ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ยันเชียงใหม่ ยังไร้วิกฤตหมอกควัน ย้ำไม่มี Hot Spot เกินค่าเฉลี่ยโผล่ให้เห็นแม้แต่วันเดียว ขณะที่คุณภาพอากาศทั่วภาคเหนือ ยืนอยู่ในระดับดีปานกลาง ขณะที่สถิติไฟป่า ลดลงถึง 70% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
นายชูชาติ กีฬาแปง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ผลการรณรงค์สร้างความตระหนักแก่ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควัน รวมถึงสภาพอากาศที่มีฝนตกลงมาหลายพื้นที่ของเชียงใหม่ ทำให้ปีนี้ปลอดจากปัญหาหมอกควัน โดยไม่มีจำนวน Hot spot เกินค่าเฉลี่ยแม้แต่วันเดียว แต่อย่างไรก็ตาม จังหวัดเชียงใหม่ก็ยังคงเฝ้าระวังโดยมีการจัดประชุมหน่วยงานระดับจังหวัดร่วมกับทุกอำเภอผ่านระดับ VDO Conference ทุกบ่ายวันพุธ เพื่อติดตามสถานการณ์และการดำเนินการขับเคลื่อนให้วาระจังหวัดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านนายสัญญา ทุมตะขบ ผู้แทนสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ ได้รายงานสถานการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน (PM10) ว่า ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือ ในวันที่ 18 เมษายน 2554 พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 31.2-78.3 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับดีถึงปานกลาง
ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ มีผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศที่สถานีศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2554 มีค่าเฉลี่ย 57.3 ไม่โครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ทั้งนี้กรมควบคุมมลพิษ ได้ดำเนินการพยากรณ์เตือนภัยมลภาวะหมอกควันสำหรับภาคเหนือตอนบนของประเทศไทยโดยสามารถดูรายละเอียดได้ที่ http://aqnis.pcd.go.th/project/northernhaze2554/
“สำหรับปัญหาการเกิดไฟป่าพบการเกิดเหตุน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ 70”
ด้านผู้แทนสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ รายงานว่า ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมามีกรณีร้องเรียนการเผากิ่งไม้ในสวน 2 ครั้ง ส่วนการร้องเรียนตั้งแต่เริ่มเก็บสถิติในเดือนธันวาคม 2553 จนถึงปัจจุบันมีการร้องเรียนรวม 54 ครั้ง
ผู้แทนปกครองจังหวัดเชียงใหม่ รายงานการปฏิบัติการ โดยมีการตั้งชุดปฏิบัติการประจำตำบลเพื่อเตรียมเข้าระงับเหตุ มีการประชาสัมพันธ์สร้างความตระหนักในการป้องกันทางเสียงตามสาย หอกระจายข่าว ส่วนผู้แทนสำนักงานส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่ รายงานว่าได้มีการเฝ้าระวังปัญหาหมอกควัน และไฟป่าอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของการกำจัดวัชพืช ขยะ หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นได้จัดซื้อเครื่องย่อยสลายแล้ว 57 แห่ง จำนวน 97 เครื่อง
สำหรับหมู่บ้านและตำบลที่เหลือจะเร่งรัดจัดซื้อเพื่อให้เป็นทางเลือกในการกำจัดขยะของแต่ละชุมชนต่อไป
ในส่วนของตัวแทนทั้ง 25 อำเภอ รายงานว่า ที่ผ่านมาไม่พบปัญหาไฟป่าและสถานการณ์หมอกควันที่มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน (PM10) เกินมาตรฐานแม้แต่วันเดียว แต่ยังคงเฝ้าระวังโดยมีการประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน และติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้พบว่าหลายอำเภอประสบปัญหาวาตภัยจากพายุฤดูร้อน ทำให้บ้านเรือนและพืชผลทางการเกษตรของประชาชนได้รับความเสียหาย ทั้งนี้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ได้ให้การช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตามได้มอบหมายให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ติดตามสถานการณ์ดินฟ้าอากาศและพายุฤดูร้อนอย่างใกล้ชิด หากพบการเกิดเหตุให้รายงานจังหวัดทราบโดยด่วน เพื่อประกาศให้เป็นพื้นที่ภัยพิบัติและพิจารณาอนุมัติงบประมาณมาดำเนินการช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที ทั้งนี้ให้ประสานขอความช่วยเหลือจากป้องกันจังหวัดเชียงใหม่
ส่วนการเตรียมการรับภัยแล้ง ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดหาถังเก็บน้ำกลาง ขนาดความจุใบละ 2,000 ลิตร จำนวน 1,800 ใบ เพื่อแจกจ่ายให้หมู่บ้านที่เสนอความต้องการนำไปติดตั้งไว้ที่ศูนย์กลางหมู่บ้าน/ชุมชน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนทุกคนในแต่ละพื้นที่ไปรับการช่วยเหลือต่อไป
