ศูนย์ข่าวศรีราชา - เผยข้อมูลการสำรวจภาคสนามเกี่ยวกับการลงทุนภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และระยอง ของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ พบยังมีทิศทางเติบโตต่อเนื่อง โดยในอนาคตปัจจัยเสริมด้านการพัฒนาเส้นทางรถไฟรางคู่ และการพัฒนารถไฟความเร็วสูงที่ จะทำให้การเติบโตในภาคการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ของทั้ง 2 จังหวัดมีแนวโน้มที่สดใส
เมื่อเร็วๆ นี้ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ได้จัดให้มีการสัมมนาวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัย ปี 2554 ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี-ระยอง โดยจัดขึ้นที่โรงแรมราวินทรา บีช รีสอร์ทแอนด์สปา จังหวัดชลบุรี โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้ที่อยู่ในแวดวงที่อยู่อาศัยในพื้นที่จังหวัดชลบุรีและภาคตะวันออกเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เผยข้อมูลจากการสำรวจภาคสนามของศูนย์ฯ พบว่า เฉพาะจังหวัดชลบุรีมีหน่วยขายในผังโครงการรวม 56,100 หน่วย แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรรมากที่สุด 24,100 หน่วย จาก 270 โครงการ มูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้น 64,500 ล้านบาท โครงการส่วนใหญ่อยู่ในเขตอำเภอบางละมุง รองลงมาคือ อำเภอศรีราชา อำเภอเมือง อำเภอสัตหีบ และอำเภอพานทอง 950 หน่วย โดยยังพบสถานะของโครงการที่ยังไม่ก่อสร้างทั้งสิ้น 21,350 หน่วย
ส่วนในประเภทอาคารชุด มีหน่วยที่อยู่ระหว่างการขาย 21,150 หน่วย จาก 90 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 88,850 ล้านบาท ขายได้แล้ว 11,950 หน่วย มูลค่าที่ขายได้ 48,150 ล้านบาท เหลือขาย 9,200 หน่วย รวมมูลค่าเหลือขายประมาณ 40,700 ล้านบาท
ขณะที่ประเภทบ้านพักตากอากาศ หรือวิลล่า นับเฉพาะโครงการที่มีหน่วยขายอย่างน้อย 1 หน่วย มีทั้งสิ้น 7 โครงการ รวม 260 หน่วย อยู่ในเขตอำเภอบางละมุงมากที่สุด 230 หน่วย และในอำเภอสัตหีบอีก 30 หน่วย และในประเภทบ้านเอื้ออาทร ซึ่งพัฒนาโดยการเคหะแห่งชาตินั้น ข้อมูล ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2554 มีโครงการแนวราบอยู่ระหว่างการขาย 3 โครงการ รวม 2,260 หน่วย กระจายอยู่ในพื้นที่อำเภอบางละมุง ศรีราชา และสัตหีบอีก
นายสัมมายังเผยถึงข้อมูลด้านการพัฒนาอสังาหาริมทรัพย์เในพื้นที่จังหวัดระยอง ซึ่งถือว่ามีการเติบโตเป็นอันดับ 2 รองจากชลบุรีว่ามีหน่วยขายในผังโครงการรวม 9,290 หน่วย โดยโครงการบ้านจัดสรรถือว่ามีหน่วยการลงทุนมากที่สุด และมีมูลค่าโครงการวม 10,550 ล้านบาท และโครงการทั้งหมดอยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองระยอง รองลงมาคืออำเภอปลวกแดง บ้าน นิคมพัฒนา และอำเภอแกลง แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 2,650 หน่วย ทาวเฮ้าส์ 950 หน่วย อาคารพาณิชย์ 350 หน่วยและบ้านแฝดอีกประมาณ 850 หน่วย นอกนั้นเป็นที่ดินเปล่า
ส่วนประเภทอาคารชุด มีหน่วยที่อยู่ระหว่างการขาย 1,450 หน่วยจาก 11 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 4,100 ล้านบาท ขายได้แล้ว 920 หน่วย รวมมูลค่าที่ขายได้ประมาณ 2,200 ล้านบาทเหลือขายอีก 530 หน่วย คิดมูลค่าหน่วยที่เหลือขายรวม 1,900 ล้านบาท ขณะที่บ้านพักตากอากาศหรือวิลล่าในจังหวัดระยองนับเฉพาะโครงการที่มีหน่วยเหลือขายอย่างน้อย 1 หน่วยมีจำนวน 6 โครงการรวม 140 หน่วย อยู่ในเขตอำเภอเมืองระยอง และแกลง
“การลงทุนภาคอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่จังหวัดระยอง และชลบุรียังมีความเติบโตต่อเนื่องและเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ และในอนาคตยังจะมีการส่งเสริมด้านการคมนาคมและลอจิสติกส์ ทั้งเรื่องของการก่อสร้างโครงการรถไฟรางคู่แถบชายฝั่งทะเลตะวันออกที่มีระยะทางรวม 78 กิโลเมตร โดยมีความคืบหน้าของโครงการที่ 80-90% คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดใช้งานได้ประมาณปลายปี ประกอบกับโครงการรถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพฯ-ระยอง ซึ่งเป็นการลงทุนจากรัฐบาลจีนในการเชื่อมต่อระบบขนส่งและลอจิสติกส์ระดับภูมิภาคเพื่อความสะดวกรวดเร็ว ก็ถือเป็นปัจจัยเสริมที่สำคัญที่จะจูงใจให้นักลงทุนเข้ามาในพื้นที่มากขึ้น ” นายสัมมากล่าว
