ตรัง - ตำรวจตรัง สนธิกำลังจับเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ได้ผู้ต้องหา 8 คน พร้อมของกลางมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท อีกทั้งยังพบข้อมูลการรับส่งสินค้ามาจากเรือนจำในภาคกลาง และสงขลา ด้วย
วันนี้ (3 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.ต.สาคร ทองมุณี ผบก.ภ.จว.ตรัง พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศุภวัฒน์ ทับเคลียว ผกก.สภ.เมืองตรัง, พ.ต.ท.ภูมิ บาลทิพย์ รอง ผกก.ปป.สภ.เมืองตรัง, พ.ต.ท.สุรชาติ บุญโรจน์พงศ์ สวป.สภ.เมืองตรัง, พ..ต.ท.ณฐาภพ พงศาปาน สวป.สภ.เมืองตรัง, ร.ต.อ.วริทธิ์ธร ประสิทธิ์ชัยชาญ รอง สวป.สภ.เมืองตรัง, ร.ต.อ.จรัญ โอนิกะ หน.ชปส.ภ.จว.ตรัง, ร.ต.ท.ชาญ ชูยก หน.ชปส.ตชด.435 ตรัง และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง
โดยได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม 7 ผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ สภ.เมืองตรัง ประกอบด้วย นางสาวสุภาพร ปานคง อายุ 26 ปี และ นายสัชฌุกร รอดคืน อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68/1 หมู่ 10 ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นสองสามีภรรยา ซึ่งจับกุมได้เมื่อเวลา 14.00 น.ของวันที่ 1 ก.พ.54 พร้อมของกลางยาบ้า 520 เม็ด และเครื่องกระสุนปืนลูกซอง 7 นัด จากนั้นจึงได้นำตัวมาสอบสวนขยายผล
ต่อมาวันที่ 2 ก.พ.เวลา 03.30 น.เจ้าหน้าที่จึงทำการล่อซื้อยาบ้าจากเครือข่าย ซึ่งเป็นผู้ต้องหารายที่ 3 คือ นายอริยะ หรือ เป็ด เทพนาที อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 ถ.เทศบาล 5 ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง และ นายจิรศักดิ์ หรือ เบียร์ กลิ่นทอง อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 86/1 หมู่ 4 ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง พร้อมยาบ้า 40 เม็ด และรถจักยานยนต์ 1 คัน โดยทำการล่อซื้อและจับกุมได้ที่ริมถนนใต้สะพานลอย ก่อนถึงโรงเรียนตรังวิทยา ถ.ตรัง-นาโยง ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง
จากนั้นเวลา 05.30 น.วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยังขยายผลต่อเนื่องด้วยการติดต่อล่อซื้อยาบ้าจากเป้าหมาย โดยนัดส่งมอบของกัน ณ ห้อง 6 กนกวรรณรีสอร์ท ถ.เลี่ยงเมือง (สามแยกบ้านควน*แยกควนปริง) ต.ควนปริง อ.เมือง จ.ตรัง และสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหารายที่ 5 คือ นายอนุกูล หรือ พิ้งค์ ชัยเดช อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 177 หมู่ 9 ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง พร้อมยาบ้า 20 เม็ด และรถจักรยานยนต์ 1 คัน
และเมื่อเวลา 02.40 น.วันที่ 2 ก.พ.กำลังเจ้าหน้าที่อีกชุดหนึ่งได้วางแผนล่อซื้อยาไอซ์ ที่บริเวณลานจอดรถ อาคารทิพย์จันทาเฮาส์ ถ.ควนคีรี ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง หลังมีการส่งมองของจึงแสดงตัวจับกุมผู้ต้องหารายที่ 6 คือ นายพงษ์ภานุ หรือ ติ๊ก จิตรหลัง อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70/3 หมู่ 4 ต.เกาะสุกร อ.ปะเหลียน จ.ตรัง พร้อมของกลางยาไอซ์ 2 ถุง และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของผู้ต้องหาที่จับกุมได้ และให้การซัดทอดผู้ร่วมขบวนการเป็นทอดๆ ไปนั้น เจ้าหน้าที่จึงวางแผนแบ่งกำลังกันกวาดล้าง จนถึงผู้ค้ารายสำคัญซึ่งเป็นรายใหญ่ ด้วยการล่อซื้อยาไอซ์ 2 ถุง โดยนัดส่งมอบของกันบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 17/3 ถ.โรงเรียน ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง และสามารถจับกุมผู้ต้องหารายที่ 7 และ 8 คือ นายไชยวัฒน์ เทศนอก อายุ 34 ปี และนางพิกุล จิโนทัย อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 94/1 หมู่ 4 ต.เกาะสุกร อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ซึ่งเป็นสองสามีภรรยา
พร้อมของกลาง 11 รายการ คือ ยาบ้า 1,690 เม็ด มูลค่า 25,000 บาท ยาไอซ์ 524.62 กรัม มูลค่า 1,500,000 บาท กัญชาแห้ง 29.13 กรัม มูลค่า 2,000 บาท อาวุธปืนพกสั้นรีวอลเวอร์ ขนาด.38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน 4 นัด และอาวุธปืนออโตเมติก ขนาด 9 ม.ม. 1 กระบอก พร้อมกระสุน 15 นัด เครื่องชั่งยาไอซ์ดิจิตอล 1 เครื่อง และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้แบ่งบรรจุยาเสพติด สมุดบัญชีลูกค้า 5 เล่ม โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง อุปกรณ์การเสพ 3 ชุด ใบแสดงการโอนเงิน 2 ใบ และรถยนต์เก๋งฮอนด้า แจ๊ซ 1 คัน
จากนั้นจึงได้ขยายผลตรวจยึดของกลางอีกจำนวนมาก เช่น รถกระบะ อีซูซุ 1 คัน รถจักรยานยนต์ฮอนด้า 1 คัน โทรทัศน์สีซัมซุง ขนาด 42 นิ้ว 1 เครื่อง เครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 1 เครื่อง เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 2 เครื่อง สมุดเงินฝากธนาคารต่างๆ 11 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 2 ใบ เงินสด 40,000 บาท สร้อยคอทองคำ หนัก 5 บาท 1 เส้น และหนัก 2 บาท 1 เส้น กำไลข้อมือทองคำปลอม 1 วง และแหวนทองคำ 3 วง รวมมูลค่าาของกลางที่ได้จากการขยายผลประมาณ 2,000,000 บาท โดยกล่าวหาว่าร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า, ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
พล.ต.ต.สาคร ทองมุณี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง กล่าวว่า ผู้ต้องหารายที่ 1-6 รับของกลาง คือ ยาเสพติด ทั้งชนิดยาบ้า และยาไอซ์ มาจากนายไชยวัฒน์ หรือดาม เทศนอก ซึ่งเพิ่งพ้นโทษในข้อหาเสพกัญชา และอยู่ระหว่างคุมประพฤติ และจากนางพิกุล จิโนแสง ผู้เป็นภรรยา ซึ่งทั้งสองเป็นผู้ค้ารายใหญ่ โดยรับยาบ้ามาจากเรือนจำแห่งหนึ่งในภาคกลาง และจาก จ.สงขลา ซึ่งผู้ที่อยู่ในเครือข่ายเดียวกับ นายไชยวัฒน์ ล้วนเป็นรายใหญ่ และมีอยู่อีกประมาณ 6 ราย ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ชุดต่างๆ ติดตามพฤติกรรม เพื่อขยายผลจับกุมต่อไป