นายชูชาติ กีฬาแปง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ผลการรณรงค์สร้างความตระหนักแก่ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควัน รวมถึงสภาพอากาศที่มีฝนตกลงมาหลายพื้นที่ของเชียงใหม่ ทำให้ปีนี้ปลอดจากปัญหาหมอกควัน โดยไม่มีจำนวน Hot spot เกินค่าเฉลี่ยแม้แต่วันเดียว แต่อย่างไรก็ตาม จังหวัดเชียงใหม่ก็ยังคงเฝ้าระวังโดยมีการจัดประชุมหน่วยงานระดับจังหวัดร่วมกับทุกอำเภอผ่านระดับ VDO Conference ทุกบ่ายวันพุธ เพื่อติดตามสถานการณ์และการดำเนินการขับเคลื่อนให้วาระจังหวัดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านนายสัญญา ทุมตะขบ ผู้แทนสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ ได้รายงานสถานการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน (PM10) ว่า ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือ ในวันที่ 18 เมษายน 2554 พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 31.2-78.3 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับดีถึงปานกลาง
ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ มีผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศที่สถานีศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2554 มีค่าเฉลี่ย 57.3 ไม่โครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ทั้งนี้กรมควบคุมมลพิษ ได้ดำเนินการพยากรณ์เตือนภัยมลภาวะหมอกควันสำหรับภาคเหนือตอนบนของประเทศไทยโดยสามารถดูรายละเอียดได้ที่ http://aqnis.pcd.go.th/project/northernhaze2554/
“สำหรับปัญหาการเกิดไฟป่าพบการเกิดเหตุน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ 70”
ด้านผู้แทนสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ รายงานว่า ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมามีกรณีร้องเรียนการเผากิ่งไม้ในสวน 2 ครั้ง ส่วนการร้องเรียนตั้งแต่เริ่มเก็บสถิติในเดือนธันวาคม 2553 จนถึงปัจจุบันมีการร้องเรียนรวม 54 ครั้ง
ผู้แทนปกครองจังหวัดเชียงใหม่ รายงานการปฏิบัติการ โดยมีการตั้งชุดปฏิบัติการประจำตำบลเพื่อเตรียมเข้าระงับเหตุ มีการประชาสัมพันธ์สร้างความตระหนักในการป้องกันทางเสียงตามสาย หอกระจายข่าว ส่วนผู้แทนสำนักงานส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่ รายงานว่าได้มีการเฝ้าระวังปัญหาหมอกควัน และไฟป่าอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของการกำจัดวัชพืช ขยะ หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นได้จัดซื้อเครื่องย่อยสลายแล้ว 57 แห่ง จำนวน 97 เครื่อง
สำหรับหมู่บ้านและตำบลที่เหลือจะเร่งรัดจัดซื้อเพื่อให้เป็นทางเลือกในการกำจัดขยะของแต่ละชุมชนต่อไป
ในส่วนของตัวแทนทั้ง 25 อำเภอ รายงานว่า ที่ผ่านมาไม่พบปัญหาไฟป่าและสถานการณ์หมอกควันที่มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน (PM10) เกินมาตรฐานแม้แต่วันเดียว แต่ยังคงเฝ้าระวังโดยมีการประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน และติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้พบว่าหลายอำเภอประสบปัญหาวาตภัยจากพายุฤดูร้อน ทำให้บ้านเรือนและพืชผลทางการเกษตรของประชาชนได้รับความเสียหาย ทั้งนี้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ได้ให้การช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตามได้มอบหมายให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ติดตามสถานการณ์ดินฟ้าอากาศและพายุฤดูร้อนอย่างใกล้ชิด หากพบการเกิดเหตุให้รายงานจังหวัดทราบโดยด่วน เพื่อประกาศให้เป็นพื้นที่ภัยพิบัติและพิจารณาอนุมัติงบประมาณมาดำเนินการช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที ทั้งนี้ให้ประสานขอความช่วยเหลือจากป้องกันจังหวัดเชียงใหม่
ส่วนการเตรียมการรับภัยแล้ง ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดหาถังเก็บน้ำกลาง ขนาดความจุใบละ 2,000 ลิตร จำนวน 1,800 ใบ เพื่อแจกจ่ายให้หมู่บ้านที่เสนอความต้องการนำไปติดตั้งไว้ที่ศูนย์กลางหมู่บ้าน/ชุมชน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนทุกคนในแต่ละพื้นที่ไปรับการช่วยเหลือต่อไป
