จันทบุรี-สภาพอากาศที่แปรปรวน มีลมกรรโชกแรง มีลมหนาวส่งผลให้เกษตรกรชาวสวนผลไม้ ตำบลคลองนารายณ์ จังหวัดจันทบุรี ได้รับผลกระทบจากผลผลิตเงาะที่กำลังออกผลร่วงหล่นเสียหายกว่า 20 ไร่
วันนี้ (29 มี.ค.54) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจ ไปตามสวนผลไม้ของเกษตรกรชาวสวนในพื้นที่ ตำบลคลองนารายณ์ จังหวัดจันทบุรี เพื่อสำรวจดูเกี่ยวกับสภาพอากาศที่แปรปรวน มีลมกรรโชกแรง มีลมหนาวว่าส่งผลกระทบต่อเกษตรกรชาวสวนหรือไหมอย่างไร โดยได้มีการลงพื้นใน ตำบลคลองนารายณ์ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ที่มีการปลูกผลไม้เป็นส่วนใหญ่
ปรากฏว่า ไปพบสวนของ นายถวิล ปลิ้มผล ถูกแรงลมพัดจนทำให้ผลผลิตเงาะที่กำลังออกผล ถูกแรงลมพัดจนร่วงหล่นเสียหายกว่า 20 ไร่ และเป็นวงกว้าง นอกจากนี้พื้นที่ใกล้เคียงยังได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่แปรปรวนเช่นกันด้วย จนทำให้เกษตรกรชาวสวนในพื้นที่ ตำบลคลองนารายณ์ จังหวัดจันทบุรีได้รับความเดือดร้อน และไม่สามารถที่จะขอรับเงินค่าชดเชยจากทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้
ในเรื่อง นายถวิล ปลิ้มผล เกษตรกรชาวสวนผลไม้ ตำบลคลองนารายณ์ กล่าวว่า จากสภาพอากาศที่แปรปรวนมีลมกรรโชกแรง และมีลมหนาวพัดผ่านเข้ามาในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีหลายวันแล้ว ส่งผลให้สวนผลไม้ที่ตนเองปลูกไว้กว่า 40 ไร่ ทั้งเงาะ มังคุด ทุเรียน ลองกอง และสละ ได้รับผลกระทบจากแรงลมพัดจนเสียหายไปกว่า 20 ไร่ โดยเฉพาะเงาะที่กำลังออกผลและมีราคาดีในปีนี้ต้องถูกแรงลมพัดจนทำให้ลูกร่วงหล่นเสียหาย หรือ บางต้น ถูกแรงลมพัดจนต้นกิ่งก้านฉีกขาดและหักโค่นเสียหายทำให้ตนเองต้องสูญเสียรายได้ไปกว่าแสนบาท
นายถวิล กล่าวอีกว่า แม้ตนเองจะมีการนำเชือกมาโยงมัดกับกิ่งก้าน และนำไม้มาทำการค้ำต้นเพื่อป้องกันแรงลมแล้วก็ตามแต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้มากนัก เนื่องจากกระแสลมแรง และมีลมหนาวทำให้ไม้ที่ค้ำต้น หรือ ใช้เชือกโยงมัดกับกิ่งก้านถูกแรงลมพัดจนขาดและไม้ค้ำหักโค่น หรือ ล้มเอนลงมานั้นเอง แต่ถึงอย่างไรอุตุนิยมวิทยาจันทบุรี ได้ฝากเตือนเกษตรกรชาวสวนขอให้มีการติดตามสภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง และอย่างใกล้ชิด
รวมทั้งเกษตรกรชาวสวนจะต้องหาวิธีในการรับมือกับสภาพอากาศที่แปรปรวนในระยะนี้เพื่อป้องกันไม่ให้พืชผล ทางการเกษตรเสียหายไปมากกว่านี้ รวมถึงควรดูทิศทางของลมหากเกิดลมกรรโชกแรง หรือ มีลมฝนพัดมาอย่างหนักก็ขอให้มีการอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัยเพื่อป้องกันการอาจเกิดอันตรายได้ โดยสภาพอากาศที่เป็นเช่นนี้จังหวัดจันทบุรีจะได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่แปรปรวนออกไปอีกถึง วันที่ 31 มีนาคม 2554 นี้ และลมก็จะมีการอ่อนตัวลงไปเอง
