บุรีรัมย์ - สถานการณ์ชายแดนยังตึงเครียด มีเสียงปืนดังจากการปะทะที่พนมดงรัก สุรินทร์ ต่อเนื่อง ขณะทางอำเภอบ้านกรวด บุรีรัมย์ ยังไม่อนุญาตให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในศูนย์อพยพทั้ง 6 ศูนย์ กว่า 6,600 คน กลับเข้าบ้าน เกรงไม่ปลอดภัย ขณะผู้อพยพประสบปัญหาขาดแคลนห้องน้ำ
วันนี้ (26 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดต่อเนื่อง ล่าสุด ยังมีเสียงปืนจากการปะทะที่บริเวณชายแดน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ดังขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ทางอำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ จึงยังไม่อนุญาตให้ชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยทั้ง 4 ตำบล ได้แก่ ต.สายตะกู ต.จันทบเพชร ต.โนนเจริญ จ.บุรีรัมย์ และ ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ที่อพยพออกมาอาศัยอยู่ที่ศูนย์อพยพชั่วคราวทั้ง 6 แห่ง ในพื้นที่ อ.บ้านกรวดรวมกว่า 6,600 คน กลับเข้าไปยังหมู่บ้าน เนื่องจากเกรงจะไม่ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ได้มีชาวบ้านบางส่วนที่เป็นห่วงทรัพย์สิน เนื่องจากต้องทิ้งบ้านเรือนมาอยู่ที่ศูนย์อพยพนานถึง 5 วันแล้ว ได้หมุนเวียนกันกลับไปตรวจดูทรัพย์สินในช่วงกลางวัน แต่พอช่วงกลางคืนก็จะกลับมาอาศัยอยู่ที่ศูนย์อพยพ ขณะที่ผู้อพยพภายในศูนย์ประสบปัญหาขาดแคลนห้องน้ำไม่เพียงพอ เนื่องจากผู้อพยพมีเป็นจำนวนมาก จึงร้องขอให้ภาครัฐได้สนับสนุนสุขาเคลื่อนที่เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับผู้อพยพด้วย
ด้าน นายณัฐ ชาติวัฒนศิริ นายอำเภอบ้านกรวด ยอมรับว่า สถานการณ์ชายแดนขณะนี้ยังไม่น่าไว้วางใจ เพราะยังมีเสียงปืนดังจากการปะทะที่ฝั่งพนมดงรักเป็นระยะ จึงยังไม่อนุญาตให้ชาวบ้านในศูนย์อพยพกลับเข้าบ้าน เพราะเกรงจะไม่ได้รับความปลอดภัย แต่ก็จะมีชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน อาสารักษาดินแดน และตำรวจเวนชายแดน คอยดูแลรักษาความปลอดภัยอยู่ภายในหมู่บ้าน ทั้งได้กำชับให้มีการตรวจตรารักษาดูแลทรัพย์สิน และสวนยางพาราของเกษตรกรอย่างเข้มงวดมากขึ้นหลังได้เกิดเหตุมิจฉาชีพลักขโมยขี้ยางพารา ของเกษตรกรที่ลี้ภัยการสู้รบในหลายหมู่บ้าน