ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “บรรหาร-ธีระ-สมศักดิ์” ควงแขนประชุมติดตามความคืบหน้างานพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ล่าสุด ได้ 13 ประเทศตอบรับร่วมจัดสวน-จัดกิจกรรม แต่โดนสำนักงบประมาณแนะให้รวบจัดจ้างผู้บริหาร “กิจกรรม-นิทรรศการ” จากคนละเจ้าเป็นเจ้าเดียว ส่งผลยังประมูลไม่ได้ต้องเลื่อนไปอีก 1 เดือน แถมที่ปรึกษาโวยจังหวัดไม่ให้ความร่วมมือ-ไม่เคยโผล่มาประชุม ด้านรมว.แจงกำชับแล้วเวลามีจำกัด เดือนหน้างานที่ยังช้าต้องได้ตามกำหนด
วันนี้ (31 มี.ค.) ที่ห้องประชุมสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ มีการประชุมคณะกรรมการบริหารและจัดการงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติ ราชพฤกษ์ 2554 ครั้งที่ 3/2554 โดย นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานกรรมการเป็นประธานในการประชุม โดยมี นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษา นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษา และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
ในที่ประชุมได้มีการรายงานความก้าวหน้าของการดำเนินการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 โดยได้มีการแจ้งให้ที่ประชุมทราบถึงผลการจัดการประชุมบรรยายสรุปให้เอกอัครราชทูตและอุปทูต เพื่อเชิญชวนให้ประเทศต่างๆ ที่มีความสนใจได้รับทราบและตัดสินใจเข้าร่วมงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ 2554 จัดโดยกรมวิชาการเกษตร ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ ณ ห้องประชุมนราธิป กระทรวงการต่างประเทศ เมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา
โดยผลสืบเนื่องจากการประชุมดังกล่าว ได้มีการตอบรับเข้าร่วมจัดสวนและกิจกรรมอื่นๆ จากประเทศต่างๆ เพิ่มขึ้นเป็น 13 ประเทศ ได้แก่ ซูดาน เคนยา เนปาล อินโดนีเซีย เนเธอร์แลนด์ ตุรกี ภูฏาน จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน อาร์เมเนีย และ ปากีสถาน
สำหรับความคืบหน้าในด้านอื่นๆ นั้น ในส่วนของการปรับปรุงสถานที่ สิ่งก่อสร้าง และการจัดสวนนั้น พบว่ายังล่าช้ากว่ากำหนดการ โดยคาดว่าการก่อสร้างทั้งหมดจะแล้วเสร็จในเดือน ก.ย.2554 ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯได้กำชับให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการ เนื่องจากการจัดงานจะเริ่มขึ้นในวันที่ 9 พ.ย.2554 ทำให้จะเหลือเวลาสำหรับเก็บรายละเอียดของงานและตรวจสอบข้อบกพร่องต่างๆ เพียงหนึ่งเดือนก่อนเริ่มงานเท่านั้น จึงจำเป็นต้องเร่งรัดให้การทำงานเป็นไปตามกำหนดเวลาให้ได้
ส่วนรายการปรับปรุงสถานที่ สิ่งก่อสร้าง และตกแต่งภูมิสถาปัตยกรรมบางส่วนที่ยังต้องรอการขออนุมัติงบประมาณจากรัฐบาลนั้น ประธานที่ปรึกษาได้ให้ความเห็นว่าควรดำเนินการตามขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างควบคู่ไปกับการส่งนายละเอียดให้สำนักงบประมาณพิจารณา ในโครงการที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติกรอบงบประมาณมาแล้วเพื่อไม่ให้ล่าช้า โดยให้กำหนดไว้ว่าจะยังไม่มีการลงนามในสัญญาจนกว่าสำนักงบประมาณจะอนุมัติเงินให้ ส่วนกรณีของโครงการที่ต้องใช้ระยะในการจัดซื้อจัดจ้างนานให้ดำเนินการด้วยวิธีพิเศษ
