บุรีรัมย์ - “ผบช.ภ.3” รุดลงพื้นที่ตรวจสอบ บ.โคกกระชาย ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ถูกเขมรยิงกระสุนปืนใหญ่-จรวด MB -21 ตกอื้อ 24 ลูก บ้านเรือนปชช.พังหลายหลัง ชาวบ้านเจ็บ 4 ราย พร้อมเยี่ยมให้กำลังใจตำรวจ กำชับร่วม อส.-ชรบ.ดูแลความปลอดภัย พร้อมสั่งสร้างหลุมหลบภัยใน สภ.โคกกระชายเพิ่ม ขณะที่ศูนย์อพยพบุรีรัมย์พุ่ง 8,000 คน
วันนี้ (27 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่ สภ.โคกกระชาย ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) พร้อมคณะ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ที่ สภ.โคกกระชาย อ.บ้านกรวด และดูแลรักษาความปลอดภัยให้ราษฎรในหมู่บ้าน หลังจากที่เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (26 เม.ย.) จนถึงช่วงค่ำ ทหารกัมพูชาได้ยิงกระสุนปืนใหญ่มาตกลงตามจุดต่างๆในหมู่บ้านในพื้นที่ อ.บ้านกรวด ถึง 24 ลูก และมี 6 ลูกตกกลางหมู่บ้านโคกกระชาย หมู่ 13 ต.สายตะกู ทำให้ชาวบ้านถูกสะเก็ดระเบิดบาดเจ็บ 4 ราย บ้านเรือนราษฎร ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิด 2 หลัง และวัวถูกสะเก็ดระเบิดตาย 1 ตัว
ในจำนวนนี้มีกระสุนปืนใหญ่ชนิดหัวจรวด MB-21 จำนวน 3 ลูกตกห่างจาก สภ.โคกกระชาย เพียง 400 เมตร ซึ่งคาดว่า สภ.โคกกระชายอาจเป็นหนึ่งในเป้าหมายการโจมตีเพราะถือเป็นจุดยุทธศาสตร์
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเก็บเศษลูกกระสุนปืนใหญ่และหัวจรวดที่ยังไม่ระเบิดมาไว้ เพื่อส่งตรวจสอบด้วย พร้อมกันนี้ ได้มีการร่วมประชุมประเมินสถานการณ์ วางแผนเพื่อเตรียมพร้อมในการดูแลรักษาความปลอดภัยแก่ชาวบ้านในหมู่บ้าน และมอบอาหารแห้งแก่กำลังตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่
นอกจากนี้ ผบช.ภ.3 ยังได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายในหมู่บ้านที่ถูกกระสุนปืนใหญ่ตกใส่ ทำให้บ้านเรือนชาวบ้านเสียหายหลายหลัง และมีชาวบ้านถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บ 4 ราย
พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผบช.ภ.3 กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายจากกระสุนปืนใหญ่ตกในหมู่บ้านและเยี่ยม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกกระชาย อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ว่า หลังจากที่มีอาวุธหนักจากฝ่ายทหารกัมพูชาตกลงหลายจุดของหมู่บ้าน ในเขตพื้นที่ ต.สายตะกู โดยเฉพาะจุดใกล้กับ สภ.โคกกระชาย จึงได้ลงมาตรวจสอบความเสียหายพร้อมประเมินสถานการณ์และให้กำลังใจกำลังตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ พร้อมได้สั่งการให้เร่งทำหลุมหลบภัยภายใน สภ.โคกกระชาย เพิ่มขึ้นอีกจากที่มีอยู่เดิมเพียง 1 หลุมเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของกำลังตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่
นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับ อส. และชุด ชรบ.ประจำหมู่บ้าน ในการอออกลาดตระเวน เพื่อดูแลความปลอดภัยทั้งในชีวิตและทรัพย์สินของชาวบ้านในหมู่บ้านอีกด้วย
“ขอเตือนพี่น้องประชาชนตามหมู่บ้านต่างๆ แนวชายแดนทั้งด้าน จ.สุรินทร์ และ จ.บุรีรัมย์ หากเจอวัตถุต้องสังสัยคล้ายวัตถุระเบิด ที่มีการระเบิดแล้วหรือไม่ก็ตาม ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบก่อนทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัย เพราะหากว่าวัตถุนั้นยังไม่มีระเบิดหรือทำลาย อาจทำให้ประชาชนได้รับอันตรายได้” พล.ท.เดชาวัต กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด วันนี้ ( 27 เม.ย.) มีชาวบ้านที่อยู่ในศูนย์อพยพใน อ.บ้านกรวด ทั้ง 6 ศูนย์รวมเป็นจำนวนมากกว่า 8,000 คน บางส่วนเกิดความหวาดกลัวเกรงไม่ปลอดภัยในชีวิต จึงได้ขอย้ายเข้ามาพักอาศัยอยู่ที่ศูนย์อพยพชั่วคราว ใน อ.ประโคนชัย ที่ตั้งขึ้นใหม่อีก 2 ศูนย์ แล้วกว่า 600 คน เพราะเชื่อว่าจะได้รับความปลอดภัย เนื่องจากศูนย์อพยพใน อ.ประโคนชัยดังกล่าวอยู่ห่างจากชายแดน หรือพื้นที่ที่มีการสู้รบกันประมาณ 30 กิโลเมตร
อย่างไรก็ตาม หากทั้ง 2 ศูนย์ที่ได้จัดเตรียมไว้ไม่เพียงพอ ทางอำเภอก็ได้มีการจัดเตรียมสถานที่เปิดศูนย์อพยพไว้รองรับผู้ลี้ภัยเพิ่มอีก 4 ศูนย์
ทางด้าน นางโสภา จะรองรัมย์ หนึ่งในผู้อพยพมาอยู่ที่ศูนย์วัดจำปา กล่าว่า ตนและลูกได้ขอย้ายมาจากศูนย์อพยพโรงเรียนบ้านโนนเจริญ เนื่องจากไม่มั่นใจในสถานการณ์ เพราะเกรงกระสุนปืนจะมาตกในหมู่บ้าน และศูนย์อพยพ ซึ่งอาจทำให้ตนและลูกเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ แต่ตนยังเป็นห่วงบ้านทรัพย์สิน เป็ด ไก่ วัว ควาย และสามีที่ยังอยู่ที่บ้าน แต่จำเป็นต้องย้ายมาเพื่อความปลอดภัยในชีวิต จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลทั้งสองฝ่าย ได้เจรจาหยุดยิงโดยเร็ว เพื่อประชาชนจะได้กลับไปใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเช่นที่ผ่านมา