บุรีรัมย์ - “องอาจ” ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพผู้ลี้ภัยสู้รบชายแดน ที่ศูนย์อพยพ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ กว่า 700 ครัวเรือน พร้อมย้ำให้ จ.บุรีรัมย์ และสุรินทร์ดูแลเรื่องความเป็นอยู่ อาหาร สิ่งสาธารณูปโภค ชี้สถานการณ์ไม่น่าวางใจ ยอมรับเจรจาหยุดยิงกับเขมรเป็นเรื่องลำบาก ยันทางรัฐบาลพยายามทุกวิธีทางเพื่อแก้ไขปัญหาให้คลี่คลายโดยเร็ว
วันนี้ (25 เม.ย.) เมื่อเวลา 16.30 น.นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาที่โรงเรียนโนนเจริญพิทยาคม ต.โนนเจริญ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ เพื่อประชุมและรับทราบสถานการณ์ที่เกิดขึ้นรวมทั้งแนวทางปฏิบัติ ในการช่วยเหลือประชาชนผู้อพยพ หนีภัยการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ ซึ่งขณะนี้มีกว่า 700 ครัวเรือน 4,433 คน จาก 4 ตำบล ประกอบด้วย ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์, ต.สายตะกู, ต.จันทบเพชร และ ต.โนนเจริญ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์
โดยมี นายอภิชาต งามกมล รองผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ นายณัฐ ชาติ วัฒนศิริ นายอำเภอบ้านกรวด บรรยายสรุปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งการประชุมหารือใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงได้เดินทางไปเยี่ยมปลอบขวัญ และให้กำลังใจประชาชนที่ศูนย์อพยพ พร้อมกับมอบถุงยังชีพให้กับประชาชน และขนมของเล่นให้กับเด็กๆ ภายในศูนย์ จากนั้นได้เดินทางไปที่โรงเรียนบ้านละหานทรายใหม่ ต.หินลาด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถึงแม้ชายแดนด้าน จ.บุรีรัมย์ไม่เกิดการสู้รบ แต่เหตุการณ์ปะทะที่เกิดขึ้นฝั่ง จ.สุรินทร์ ก็ยังไม่คลี่คลายและไม่น่าไว้วางใจ จึงจำเป็นต้องให้ชาวบ้านออกมายังศูนย์อพยพ เพื่อความปลอดภัยก่อน เพราะชีวิตของพี่น้องประชาชนสำคัญที่สุด ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่เร่งทำความเข้าใจกับชาวบ้านถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา เนื่องจากไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเหตุการณ์ปะทะจะเกิดขึ้นอีกเมื่อใด
อย่างไรก็ตาม ได้ฝากให้ทางจังหวัดและอำเภอ ช่วยดูแล 3 เรื่องหลัก คือ ความปลอดภัยของชีวิตพี่น้องประชาชน โดยให้ทางภาครัฐทำความเข้าใจกับชาวบ้าน 2.ดูแลเรื่องทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน โดยจัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ อส. และชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน(ชรบ.) ตรวจตราตลอด 24 ชั่วโมง 3.ดูและด้านสุขอนามัย อาหาร เครื่องดื่ม รวมถึงสาธารณูปโภค เครื่องอุปโภคบริโภค นอกจากนี้ ยังห่วงเด็กอ่อน และเด็กเล็กๆ ที่ยังไม่หย่านม มาอยู่ในศูนย์ให้จัดหาถุงยังชีพทั้งสำหรับผู้ใหญ่และเด็กควบคู่กันไปด้วย
“ขอให้ประชาชนได้มั่นใจว่ารัฐบาลจะไม่ทอดทิ้ง ส่วนจังหวัดตามแนวชายแดนที่หลุมหลบภัยในหมู่บ้านไม่เพียงพอ ให้ทางจังหวัดสำรวจและรายงานไปยังสำนักนายกฯ เพราะขณะนี้ได้มีการพูดคุยกับกระทรวงมหาดไทยในด้านงบประมาณแล้ว” นายองอาจ กล่าว
นายองอาจ กล่าวอีกว่า จากการประเมินสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะนี้ยังไม่น่าไว้วางใจ และยังไม่อนุญาตให้ชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยกลับเข้าบ้าน จนกว่าเหตุการณ์จะคลี่คลายเพื่อความปลอดภัยของชาวบ้าน โดยจะมีการติดตามสถานการณ์ทุกวัน
ส่วนการเจรจาหยุดยิงนั้นยอมรับว่าค่อนข้างจะเป็นเรื่องลำบาก เพราะขณะนี้ยังมีการปะทะอยู่อย่างต่อเนื่อง และเรื่องดังกล่าวไม่สามารถทำฝ่ายเดียวได้ ต้องมีความเห็นพ้องกันตรงกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งทางรัฐบาลพยายามทุกวิถีทางเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้คลี่คลายลงโดยเร็ว แต่ยืนยันว่าไทยไม่มีจุดมุ่งหมายที่จะไปรุกรานใคร ที่ทำอยู่ขณะนี้เพียงปกป้องอธิปไตยเท่านั้น