ด้าน ความคืบหน้าในส่วนของการบริหารจัดการ ประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมนั้น จะมีการจัดการประชุมวิชาการนานาชาติ จำนวน 11 การประชุม อาทิเช่น การประชุมลดสภาวะโลกร้อน การประชุมไหมโลกครั้งที่ 22 การประชุมปรับปรุงพันธุ์พืชครั้งที่ 12 และการประชุมนานาชาติด้านไม้ผล สมุนไพร ผัก กล้วยไม้ เป็นต้น ส่วนการประชุมในประเทศจะมีจำนวนทั้งสิ้น 6 การประชุม นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้รับทราบถึงการที่กรมวิชาการเกษตร และสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) จะเดินไปร่วมประชุม AIPH Spring Meeting 2011 ณ ประเทศเคนยา ในระหว่างวันที่ 3-6 เม.ย.2554 เพื่อรายงานความก้าวหน้าของการเตรียมจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกฯ 2554 ให้คณะกรรมการของ AIPH ทราบ และติดตามการตอบรับรวมทั้งเชิญชวนให้ต่างประเทศเข้าร่วมงานดังกล่าวด้วยอีกทางหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการบริหารจัดการนั้น จากเดิมที่สำนักงบประมาณได้อนุมัติงบประมาณจำนวน 444,891,400 บาท แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ ประชาสัมพันธ์ การจัดกิจกรรม และการจัดนิทรรศการ จำนวน 392,502,100 บาท และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 52,389,300 บาท และกรมวิชาการเกษตรได้เสนอแผนการใช้จ่ายงบประมาณที่ได้รับจัดสรรซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะอนุกรรมการด้านบริหารจัดการฯ และคณะกรรมการบริหารฯ แล้วนั้น ปรากฏว่าสำนักงบประมาณได้แจ้งกรมวิชาการเกษตรว่าควรปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าว โดยควรดำเนินการจัดจ้างผู้บริหารจัดการ การประชาสัมพันธ์ การจัดกิจกรรม กับการจัดกิจนิทรรศการ กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเป็นรายการเดียว จากเดิมที่แยกเป็นสองรายการ ทำให้การประกวดราคาเพื่อจัดจ้างผู้บริหารจัดการ จากเดิมที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน มี.ค.ต้องเลื่อนออกไป
นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาคณะกรรมการ ยังได้แสดงความเห็นถึงความร่วมมือจากทางจังหวัดเชียงใหม่ในการเตรียมการจัดงานดังกล่าว โดยระบุในเชิงตำหนิว่าไม่ได้รับความร่วมมือจากทางจังหวัดเท่าที่ควร ทั้งๆ ที่งานดังกล่าวซึ่งเป็นงานใหญ่ระดับประเทศ และการจัดงานขึ้นก็จะเกิดประโยชน์ต่อจังหวัดเชียงใหม่อย่างมาก โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจซึ่งปัจจุบันถือว่าค่อนข้างย่ำแย่ แต่ในการประชุมที่ผ่านมาแต่ละครั้งมีเพียงตัวแทนจากจังหวัดมาเข้าร่วม ทั้งที่ควรจะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดหรือรองผู้ว่าราชการจังหวัดที่เข้าร่วม
นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงผลกการประชุมในครั้งนี้ ว่า ในส่วนของความคืบหน้าในด้านการปรับปรุงสถานที่ สิ่งก่อสร้าง และการจัดสวนนั้น ได้เร่งรัดให้ทุกฝ่ายที่รับผิดชอบดำเนินการให้ได้ตามกำหนดการ โดยตั้งเป้าไว้ว่าในการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งต่อไปในวันที่ 28 เม.ย.2554 งานต่างๆ ที่ยังล่าช้าอยู่นั้นจะต้องเป็นไปตามกำหนดการ
สำหรับกรณีที่สำนักงบประมาณมีความเห็นให้ทำการจัดจ้างผู้บริหารจัดการ การประชาสัมพันธ์ การจัดกิจกรรม กับการจัดกิจนิทรรศการ กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ เป็นรายการเดียว จากเดิมที่แยกเป็นสองรายการ จนทำให้การประกวดราคาเพื่อจัดจ้างต้องเลื่อนออกไปนั้น รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า คงจะล่าช้าออกไปประมาณ 1 เดือน โดยจะเริ่มทำการจัดซื้อจัดจ้างผ่านระบบอิเล็คทรอนิคส์ได้ในวันที่ 12 เม.ย.นี้
