สุรินทร์ - พระราชทานเพลิงศพ “ทพ.สมคิด โสมศรี” พลีชีพปกป้องอธิปไตยไทยชายแดนสุรินทร์ อย่างสมเกียรติ “ผบ.ทบ.” ย้ำต้องติดตามสถานการณ์ชายแดนสุรินทร์ใกล้ชิด หลัง มทภ.2 กับแม่ทัพเขมร เจรจาตกลงหยุดยิง คาดสถานการณ์คลี่คลาย แต่หากเขมรยังยิงเข้ามาก่อนไทยพร้อมตอบโต้
วันนี้ (28 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.49 น. ที่วัดจุมพลสุทธาวาส อ.เมือง จ.สุรินทร์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) สมคิด โสมศรี ทหารกล้าที่พลีชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยไทย จากเหตุการณ์สู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ โดยมีนายเสริม ไชยณรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์นายทหารชั้นผู้ใหญ่ พร้อมด้วยข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ประชาชนและครอบครัวญาติพี่น้องร่วมพิธีจำนวนมาก
สำหรับ อส.ทพ.สมคิด โสมศรี อายุ 46 ปีสังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 2207 กรมทหารพรานที่ 26 กองพลทหารราบที่ 6 ภูมิลำเนา อยู่หมู่ที่ 8 บ.สกล ต.ตะเคียน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ภรรยาชื่อ นางประจวบ โสมศรี มีบุตร 4 คน เสียชีวิตจากเหตุการณ์ปะทะของทหารไทย กับทหารกัมพูชา ที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา ถึงแม้เป็นพลเรือนที่สมัครเป็นทหารพรานมารับใช้ชาติ แต่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญ จนสิ้นชีพ นับเป็นวีรกรรมอันกล้าหาญ และสมควรได้รับการยกย่องเพื่อเชิดชูเพื่อเกียรติยศชื่อเสียงแก่วงศ์ตระกูลและเป็นแบบอย่างแก่ชาวไทยและอนุชนรุ่นหลังได้รำลึกถึง
ทั้งนี้ ศพ อส.ทพ.สมคิด โสมศรี ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองศ์ พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อช่วยเหลือครอบครัว รวมทั้งพระราชทาน พวงมาลาพระราชทาน และพวงมาลาประทาน ประดับหน้าหีบศพและประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพอย่างสมเกียรติ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เปิดเผยถึงสถานการณ์สู้รบระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ ล่าสุดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ของไทยเรา ได้มีการติดต่อพูดคุยกับ ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชา หลังจากเกิดการยิงปะทะกันเมื่อเช้านี้ (28 เม.ย.) เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ปะทะขึ้นมาอีกและให้กลับไปสู่สภาพปกติโดยเร็ว ซึ่งหากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ จะส่งผลกระทบทำให้เกิดการบาดเจ็บและสูญเสียของประชาชนทั้งสองฝ่าย
โดยตกลงว่าจะไม่มีการยิงกันอีกในช่วงตั้งแต่หลังเที่ยงวันนี้ถึงเช้าวันพรุ่งนี้ พร้อมให้จัดเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายมาเฝ้าระวังดูแลตามแนวเขตชายแดน ทั้งนี้ ต้องติดตามสถานการณ์ หากไม่มีการยิงปะทะกันอีก เหตุการณ์น่าจะคลี่คลายลง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่ากองทัพไทย จะไม่มีการยิงก่อนอย่างแน่นอน หากกัมพูชายังมีการยิงปืนเข้ามาก็ต้องโต้ตอบตามความเหมาะสม และต้องทำทุกวิถีทางเพื่อหาทางเจรจากันให้ต่อไป