“องอาจ” ประชุมฝ่ายความมั่นคงอุบลฯ ตั้งศูนย์อพยพเผื่อสงครามลาม

อุบลราชธานี - "องอาจ คร้ามไพบูลย์ รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี" ลงพื้นที่สำรวจจุดตั้งศูนย์อพยพประชาชนในพื้นที่โซนอันตราย อ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี มาอยู่ในเขตปลอดภัย พร้อมสั่งเตรียมรถน้ำดื่ม อาหาร 3 มื้อไว้ปรุงเลี้ยงหากต้องมีการอพยพจริงเกิดขึ้น

เมื่อบ่ายวันนี้(26 เม.ย. )นายองอาจ คร้ามไพบูลย์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประชุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา อ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี เบื้องต้นให้จัดตั้งศูนย์รองรับผู้อพยพหนีภัยสงกคราม หากสงครามขยายตัวจากชายแดน จ.สุรินทร์ มาถึง จ.ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี เนื่องจากพื้นที่ อ.น้ำขุ่น ตั้งอยู่ใกล้ อ.กันทรลักษ์ที่เกิดการปะทะเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

โดยมีการวางแผนตั้งศูนย์อพยพในอำเภอแห่งนี้จำนวน 5 จุดเ เพื่อรองรับประชาชนจากพื้นที่ 4 ตำบลคือ ตำบลโคกสะอาด ตำบลตาเกา ตำบลไพบูลย์ และตำบลขี้เหล็ก ซึ่งมีประชากรรวมกันกว่า 3 หมื่นคน พร้อมทั้งจัดทำพื้นที่โซนสีแดงในเขต 12 หมู่บ้านของตำบลโคกสะอาด และ 6 หมู่บ้านในตำบลตาเกา เพราะหมู่บ้านตั้งอยู่ใกล้แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นจุดเกิดการปะทะกันของกองกำลังทั้งสองประเทศเมื่อครั้งก่อน

โดยให้จังหวัดเตรียมรถบรรทุกน้ำกินน้ำใช้ เตรียมอาหารไว้เลี้ยงประชาชนที่ต้องอพยพวันละ 3 มื้อ พร้อมจัดหาข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว และห้องน้ำไว้ให้เพียงพอแก่ความต้องการ เมื่อเกิดการอพยพขึ้นมา ซึ่งนายองอาจแสดงความมั่นใจว่า จังหวัดอุบลราชธานี มีความพร้อมในการบริหารจัดการ เพราะมีประสบการณ์จากการปะทะกันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์มาแล้วครั้งหนึ่ง

นายองอาจให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้การสู้รบของกองกำลังทั้งสองฝ่ายยังไม่ยุติ พร้อมไม่แน่ใจจะมีการขยายแนวรบมาถึงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ และอุบลราชธานีหรือไม่ จึงต้องมีการเตรียมพร้อมไว้เพื่อความปลอดภัยของประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้แนวชายแดนของทั้งสองประเทศไว้ก่อน

ส่วนการสร้างหลุมหลบภัยนายองอาจกล่าวว่า รัฐบาลมีการอนุมัติงบประมาณมาใช้จัดสร้างให้แล้ว โดยด้าน จ.อุบลราชธานี มีการเสนอขอสร้างหลุมหลบภัยในพื้นที่ 4 หมู่บ้าน ที่อยู่ใกล้จุดปะทะมากที่สุดหมู่บ้านละ 5 หลุม เป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท

“เราพยายามควบคุมสถานการณ์การสู้รบให้อยู่ในวงจำกัดแถวปราสาทตาควาย แต่เราก็ไม่ประมาทที่จะเตรียมพร้อมรับมือ หากการสู้รบมีการขยายตัวขึ้นมา” นายองอาจกล่าว