ส่วนกรณีที่ที่ปรึกษาคณะกรรมการแสดงความไม่พอใจที่ไม่ได้รับความร่วมมือจากทางจังหวัดเท่าที่ควรนั้น นายธีระ กล่าวว่า งานดังกล่าวถือเป็นงานใหญ่ระดับนานาชาติ และเป็นวาระพิเศษซึ่งจะส่งผลดีต่อจังหวัดเชียงใหม่ในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว จึงถือเป็นงานที่ไม่เพียงเฉพาะฝ่ายบริหาร แต่ประชาชนทั้งจังหวัดจะต้องร่วมมือร่วมใจกันเพื่อให้งานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
วันนี้ (31 มี.ค.) ที่ห้องประชุมสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ มีการประชุมคณะกรรมการบริหารและจัดการงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติ ราชพฤกษ์ 2554 ครั้งที่ 3/2554 โดย นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานกรรมการเป็นประธานในการประชุม โดยมี นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษา นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษา และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
ในที่ประชุมได้มีการรายงานความก้าวหน้าของการดำเนินการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 โดยได้มีการแจ้งให้ที่ประชุมทราบถึงผลการจัดการประชุมบรรยายสรุปให้เอกอัครราชทูตและอุปทูต เพื่อเชิญชวนให้ประเทศต่างๆ ที่มีความสนใจได้รับทราบและตัดสินใจเข้าร่วมงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ 2554 จัดโดยกรมวิชาการเกษตร ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ ณ ห้องประชุมนราธิป กระทรวงการต่างประเทศ เมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา
โดยผลสืบเนื่องจากการประชุมดังกล่าว ได้มีการตอบรับเข้าร่วมจัดสวนและกิจกรรมอื่นๆ จากประเทศต่างๆ เพิ่มขึ้นเป็น 13 ประเทศ ได้แก่ ซูดาน เคนยา เนปาล อินโดนีเซีย เนเธอร์แลนด์ ตุรกี ภูฏาน จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน อาร์เมเนีย และ ปากีสถาน
สำหรับความคืบหน้าในด้านอื่นๆ นั้น ในส่วนของการปรับปรุงสถานที่ สิ่งก่อสร้าง และการจัดสวนนั้น พบว่ายังล่าช้ากว่ากำหนดการ โดยคาดว่าการก่อสร้างทั้งหมดจะแล้วเสร็จในเดือน ก.ย.2554 ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯได้กำชับให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการ เนื่องจากการจัดงานจะเริ่มขึ้นในวันที่ 9 พ.ย.2554 ทำให้จะเหลือเวลาสำหรับเก็บรายละเอียดของงานและตรวจสอบข้อบกพร่องต่างๆ เพียงหนึ่งเดือนก่อนเริ่มงานเท่านั้น จึงจำเป็นต้องเร่งรัดให้การทำงานเป็นไปตามกำหนดเวลาให้ได้
ส่วนรายการปรับปรุงสถานที่ สิ่งก่อสร้าง และตกแต่งภูมิสถาปัตยกรรมบางส่วนที่ยังต้องรอการขออนุมัติงบประมาณจากรัฐบาลนั้น ประธานที่ปรึกษาได้ให้ความเห็นว่าควรดำเนินการตามขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างควบคู่ไปกับการส่งนายละเอียดให้สำนักงบประมาณพิจารณา ในโครงการที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติกรอบงบประมาณมาแล้วเพื่อไม่ให้ล่าช้า โดยให้กำหนดไว้ว่าจะยังไม่มีการลงนามในสัญญาจนกว่าสำนักงบประมาณจะอนุมัติเงินให้ ส่วนกรณีของโครงการที่ต้องใช้ระยะในการจัดซื้อจัดจ้างนานให้ดำเนินการด้วยวิธีพิเศษ
ด้าน ความคืบหน้าในส่วนของการบริหารจัดการ ประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมนั้น จะมีการจัดการประชุมวิชาการนานาชาติ จำนวน 11 การประชุม อาทิเช่น การประชุมลดสภาวะโลกร้อน การประชุมไหมโลกครั้งที่ 22 การประชุมปรับปรุงพันธุ์พืชครั้งที่ 12 และการประชุมนานาชาติด้านไม้ผล สมุนไพร ผัก กล้วยไม้ เป็นต้น ส่วนการประชุมในประเทศจะมีจำนวนทั้งสิ้น 6 การประชุม นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้รับทราบถึงการที่กรมวิชาการเกษตร และสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) จะเดินไปร่วมประชุม AIPH Spring Meeting 2011 ณ ประเทศเคนยา ในระหว่างวันที่ 3-6 เม.