xs
xsm
sm
md
lg

ทีมสัตวแพทย์-จนท.อุทยานฯ กุยบุรีย้ายลูกช้างป่าติดหล่มเข้าเอกซเรย์ รพ.สัตว์ ม.เกษตรศาสตร์ หัวหิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ประจวบคีรีขันธ์- ทีมสัตว์แพทย์ปศุสัตว์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง ราชบุรี เจ้าหน้าที่อุทยานฯกุยบุรี ยังคงเฝ้าติดตามรักษาลูกช้างป่าที่ติดหล่มในป่ากุยบุรี ตลอด 24 ชม.ล่าสุดwfhเคลื่อนย้ายลูกช้างป่าไปเอกซเรย์ที่ รพ.สัตว์ ม.เกษตรศาสตร์ ที่หัวหิน เพื่อดูว่าบริเวณขาหลังและกระดูกหักหรือไม่ ที่เป็นสาเหตุทำให้ลูกช้างป่าไม่สามารถลูกขึ้นยืนได้

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีลูกช้างป่าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี อายุประมาณ 1 เดือนเศษเพศผู้ได้ติดหล่มในพื้นที่ป่าลึกเป็นเวลานานเกือบสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.54 ที่ผ่านมา จนชาวบ้านที่เข้าไปหาผักกูดไปพบเข้าและมาแจ้งเจ้าหน้าที่อุทยานฯกุยบุรีให้ได้รับทราบและไปช่วยเหลือและนำลูกช้างป่ากลับมารักษาที่อุทยานฯกุยบุรี

มาจนถึงวันนี้ (5 เม.ย.) เป็นเวลา 6 วันแล้ว ซึ่งเมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมาทางนายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ ปศุสัตวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้จัดส่งนายจามร ศักดินันท์ สัตว์แพทย์ จากสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และยังมีทีมสัตว์แพทย์จากสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง จ.ราชบุรี นำโดยสัตวแพทย์หญิง ลักษณา ประสิทธิ์ชัย และเจ้าหน้าที่อุทยานฯ กุยบุรี ได้พยามเฝ้าติดตามรักษาอาการของลูกช้างป่าตลอด 24 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่อง

รวมไปถึงยังมีเยาวชนจากโรงเรียนกุยบุรีวิทยาที่ให้ความสนใจเข้ามาติดตามจดบันทึกอาการลูกช้างป่า ร่วมกับสัตวแพทย์ นอกจากนั้นยังมีทหารชุดประสานงานโครงการพระราชดำริ บ้านรวมไทย ที่ทราบข่าวเข้ามาติดตามอาการ

โดยทีมสัตวแพทย์ที่ให้การรักษาและติดตามอาการได้ให้น้ำเกลือ ยาปฏิชีวนะ ตลอดจนนำข้าวผสมเกลือ นมผง โปรตีน และยังเริ่มให้กล้วยสุกบด ซึ่งพบว่าลูกช้างป่าเริ่มกินได้มากขึ้น แต่บางวันก็ยังมีอาการไข้ ซึ่งจากสภาพล่าสุดพบว่าลูกช้างป่าพยามที่จะลุกขึ้นเอง แต่ก็ไม่สามารถยืนขึ้นได้เนื่องจากขาซ้ายด้านหลังที่ติดหล่มอยู่นานหลายวัน ยังคงมีบาดแผล ตลอดจนเกิดอาการกดทับ โดยทีมสัตวแพทย์ได้ใช้วิธีการพยามช่วยพยุงให้ลูกช้างยืนขึ้น และพยามช่วยทำกายภาพบำบัด และเปลี่ยนท่านอน

ทีมสัตวแพทย์กล่าวว่า อาการดีขึ้นกว่าวันแรกที่ทำการรักษาเป็นอย่างมาก แต่สิ่งสำคัญคือต้องพยามหาแม่ให้กับลูกช้างป่าตัวนี้โดยเร็ว ซึ่งอาจจะต้องติดต่อประสานงานไปยังจังหวัดสุรินทร์ ที่มีแม่ช้างแต่ทั้งนี้หากจะเคลื่อนย้ายไปที่สุรินทร์ลูกช้างป่าต้องมีอาการแข็งแรงก่อน

นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ ปศุสัตว์จังหวัดประจวบฯ พร้อมทีมสัตวแพทย์ ตลอดจนเจ้าหน้าที่อุทยานฯกุยบุรี ได้มีการปรึกษาและสรุปว่าจะเคลื่อนย้ายลูกช้างป่ามาทำการตรวจเอ็กซเรย์ที่โรงพยาบาลสัตว์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งได้มีการประสานไว้กับทางโรงพยาบาลฯ ฝนเบื้องต้นไว้แล้ว เพื่อจะดูว่าสาเหตุที่ลูกช้างป่ายังลุกขึ้นยืนไม่ได้เกิดจากสาเหตุอะไร จุดไหน และบริเวณส่วนขาด้านหลังและสะโพกมีข้อกระดูกหักหรือไม่อย่างไร เพื่อจะนำผลไปวิเคราะห์เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างถูกต้องต่อไป



กำลังโหลดความคิดเห็น