xs
xsm
sm
md
lg

ตกลงหยุดยิงไร้ผล ปะทะทั้งคืน ไทยตาย 1 เจ็บ 4 - ชี้ “มทภ.2” เจรจาบิ๊กทหารเขมรผิดตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร มทภ.2
สุรินทร์ - ตามคาด! ข้อตกลงหยุดยิงกับ “เขมร” ไร้ผล ปะทะชายแดนสุรินทร์ทั้งคืนยันเช้า ทหารไทยเสียชีวิตอีก 1 เจ็บ 4 นาย ชี้แม่ทัพภาคที่ 2 เจรจาผู้นำทหารเขมรบัญชาการรบสมรภูมิ “ปราสาทตาควาย-ตาเมือนธม” ผิดตัว ขณะ จนท.-ปชช.เขมรรอเก้อเปิดด่าน “ช่องจอม-ช่องสะงำ”


วันนี้ (29 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) และ พล.ต.ชวลิต ชุนประสาน ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี (ผบ.กกล.สุรนารี) กองทัพภาคที่ 2 ได้เจรจากับ พล.เจีย มอญ ผู้บัญชาการทหารภูมิภาคที่ 4 กัมพูชา ที่โอร์เสม็ด ต.โอร์เสม็ด อ.กรุงสำโรง จ.อุดรมีชัย กัมพูชา ตรงข้ามชายแดนไทย ด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ได้ข้อตกลงร่วมกันให้ทหารทั้ง 2 ฝ่ายหยุดยิงตั้งแต่เมื่อวานนี้ (28 เม.ย.) นั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 22.00 น.คืนที่ผ่านมา นายสี พาเชื้อ ผู้ใหญ่บ้านหนองดันนา ม.5 ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ พื้นที่ชายแดน ใกล้ปราสาทตาควาย ต.บักได อ.พนมดงรัก แนวปะทะระหว่างทหารไทย-กัมพูชา เปิดเผยว่า ได้ยินเสียงปืน ค.ดังขึ้นทิ้งช่วงห่างกันเป็นระยะที่บริเวณปราสาทตาควาย แต่ไม่พบมีการยิงด้วยกระสุนปืนใหญ่ และเสียงปืน ค.ยังคงดังต่อเนื่อง สลับกับการปะทะกันประปรายด้วยปืนเล็ก ทั้งเอเค 47 เอ็ม 16 และปืนกล สลับกันไปมาจนถึงเวลา 06.00 น.ของเช้าวันนี้ เสียงปืนจึงได้เงียบลง

เจ้าหน้าที่ทหารไทยในพื้นที่คาดว่า การปะทะดังกล่าวจุดเริ่มต้นอาจเป็นเพราะทหารกัมพูชาบางนายอยู่ในอาการมึนเมา และใช้อาวุธปืน ค. ปืนประจำกายยิงด้วยความขาดสติ ไม่น่าจะเกิดจากการสั่งการให้ยิงจากของผู้บังคับบัญชาหลังการเจรจาหยุดยิงของทั้ง 2 ฝ่ายแต่อย่างใด

ทั้งนี้ เนื่องจากนายทหารกัมพูชาไม่สามารถควบคุมผู้ใต้บังคับบัญชาของตนเองได้ทั้งหมด และอาจมีบางนายเกิดความโกรธแค้นจึงยิงเข้ามา ซึ่งเป็นปัญหาสำหรับกำลังพลของประเทศที่ยังไม่พัฒนา อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามสถานการณ์หลังการเจรจาว่ากัมพูชาจะยุติการยิงปะทะตามที่ได้ตกลงกันอย่างไม่เป็นทางการไว้หรือไม่ต่อไป

ล่าสุดมีรายงานว่า จากการปะทะกันเมื่อคืนที่ผ่านมา และตอนเช้าช่วงเวลา 05.00-06.00 น. วันนี้ (29 เม.ย.) มีทหารพรานไทยเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 นาย ที่บริเวณจุดปะทะปราสาทตาควาย ต.บักได คือ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) กึ้ง พลสงคราม สังกัดกรมทหารพรานที่ 26 ค่ายปักธงชัย จ.นครราชสีมา โดยถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณหน้าอก สะโพก แขน ขา และมีทหารได้รับบาดเจ็บอีก 4 นาย ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณแขนและขา ทั้งหมดถูกลำเลียงออกมาจากแนวปะทะ ส่งเข้ารักษาพยาบาลเบื้องต้นที่โรงพยาบาลพนมดงรัก อ.พนมดงรัก ก่อนส่งต่อไปรักษายังโรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน จังหวัดทหารบกสุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์

