ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “โฆษก ทภ. 2” เผยทหารเขมรขอโทษฝ่ายไทย เหตุปะทะ “ปราสาทตาควาย” ชายแดนสุรินทร์กลางดึกยันเช้าหลังตกลงหยุดยิง ทำทหารไทยดับ 1 เจ็บ 4 -5ราย อ้างไม่ได้ตั้งใจโจมตีและรับปากจะกำกับลูกน้องไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก ชี้เขมรมีปัญหาการควบคุมบังคับบัญชาทหาร อาจสื่อสารไม่ทั่วถึงและมีกำลังพลเกเรไม่เชื่อฟัง ขณะผู้ต้องสงสัยสายลับทหารเขมรควบคุมตัวไว้สอบ 2 ราย ปล่อยตัวหมดแล้ว หลังไม่มีหลักฐานชัดเจน
วันนี้( 29 เม.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น.ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา พ.อ.ประวิทย์ หูแก้ว รองเสนาธิการกองทัพภาคที่ 2 ในฐานะโฆษกกองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) เปิดแถลงข่าวสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ กรณีเกิดการปะทะกันหลังมีข้อตกลงหยุดยิง ของผู้นำทหารในระดับพื้นที่ทั้ง 2 ฝ่าย ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 20.55 น. มีการปะทะกันประปรายราว 1 ชั่วโมงทางตะวันออกของปราสาทตาควาย ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เล็กน้อย แต่สถานการณ์ไม่รุนแรงอะไร หลังจากนั้นได้หยุดยิงกันแต่มาเกิดเหตุอีกครั้งในช่วงเวลา 02.00 น. และ เวลา 04.00 - 05.00 น.ของวันนี้( 29 เม.ย.) ก่อนยุติในช่วงเวลา 05.30 น.
เหตุการณ์ปะทะครั้งนี้ส่วนใหญ่ใช้อาวุธประจำกาย ซึ่งทำให้อาสาสมัครทหารพรานไทยเสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บอีก 4 - 5 นาย สาเหตุของการปะทะอาจเกิดจากการลาดตระเวนเจอกันซึ่งเป็นยุทธการทางทหาร และกำลังทั้งสองฝ่ายวางอยู่ใกล้กันบางจุดแค่ 50 เมตร บางจุด 100 เมตร บางจุด 200 เมตร ทำให้อาจเกิดความหวาดระแวงกัน
เมื่อเป็นเช่นนี้แสดงว่า การเจรจาตกลงของผู้นำทหารระดับพื้นที่ไม่เป็นผล เพราะฝ่ายกัมพูชาไม่มีอำนาจตัดสินใจใช่หรือไม่ พ.อ.ประวิทย์ ตอบว่า ตรงนี้คิดว่าไม่ถึงขนาดนั้น ตามที่ผู้ใหญ่ได้ไปพูดคุยและไปหารือกันได้ข้อสรุปว่า จะหยุดยิงกันตั้งแต่เวลา 14.00 น.เมื่อวานนี้( 28 เม.ย.) และที่สำคัญหากมีเหตุการณ์เกิดการปะทะในแนววางกำลังของทั้ง2 ฝ่าย ให้ผู้บังคับหน่วยในพื้นที่ติดต่อประสานงานทางโทรศัพท์ได้ทันที เพื่อแจ้งการปฏิบัติ
“เมื่อคืนนี้ทันทีที่เกิดเหตุผู้บังคับหน่วยของเรากับผู้บังคับหน่วยของกัมพูชา ก็ได้โทรศัพท์พูดคุยกันว่า มันเกิดเหตุอะไรขึ้น ทั้งที่เราได้คุยกันแล้ว ซึ่งฝ่ายกัมพูชาได้กล่าวขอโทษมาว่า ฝ่ายเขาไม่ได้ตั้งใจโจมตีฝ่ายเรา และรับปากว่าจะไปกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาทางด้านฝ่ายเขา เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก” พ.อ.ประวิทย์ กล่าว
ส่วนจะเกิดเหตุปะทะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ พ.อ.ประวิทย์ กล่าวว่า ด้านการปฏิบัติครั้งนี้ตามการวิเคราะห์ของพวกเรายังมีความหวังว่า น่าจะไปได้ดี เนื่องจากเหตุที่เกิดอาจเป็นปัญหาในการควบคุมบังคับบัญชาของฝ่ายกัมพูชาเอง อาจมีการแจ้งข่าวสารของฝ่ายกัมพูชาที่ยังไม่ทั่วถึง หรือไม่ก็อาจมีกำลังพลบางส่วนที่เกเรไม่เชื่อฟัง ซึ่งฝ่ายกัมพูชาก็รับปากว่าจะไปกำกับดูแลไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก ดังนั้น เราคงรอดูสถานการณ์ แต่ก็ไม่ได้ประมาท กำลังพลของเรายังคงเตรียมความพร้อม ณ ที่ตั้งอย่างเต็มที่
“จากนี้ไปเราต้องรอดูสถานการณ์อีกสักระยะหนึ่งว่า เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร และหากเกิดมีการปะทะก็ให้ผู้บังคับหน่วยประสานการปฏิบัติกันโดยทันที เพื่อระงับเหตุการณ์ไม่ให้มันเกิดขึ้นหรือบานปลาย โดยจะเห็นได้ว่าเหตุปะทะกันเมื่อคืนนี้มีการโจมตีกันน้อยกว่าใน 2 - 3 วันที่ผ่านมา ซึ่งมันอาจเป็นอุบัติเหตุตามที่ได้ชี้แจงไป” พ.อ.ประวิทย์ กล่าว
สำหรับกรณีการจับกุมผู้ต้องสงสัยสายเป็นลับให้ทหารกัมพูชา พ.อ.ประวิทย์ กล่าวว่า ในขั้นต้นทราบว่ามีผู้ต้องสงสัยเราก็ควบคุมตัวไว้ 2 คน ส่งไปสอบสวนที่ สภ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ขณะนี้การสอบสวนเสร็จสิ้นไปแล้วและปล่อยตัวทั้ง 2 คน ไปเมื่อคืนที่ผ่านมาเวลา 20.00 น. เนื่องจากในการควบคุมตัว เกิดจากการที่บุคคลดังกล่าวมีพฤติกรรมน่าสงสัย ใช้โทรศัพท์ ติดต่อไปทางฝั่งประเทศกัมพูชาจึงควบคุมตัวไปตรวจสอบ ซึ่งผลการตรวจสอบยังไม่พบความเชื่อมโยงการเป็นสายลับที่ชัดจน จึงปล่อยตัวไปแต่ยังคงติดตามพฤติกรรมอย่างใกล้ชิดต่อไป