ชาวสวนหอมลับแลฮือประท้วงราคาต่ำ-ฝนซัดต้นหอมเน่า

อุตรดิตถ์ - เกษตรกรชาวสวนหอมเมืองลับแลรวมตัวประท้วงหน้าศาลากลาง จี้รัฐช่วยแก้ปัญหาราคาตกต่ำ-เจอฝนหลงฤดูซัดทำผลผลิตเน่าเสีย ไร้พ่อค้าเข้ารับซื้อ สุดท้าย จว.รับปากให้พาณิชย์จังหวัดฯช่วยแก้ปัญหา จ่ายชดเชยผลผลิตเน่า 4 บาท/กก.-หาตลาดให้

เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (30 มี.ค.) ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ เกษตรกรผู้ปลูกหอมแบ่งจาก ต.ฝายหลวง ต.ชัยจุมพล และ ต.ศรีพนมมาศ อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ กว่า 100 คนนำโดยนายธนพล หมื่นยา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุตรดิตถ์ เขต 2 อ.ลับแล ได้เข้ายื่นหนังสือขอความช่วยเหลือเรื่องราคาหอมแบ่งตกต่ำเหลือกิโลกรัมละ 3 บาท แต่ไม่มีผู้ค้ารับซื้อจนทำให้เน่าเสียจากฝนที่ตกหนักติดต่อกันตลอดสัปดาห์ ต่อนายโยธินศร์ สมุทรคีรีจ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้มอบให้นายวิฑูรย์ ศิริบูลย์ภักดี ปลัดจังหวัดมารับเรื่องและเจรจากับผู้ชุมนุม

นายธนพลกล่าวว่า พื้นที่ปลูกหอมแบ่งทั้ง 3 ตำบล ราว 6,200 ไร่เศษ มีผลผลิตทั้งหมดมากกว่า 14,000 ตัน บางส่วนถูกเก็บเกี่ยวก่อนฝนตก แต่ราคาเหลือเพียงกิโลกรัมละ 3 บาท กลับไม่มีพ่อค้ามารับซื้อ บางส่วนก็ถูกฝนที่ตกตลอดทั้งสัปดาห์ทำให้เกิดการเน่าเสีย เกษตรกรต้องเดือดร้อน เพราะไม่สามารถขายหอมแบ่งได้ หนีสิ้นที่ค้างอยู่กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ไม่มีเงินส่งต้นและดอก เคยร้องขอความช่วยเหลือไปที่อำเภอลับแลและการค้าภายในอุตรดิตถ์แล้ว 2 ครั้งแต่เรื่องเงียบ

หลังจากประชุมนานกว่าชั่วโมงครึ่งได้ข้อสรุปว่า จะให้หน่วยงานสังกัดกระทรวงพาณิชย์ ใน จ.อุตรดิตถ์ ให้การช่วยเหลือโดยหอมที่เน่าเสียจะหาเงินมาจ่ายค่าชดเชยให้กิโลกรัมละ 4 บาท หอมที่ตากแห้งแล้วจะหาตลาดรับซื้อให้ ทำให้ผู้ชุมนุมพอใจเดินทางกลับ แต่หากเรื่องยังเงียบ พวกเขาประกาศว่าจะขนหอมเน่ามาเททิ้ง ที่หน้าศาลากลาง และปิดถนนสาย 11 หรือเส้นทางพิษณุโลก-เด่นชัย จ.แพร่ ต่อไป