ศรีสะเกษ - ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ เป็นผู้ทำหน้าที่แทนพระองค์อัญเชิญพวงมาลาพระราชทาน “ในหลวง-ราชินี” พร้อมพระบรมวงศานุวงศ์ วางหน้าหีบศพทหารกล้าพลีชีพปกป้องแผ่นดินไทย ชายแดนจังหวัดสุรินทร์ เผยกำหนดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 27 เม.ย.นี้ ผู้ว่าฯ มั่นใจเขมรไม่เปิดฉากปะทะเพิ่มด้านชายแดนเขาพระวิหาร
วันนี้ (23 เม.ย.) เมื่อเวลา 20.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดนิคมศิลาราม ต.หมากเขียบ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้เป็นผู้ทำหน้าที่แทนพระองค์ในพิธีอัญเชิญพวงมาลาพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ จำนวน 12 พวง อัญเชิญไปวางหน้าหีบศพของ จ.ส.อ.วิทยะ สวนชูผล อายุ 46 ปี สังกัดกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 6 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ช่วยราชการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 จ.สุรินทร์ ที่เสียชีวิตจากการสู้รบระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาที่บริเวณปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์
หลังจากประกอบพิธีอัญเชิญพวงมาลาวางหน้าหีบศพเรียบร้อยแล้ว ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ พร้อมด้วย รองผู้ว่าฯศรีสะเกษ, พล.ท.จักรกฤษณ์ เงินดี ผู้บังคับกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 6 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี และข้าราชการ พ่อค้าประชาชนชาวศรีสะเกษ ได้เป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพ จ.ส.อ.วิทยะ สวนชูผล โดยมีนางทองสุข สวนชูผล อายุ 43 ปี ภรรยาของ จ.ส.อ.วิทยะ พร้อมด้วย พ่อแม่ ญาติพี่น้องให้การต้อนรับและร่วมพิธี ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้า โดยมีการกำหนดพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 27 เม.ย. นี้
นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า จากการที่ได้ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาด้านปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งมีข่าวว่าอาจมีการขยายแนวรบมายังบริเวณเขาพระวิหาร ด้าน จ.ศรีสะเกษ ได้รับการยืนยันจากนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพภาคที่ 2 ว่า จะไม่มีการขยายแนวรบมายังเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ แต่อย่างใด เนื่องจากบริเวณด้านปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม เป็นพื้นที่ที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งบริเวณด้านเขาพระวิหารทหารไทยกับทหารกัมพูชามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันและมีการพบปะหารือ รวมทั้งมีการแข่งขันกีฬาเชื่อมสัมพันธไมตรีกันเป็นประจำ
จึงขอฝากไปถึงประชาชนชาวศรีสะเกษที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ขณะนี้สถานการณ์ตามแนวชายแดนด้าน จ.ศรีสะเกษ ยังคงปกติทุกอย่าง และจะไม่มีการสู้รบกันเกิดขึ้นที่บริเวณเขาพระวิหาร แต่อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ศรีสะเกษ ได้ติดตามเฝ้าฟังข่าวสารของทางราชการ ซึ่งหากเกิดมีการสู้รบกันขึ้นมา ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องพร้อมที่จะอพยพประชาชนไปอยู่ในที่ปลอดภัยได้อย่างทันท่วงทีเนื่องจากมีการวางแผนการอพยพเอาไว้เรียบร้อยหมดแล้ว