ย.2554 เพื่อรายงานความก้าวหน้าของการเตรียมจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกฯ 2554 ให้คณะกรรมการของ AIPH ทราบ และติดตามการตอบรับรวมทั้งเชิญชวนให้ต่างประเทศเข้าร่วมงานดังกล่าวด้วยอีกทางหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการบริหารจัดการนั้น จากเดิมที่สำนักงบประมาณได้อนุมัติงบประมาณจำนวน 444,891,400 บาท แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ ประชาสัมพันธ์ การจัดกิจกรรม และการจัดนิทรรศการ จำนวน 392,502,100 บาท และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 52,389,300 บาท และกรมวิชาการเกษตรได้เสนอแผนการใช้จ่ายงบประมาณที่ได้รับจัดสรรซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะอนุกรรมการด้านบริหารจัดการฯ และคณะกรรมการบริหารฯ แล้วนั้น ปรากฏว่าสำนักงบประมาณได้แจ้งกรมวิชาการเกษตรว่าควรปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าว โดยควรดำเนินการจัดจ้างผู้บริหารจัดการ การประชาสัมพันธ์ การจัดกิจกรรม กับการจัดกิจนิทรรศการ กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเป็นรายการเดียว จากเดิมที่แยกเป็นสองรายการ ทำให้การประกวดราคาเพื่อจัดจ้างผู้บริหารจัดการ จากเดิมที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน มี.ค.ต้องเลื่อนออกไป
นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาคณะกรรมการ ยังได้แสดงความเห็นถึงความร่วมมือจากทางจังหวัดเชียงใหม่ในการเตรียมการจัดงานดังกล่าว โดยระบุในเชิงตำหนิว่าไม่ได้รับความร่วมมือจากทางจังหวัดเท่าที่ควร ทั้งๆ ที่งานดังกล่าวซึ่งเป็นงานใหญ่ระดับประเทศ และการจัดงานขึ้นก็จะเกิดประโยชน์ต่อจังหวัดเชียงใหม่อย่างมาก โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจซึ่งปัจจุบันถือว่าค่อนข้างย่ำแย่ แต่ในการประชุมที่ผ่านมาแต่ละครั้งมีเพียงตัวแทนจากจังหวัดมาเข้าร่วม ทั้งที่ควรจะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดหรือรองผู้ว่าราชการจังหวัดที่เข้าร่วม
นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงผลกการประชุมในครั้งนี้ ว่า ในส่วนของความคืบหน้าในด้านการปรับปรุงสถานที่ สิ่งก่อสร้าง และการจัดสวนนั้น ได้เร่งรัดให้ทุกฝ่ายที่รับผิดชอบดำเนินการให้ได้ตามกำหนดการ โดยตั้งเป้าไว้ว่าในการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งต่อไปในวันที่ 28 เม.ย.2554 งานต่างๆ ที่ยังล่าช้าอยู่นั้นจะต้องเป็นไปตามกำหนดการ
สำหรับกรณีที่สำนักงบประมาณมีความเห็นให้ทำการจัดจ้างผู้บริหารจัดการ การประชาสัมพันธ์ การจัดกิจกรรม กับการจัดกิจนิทรรศการ กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ เป็นรายการเดียว จากเดิมที่แยกเป็นสองรายการ จนทำให้การประกวดราคาเพื่อจัดจ้างต้องเลื่อนออกไปนั้น รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า คงจะล่าช้าออกไปประมาณ 1 เดือน โดยจะเริ่มทำการจัดซื้อจัดจ้างผ่านระบบอิเล็คทรอนิคส์ได้ในวันที่ 12 เม.ย.นี้
ส่วนกรณีที่ที่ปรึกษาคณะกรรมการแสดงความไม่พอใจที่ไม่ได้รับความร่วมมือจากทางจังหวัดเท่าที่ควรนั้น นายธีระ กล่าวว่า งานดังกล่าวถือเป็นงานใหญ่ระดับนานาชาติ และเป็นวาระพิเศษซึ่งจะส่งผลดีต่อจังหวัดเชียงใหม่ในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว จึงถือเป็นงานที่ไม่เพียงเฉพาะฝ่ายบริหาร แต่ประชาชนทั้งจังหวัดจะต้องร่วมมือร่วมใจกันเพื่อให้งานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
