ตราด - กำนันต.แสนตุ้ง ลงสำรวจความเสียหายจากพายุฤดูร้อนพัดถล่ม พบต้นทุเรียนเสียหาย 90 ไร่ มูลค่าประมาณ 2 แสนบาท เกษตรกรบ่นช่วยเหลือช้า กำนันจี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มสวนผลไม้และต้นยางพารา ในพื้นที่ตำบลแสนตุ้ง อ.เขาสมิง จ.ตราด ระหว่างวันที่ 23-24 มีนาคม 2554 ทำให้ต้นทุเรียนลูกหล่นกว่า 360 ตัน
ล่าสุดวันนี้(26 มี.ค.) นายทินวัฒน์ เจียมอุย กำนันตำบลแสนตุ้ง อ.เขาสมิง จ.ตราด เดินทางลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากพายุฤดูที่พัดถล่มสวนผลไม้ของชาวสวนใน ม.9 บ้านแสนสุข ตำบลแสนตุ้ง อ.เขาสมิง จ.ตราด ของนายไพวัลย์ วงศ์ยะมาตย์ และนางใส วงศ์ยะมาตย์ เมื่อเดินทางไปถึงนายไพวัลย์และลูกจ้างกำลังเก็บลูกทุเรียนที่หล่นลงมาจากต้นหลายร้อยลูก ไปทิ้ง หลังจากที่ถูกพายุพัดถล่มเมื่อ 2 วันก่อน
นายไพวัลย์ กล่าวว่า ตนเองได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนที่พัดผ่านสวนผลไม้ของตนเองเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา สร้างความเสียหายให้กับผลไม้ในสวนจำนวนมาก ส่งผลให้ลูกทุเรียนหลุน รวมกันแล้วประมาณ 5 ตัน มูลค่าประมาณ 350,000 บาท ซึ่งต้นทุเรียนในสวนของตนเองสามารถที่เก็บผลผลิตออกจำหน่ายได้แล้ว หลังจากตนเองได้จ้างคนงาน 2 ชุด จำนวน 10 คน โดยจ้างคนล่ะ 150 บาท ต่อคนต่อคน
คนงานชุดแรกจะเข้ามาโยงกิ่งเพื่อป้องกันไม่ให้กิ่งหักอีก และชุดที่สอง เข้าทำเต้าลูกทุเรียน(ผูกลูกทุเรียนเข้ากับกิ่ง)เพื่อไม่ได้ให้ก้านทุเรียนฉีกขาดหรือหล่นลงมาจากต้น ซึ่งตนเองยังกังวลกับกระแสลมในขณะนี้อยู่ เนื่องจากยังคงมีลมที่พัดผ่านมาอย่างต่อเนื่อง
นายไพวัลย์ ยังกล่าวอีกว่า ในขณะนี้ทางอบต.แสนตุ้ง ยังไม่มีการสำรวจและช่วยเหลือแต่อย่างใด มีเพียงกำนันตำบลแสนตุ้ง และเกษตรอำเภอเขาสมิง เท่านั้น ซึ่งตนเองอยากจะฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือให้ทันท่วงที ในเบื้องตนตนเองได้ช่วยเหลือตัวเองก่อนเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายมากกว่านี้
ด้านนายทินวัฒน์ เจียมอุย กล่าวว่า หลังจากที่ได้สำรวจพื้นที่ของตำบลแสนตุ้งแล้ว พบว่า พื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากพายุ มีจำนวน 3 หมู่บ้าน คือ หมู่ 8 หมู่ 9 และหมู่ 10 ซึ่งทั้ง 3 หมู่ มีผู้ได้รับผลกระทบ 13 ราย ทุเรียนหล่นประมาณ 20-30 ตัน เนื้อที่กว่า 90 ไร่ มูลค่าประมาณ 210,000 บาท และต้นยางพาราประมาณ 500 ต้น ซึ่งตนเองจะได้รวบรวมความเสียหาย เพื่อนำข้อมูลความเสียทั้งหมดส่งอำเภอเขาสมิงต่อไป
กำนันตำบลแสนตุ้ง ยังกล่าวอีกว่า การช่วยเหลือของหน่วยงานราชการในขณะนี้ถือว่าช้ามาก ในเมื่อเกิดเหตุการณ์แล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องลงมาช่วยเหลือเกษตรกรทันที
