ศพทหารกล้าพลีชีพเหตุปะทะชายแดนเขมร ถึงบ้านเกิดศรีสะเกษแล้ว

ศรีสะเกษ - ศพ “จ.ส.อ.วิทยะ สวนชูผล” ทหารกล้าพลีชีพเหตุปะทะชายแดนสุรินทร์ ถึงบ้านเกิดศรีสะเกษแล้ว พ่อแม่ลูกเมียร่ำไห้แต่ภาคภูมิใจสละชีพปกป้องอธิปไตยของชาติไทย ขณะ ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษเผยสำนักพระราชวังมอบหมายให้เป็นผู้แทนพระองค์อัญเชิญพวงมาลาในหลวง-ราชินี รวมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ พระราชทานวางหน้าศพทหารกล้า

วันนี้ ( 23 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่วัดนิคมศิลาราม ต.หมากเขียบ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ คณะนายทหารสังกัดกองกำลังสุรนารี จ.สุรินทร์ ได้นำศพของ จ.ส.อ.วิทยะ สวนชูผล อายุ 46 ปี สังกัดกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 6 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ซึ่งเสียชีวิตจากการสู้รบระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาที่บริเวณปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม ชายแดนไทย - กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ กลับมาตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดแล้ว

โดยเมื่อขบวนรถเคลื่อนศพเข้ามาถึงวัด ได้มีบรรดานายทหารและกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก องค์การบริหารส่วนตำบล (นายก อบต.) และ สมาชิก อบต.หมากเขียบ พากันมาตั้งแถวกองเกียรติยศต้อนรับอย่างสมเกียรติ โดยมีนายถวิล สวนชูผล อายุ 81 ปี นางพุฒ สวนชูผล อายุ 76 ปี และนางทองสุข สวนชูผล อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นพ่อแม่และเมียรวมทั้งญาติพี่น้องของ จ.ส.อ.วิทยะ พากันมารอต้อนรับอย่างคับคั่ง ด้วยบรรยากาศที่เศร้าสลดเสียใจ

นางทองสุข สวนชูผล อายุ 43 ปี ภรรยาของ จ.ส.อ.วิทยะ สวนชูผล กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า เสียใจที่สามีด่วนจากไป ตนคิดอยู่เสมอว่าสักวันหนึ่งเหตุการณ์เช่นนี้จะต้องมาถึงจนได้ เพราะคนที่เป็นเมียทหารทุกคนต้องพร้อมที่จะรับสถานการณ์เหตุการณ์ที่ต้องสูญเสียผู้นำของครอบครัวเช่นนี้อยู่แล้ว แต่มีความภาคภูมิใจที่สามีสละชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ

อย่างไรไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ตนมีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตเป็นผู้ชาย เป็นทหารเหมือนพ่อ ชื่อ ส.ท.ขวัญชาติ สวนชูผล สังกัดกองพันทหารม้าที่จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันนี้ไปช่วยราชการที่ จ.เชียงราย ส่วนลูกสาวเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 (ม.6) ซึ่งลูกชายเป็นทหารเหมือนพ่อ ตนเป็นแม่ก็เป็นห่วงลูกชายแต่ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร ส่วนกำหนดการพิธีพระราชเพลิงศพนั้น คาดว่าจะเป็นวันที่ 28 เม.ย.นี้ แต่อย่างไรก็ตามคงต้องรอกำหนดการที่ชัดเจนจากกองทัพภาคที่ 2 ที่จะพิจารณากำหนดเวลาที่แน่นอน

นางพุฒ สวนชูผล อายุ 76 ปี แม่ของ จ.ส.อ.วิทยะ กล่าวว่า รู้สึกเสียใจมากที่ลูกชายซึ่งเป็นเสาหลักในการหาเลี้ยงครอบครัวต้องจากไปก่อนวัยอันควร จ.ส.อ.วิทยะเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ รักครอบครัวญาติพี่น้อง และส่งเงินมาให้ตนไว้ใช้ในครอบครัวเป็นประจำทุกเดือน ซึ่งจ.ส.อ.วิทยะพูดกับตนเสมอว่า พ่อแม่เลี้ยงมาตั้งแต่เกิดแล้ว ถึงตอนนี้ก็จะเลี้ยงพ่อแม่เป็นการตอบแทนพระคุณ ขณะที่นายถวิล ผู้เป็นพ่อเองก็เศร้าเสียใจมาก เพราะจ.ส.อ.วิทยะเป็นความภาคภูมิใจของครอบครัวญาติพี่น้องทุกคนเป็นอย่างมาก

ทางด้าน นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า รู้สึกเสียใจมากที่ จ.ส.อ.วิทยะ ซึ่งเป็นชาวศรีสะเกษต้องเสียชีวิตจากการปะทะกันกับทหารกัมพูชาในครั้งนี้ และในวันนี้ (23 เม.ย.54) เวลา 19.00 น. ตนได้รับการประสานงานจากสำนักพระราชวังให้เป็นผู้แทนพระองค์อัญเชิญพวงมาลาพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ไปวางที่หน้าโลงศพของทหารกล้าชาวศรีสะเกษ รวมทั้งจะได้เป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพในวันเดียวกันนี้ด้วย