วันนี้ (29 มี.ค.54) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจ ไปตามสวนผลไม้ของเกษตรกรชาวสวนในพื้นที่ ตำบลคลองนารายณ์ จังหวัดจันทบุรี เพื่อสำรวจดูเกี่ยวกับสภาพอากาศที่แปรปรวน มีลมกรรโชกแรง มีลมหนาวว่าส่งผลกระทบต่อเกษตรกรชาวสวนหรือไหมอย่างไร โดยได้มีการลงพื้นใน ตำบลคลองนารายณ์ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ที่มีการปลูกผลไม้เป็นส่วนใหญ่
ปรากฏว่า ไปพบสวนของ นายถวิล ปลิ้มผล ถูกแรงลมพัดจนทำให้ผลผลิตเงาะที่กำลังออกผล ถูกแรงลมพัดจนร่วงหล่นเสียหายกว่า 20 ไร่ และเป็นวงกว้าง นอกจากนี้พื้นที่ใกล้เคียงยังได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่แปรปรวนเช่นกันด้วย จนทำให้เกษตรกรชาวสวนในพื้นที่ ตำบลคลองนารายณ์ จังหวัดจันทบุรีได้รับความเดือดร้อน และไม่สามารถที่จะขอรับเงินค่าชดเชยจากทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้
ในเรื่อง นายถวิล ปลิ้มผล เกษตรกรชาวสวนผลไม้ ตำบลคลองนารายณ์ กล่าวว่า จากสภาพอากาศที่แปรปรวนมีลมกรรโชกแรง และมีลมหนาวพัดผ่านเข้ามาในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีหลายวันแล้ว ส่งผลให้สวนผลไม้ที่ตนเองปลูกไว้กว่า 40 ไร่ ทั้งเงาะ มังคุด ทุเรียน ลองกอง และสละ ได้รับผลกระทบจากแรงลมพัดจนเสียหายไปกว่า 20 ไร่ โดยเฉพาะเงาะที่กำลังออกผลและมีราคาดีในปีนี้ต้องถูกแรงลมพัดจนทำให้ลูกร่วงหล่นเสียหาย หรือ บางต้น ถูกแรงลมพัดจนต้นกิ่งก้านฉีกขาดและหักโค่นเสียหายทำให้ตนเองต้องสูญเสียรายได้ไปกว่าแสนบาท
นายถวิล กล่าวอีกว่า แม้ตนเองจะมีการนำเชือกมาโยงมัดกับกิ่งก้าน และนำไม้มาทำการค้ำต้นเพื่อป้องกันแรงลมแล้วก็ตามแต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้มากนัก เนื่องจากกระแสลมแรง และมีลมหนาวทำให้ไม้ที่ค้ำต้น หรือ ใช้เชือกโยงมัดกับกิ่งก้านถูกแรงลมพัดจนขาดและไม้ค้ำหักโค่น หรือ ล้มเอนลงมานั้นเอง แต่ถึงอย่างไรอุตุนิยมวิทยาจันทบุรี ได้ฝากเตือนเกษตรกรชาวสวนขอให้มีการติดตามสภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง และอย่างใกล้ชิด
รวมทั้งเกษตรกรชาวสวนจะต้องหาวิธีในการรับมือกับสภาพอากาศที่แปรปรวนในระยะนี้เพื่อป้องกันไม่ให้พืชผล ทางการเกษตรเสียหายไปมากกว่านี้ รวมถึงควรดูทิศทางของลมหากเกิดลมกรรโชกแรง หรือ มีลมฝนพัดมาอย่างหนักก็ขอให้มีการอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัยเพื่อป้องกันการอาจเกิดอันตรายได้ โดยสภาพอากาศที่เป็นเช่นนี้จังหวัดจันทบุรีจะได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่แปรปรวนออกไปอีกถึง วันที่ 31 มีนาคม 2554 นี้ และลมก็จะมีการอ่อนตัวลงไปเอง
