ชิดและเป็นกันเอง สร้างความประทับใจแก่ผู้อพยพไม่น้อย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวภายหลังเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนผู้อพยพที่โรงเรียนบ้านโคกกลาง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ว่า เมื่อวานนี้ (26 เม.ย.) ฝ่ายกัมพูชาเริ่มมีความพยายามที่จะติดต่อเพื่อเจรจาหยุดยิงนับเป็นสัญญาณที่ดี เพราะฝ่ายไทยพร้อมพูดคุยอยู่ตลอดเวลาและในวันนี้ยังรอการติดต่อจากกัมพูชาอยู่ แต่ทั้งนี้ ทางกัมพูชาก็ต้องหยุดยิงอาวุธเข้ามาฝั่งไทยเสียก่อน โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ได้ยิงเข้ามาในพื้นที่หมู่บ้านที่มีประชาชนอาศัยอยู่จนได้รับความเสียหายมีประชาชนได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต
การที่กัมพูชาทำเช่นนี้อาจต้องการยกระดับความขัดแย้งขึ้นสู่ระดับนานาชาติ จึงใช้วิธีการนี้โจมตีฝ่ายไทย ซึ่งเชื่อว่าไม่ได้ผลเพราะนานาชาติก็เข้าใจได้ว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ ไม่เช่นนั้นก็จะทำแบบนี้กันหมด และยืนยันว่า ฝ่ายไทยไม่ต้องการไปรุกรานใคร ไม่อยากให้มีการยิงสู้รบกัน แต่หากยังไม่หยุดยิงไทยก็จำเป็นต้องตอบโต้เพื่อรักษาดินแดนอธิปไตยของไทยอย่างเต็มที่
นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวให้กำลังใจประชาชนผู้อพยพ ว่า ได้ติดตามสถานการณ์มาโดยตลอดโดยมอบหมายให้ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มาประจำอยู่ในพื้นที่ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างดีที่สุด ซึ่งรัฐบาลและประชาชนทั้งประเทศมีความรู้สึกห่วงใยผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดน โดยย้ำว่า รัฐบาลคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญจึงต้องอพยพมาอยู่ในที่ปลอดภัยและให้ทุกส่วนราชการออกมาดูแลช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ พร้อมจะทำทุกวิธีทางเพื่อให้เหตุการณ์สงบโดยเร็ว
จากนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ร่วมปรุงอาหารให้กับประชาชนในศูนย์อพยพชั่วคราว โรงเรียนบ้านโคกกลาง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ได้รับประทานด้วย