อย่างไรก็ตาม สาเหตุการเกิดปะทะกันขึ้นอีกครั้งนี้ ทั้งที่ได้มีข้อตกลงหยุดยิงร่วมกันระหว่าง แม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย กับผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 กัมพูชาแล้วนั้น แหล่งข่าวทางทหารระบุว่า พล.ท.เจีย มอน ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 กัมพูชาไม่มีอำนาจในการบังคับบัญชาทหารหน่วยรบประจำแนวชายแดนที่จุดปะทะทั้งพื้นที่ปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก อย่างแท้จริง เพราะผู้ที่ควบคุมหน่วยรบของเขมรประจำพื้นที่แนวชายแดนด้านนี้ คือ พล.อ.ชิม จันปัว รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการสมรภูมิรบที่ 3 ซึ่งจุดปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาที่ปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม เป็นพื้นที่ควบคุม ของ พล.อ.ชิม จันปัว ผู้บัญชาการสมรภูมิรบที่ 3 การที่แม่ทัพภาคที่ 2 ของไทยไปเจรจากับ พล.ท.เจีย มอน ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 กัมพูชา อาจเป็นการเจรจาผิดตัวมากกว่า

ขณะที่ พ.อ.ปรีดา บุตราช ผู้อำนวยการกิจการพลเรือน กองทัพภาคที่ 2 ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 (ส่วนหน้า) แถลงถึงเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. ทหารกัมพูชาได้ยิงปืนเล็กเข้าใส่ทหารไทยประปรายที่บริเวณปราสาทตาควาย แต่ทหารไทยไม่ได้ตอบโต้

ต่อมาเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 29 เม.ย.ทหารกัมพูชารุกคืบเข้ามาใกล้ปราสาทตาควายและใช้อาวุธปืนเล็กพร้อมระเบิดมือขว้างใส่ทหารไทย ทำให้ทหารไทยตัดสินใจตอบโต้ด้วยอาวุธประจำกาย จนเกิดการปะทะกันขึ้น โดยไม่ได้ตอบโต้ด้วยอาวุธหนักแต่อย่างใด จากนั้นได้มีการปะทะกันขึ้นอีกในเวลา 05.00 น. ก่อนเสียงปืนจะสงบลงเมื่อเวลา 06.00 น. ของเช้าวันนี้ ( 29 เม.ย.) ซึ่งมีอาสาสมัครทหารพรานเสียชีวิต 1 นาย รวมจนถึงขณะนี้มีทหารไทยเสียชีวิตจากเหตุการ์ปะทะแล้วทั้งหมด 7 นาย

ส่วนการจับกุมผู้ต้องสงสัยเป็นสายข่าวให้กับทหารกัมพูชา 3 ราย ได้แก่ นายคำพันธุ์ วงศ์ษา ,นายสนิท พิมพ์เก่า อดีตผู้ใหญ่ และนายเสริม โพธิ์ชัยเลิศ นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร เพราะมีพฤติกรรมที่น่าสงสัย เช่น มีการโทรศัพท์ไปยังเพื่อนที่อยู่ประเทศกัมพูชาในระหว่างที่มีการปะทะกันในวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งผลการสอบสวน ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่ 2 จะแถลงข่าวให้ทราบต่อไป

สำหรับการปฏิบัติงานของสื่อมวลชน ขอให้ยกเว้นการเข้าไปทำข่าวในพื้นที่ บ้านหนองคันนา ต.ตาเมียง จ.สุรินทร์ ใกล้ชายแดนปราสาทตาเมือนธม เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เป้าหมายทางทหารของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อสื่อมวลชนได้

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เช้าวันนี้ (29 เม.ย.) ที่ด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องจอม-โอร์เสม็ด ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ และ ด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ทางการไทยยังคงปิดประตูด่านไม่ได้ทำการเปิดให้ประชาชนทั้ง 2 ประเทศผ่านแดนเข้า-ออกตามข้อตกลงหยุดยิงที่กำหนดไว้หลังยังมีการปะทะกันเกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้บรรดาเจ้าหน้าที่กัมพูชาและพ่อค้าแม่ค้าประชาชนกัมพูชาที่พากันมารอบริเวณประตูหน้าด่านต้องรอเก้อผิดหวังไปตามๆ กัน ขณะที่ตลาดช่องจอมแม่ค้าบางคนได้ทำการเปิดร้านขายของตามปกติ หลังจากที่มีข่าวว่ามีการเจรจาหยุดยิง


ทหารไทยบาดเจ็บจากการปะทะ เข้าพักรักษาที่ รพ.ค่ายวีรวัฒน์โยธิน จังหวัดทหารบกสุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ วันนี้ ( 29 เม.ย.)










กำลังโหลดความคิดเห็น