ศูนย์ข่าวเชียงใหม่- เชียงใหม่ย้ำบรรยากาศสงกรานต์ยังน่าท่องเที่ยว ไร้ปัญหาหมอกควันไฟป่าและคุณภาพอากาศกระทบ เผยการรณรงค์ลดการเผาและป้องกันไฟป่าในช่วงที่ผ่านมาได้ผลดี จนยังไม่มีวันที่ค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน อย่างไรก็ตามเตือนอย่างเพิ่งวางใจต้องจับตาดูสถานการณ์ใกล้ชิดตลอดเดือนเม.ย.นี้ หวั่นมีการเผาเพิ่มเพราะอากาศแห้ง
นายบรรพต คันธเสน ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงสถานการณ์ปัญหาหมอกควัน และผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าของจังหวัดเชียงใหม่ว่า จังหวัดเชียงใหม่ได้มีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่ามาตั้งแต่เดือนต.ค. 2553 เป็นต้นมา พร้อมทั้งเปิดศูนย์รับแจ้งเหตุการเผาและมลพิษทางอากาศทางหมายเลขโทรศัพท์ 05-3409-345 ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจนถึงเวลานี้มีการแจ้งเหตุเข้ามา 51 ครั้ง น้อยกว่าปีที่ผ่านมา
ขณะที่การดำเนินการในการป้องกันและแก้ไขปัญหา นอกจากการประกาศให้การป้องกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นวาระของจังหวัดเชียงใหม่ที่รณรงค์ในการป้องกันแก้ไขปัญหาร่วมกันทั้งพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน มีการประชุมติดตามสถานการณ์จากทั้ง 25 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่เป็นประจำทุกสัปดาห์แล้ว ยังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร อาสาสมัคร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้นำชุมชนท้องถิ่นในการออกตรวจตราและรณรงค์ลดการเผาด้วย เช่น จัดชุดปฏิบัติการตำบล ออกตรวจกว่า 1,700 ครั้ง ใน618 หมู่บ้าน 66 ตำบล การรณรงค์อบรมทำปุ๋ยหมักจากเศษวัสดุเหลือใช้ การจัดอาสาสมัครป้องกันไฟป่าและ ทำแนวกันไฟ การจัดตั้งเครือข่ายเกษตรกรงดเว้นการเผาวัชพืชทางการเกษตร ใน 482 หมู่บ้าน 47 ตำบล เป็นต้น
จากการดำเนินการดังกล่าว เบื้องต้นพบว่าเป็นผลทำให้สถิติการเผาในพื้นที่ป่าลดลง โดยมีการปฏิบัติการดับไฟป่าของหน่วยดับไฟป่าในท้องที่จังหวัดเชียงใหม่และลำพูน 474 ครั้ง พื้นที่เสียหาย 2,947 ไร่ ลดลงจากปีก่อนหน้าที่มีจำนวน 1,728 ครั้ง พื้นที่เสียหาย 1,728 ไร่ ซึ่งสถิติการเกิดไฟป่าลดลงกว่าร้อยละ 70นอกจากนี้คุณภาพอากาศยังถือว่าดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนด้วย เห็นได้จากการที่ตลอดช่วงที่ผ่านมาของปีนี้ยังไม่มีวันใดที่ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 เกินค่ามาตรฐานเลย
อย่างไรก็ตาม แม้สถานการณ์ปัญหาจะยังไม่เข้าสู่ระดับวิกฤต เนื่องจากในช่วงเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา มีฝนตกลงมาเป็นช่วงๆ ทำให้การเผาในพื้นที่ต่างๆ ลดลง แต่ในช่วงเดือนเมษายนนี้ ยังคงมีความจำเป็นที่จะต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องต่อไป เพราะเป็นช่วงที่สภาพอากาศแห้ง และคาดว่าจะมีการเผาในที่โล่งในบางพื้นที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ยืนยันว่าในช่วงสงกรานต์ จะไม่มีปัญหาหมอกควันมาส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวแต่อย่างใด โดยที่จังหวัดเชียงใหม่ได้มีการเตรียมความพร้อมต่างๆ ไว้สำหรับการดูแลประชาชนและนักท่องเที่ยวแล้ว
นายบรรพต คันธเสน ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงสถานการณ์ปัญหาหมอกควัน และผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าของจังหวัดเชียงใหม่ว่า จังหวัดเชียงใหม่ได้มีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่ามาตั้งแต่เดือนต.ค. 2553 เป็นต้นมา พร้อมทั้งเปิดศูนย์รับแจ้งเหตุการเผาและมลพิษทางอากาศทางหมายเลขโทรศัพท์ 05-3409-345 ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจนถึงเวลานี้มีการแจ้งเหตุเข้ามา 51 ครั้ง น้อยกว่าปีที่ผ่านมา
ขณะที่การดำเนินการในการป้องกันและแก้ไขปัญหา นอกจากการประกาศให้การป้องกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นวาระของจังหวัดเชียงใหม่ที่รณรงค์ในการป้องกันแก้ไขปัญหาร่วมกันทั้งพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน มีการประชุมติดตามสถานการณ์จากทั้ง 25 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่เป็นประจำทุกสัปดาห์แล้ว ยังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร อาสาสมัคร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้นำชุมชนท้องถิ่นในการออกตรวจตราและรณรงค์ลดการเผาด้วย เช่น จัดชุดปฏิบัติการตำบล ออกตรวจกว่า 1,700 ครั้ง ใน618 หมู่บ้าน 66 ตำบล การรณรงค์อบรมทำปุ๋ยหมักจากเศษวัสดุเหลือใช้ การจัดอาสาสมัครป้องกันไฟป่าและ ทำแนวกันไฟ การจัดตั้งเครือข่ายเกษตรกรงดเว้นการเผาวัชพืชทางการเกษตร ใน 482 หมู่บ้าน 47 ตำบล เป็นต้น
จากการดำเนินการดังกล่าว เบื้องต้นพบว่าเป็นผลทำให้สถิติการเผาในพื้นที่ป่าลดลง โดยมีการปฏิบัติการดับไฟป่าของหน่วยดับไฟป่าในท้องที่จังหวัดเชียงใหม่และลำพูน 474 ครั้ง พื้นที่เสียหาย 2,947 ไร่ ลดลงจากปีก่อนหน้าที่มีจำนวน 1,728 ครั้ง พื้นที่เสียหาย 1,728 ไร่ ซึ่งสถิติการเกิดไฟป่าลดลงกว่าร้อยละ 70นอกจากนี้คุณภาพอากาศยังถือว่าดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนด้วย เห็นได้จากการที่ตลอดช่วงที่ผ่านมาของปีนี้ยังไม่มีวันใดที่ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 เกินค่ามาตรฐานเลย
อย่างไรก็ตาม แม้สถานการณ์ปัญหาจะยังไม่เข้าสู่ระดับวิกฤต เนื่องจากในช่วงเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา มีฝนตกลงมาเป็นช่วงๆ ทำให้การเผาในพื้นที่ต่างๆ ลดลง แต่ในช่วงเดือนเมษายนนี้ ยังคงมีความจำเป็นที่จะต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องต่อไป เพราะเป็นช่วงที่สภาพอากาศแห้ง และคาดว่าจะมีการเผาในที่โล่งในบางพื้นที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ยืนยันว่าในช่วงสงกรานต์ จะไม่มีปัญหาหมอกควันมาส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวแต่อย่างใด โดยที่จังหวัดเชียงใหม่ได้มีการเตรียมความพร้อมต่างๆ ไว้สำหรับการดูแลประชาชนและนักท่องเที่ยวแล้ว