xs
xsm
sm
md
lg

“ไทย-จีน”คุมเข้มค้าผัก-ผลไม้ผ่านเชียงของ-หนองคาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงราย - คุมเข้มการนำเข้า-ส่งออก พืชผัก ผลไม้ไทย-จีน ผ่าน 2 ด่านใหญ่ทั้งที่เชียงของ และหนองคาย คาดกำหนดรายละเอียดการปฏิบัติตั้งแต่ต้นทาง-ปลายทางเสร็จปลายเดือนมีนาฯนี้ ชี้อาจทำให้พ่อค้าต้องปรับตัวยกใหญ่

สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร กรมวิชาการเกษตร ได้จัดประชุมร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าและส่งออกผลไม้ไทย-จีน ผ่านด่านศุลกากร อ.เชียงของ เมื่อเร็ว ๆ นี้ เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับร่างข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทยและจีนในการนำเข้าและส่งออกผลไม้ระหว่างกันผ่านด่านศุลกากรดังกล่าว หลัง ครม.มีมติเมื่อ 11 ม.ค.54 ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงนามในร่างพิธีการว่าด้วยข้อกำหนดในการตรวจสอบและกักกันโรคสำหรับการส่งออกและนำเข้าผลไม้ผ่านประเทศที่ 3 ระหว่างไทย-จีน

นายธนาพันธ์ ลิ่ววัฒนากรณ์ รักษาราชการแทนนายด่านศุลกากร อ.เชียงของ เปิดเผยว่า ปัจจุบันผลไม้ที่นำเข้ามาจำหน่ายอยู่ในตลาดของไทยกว่า 50%มาจากจีน โดยเฉพาะผลไม้เมืองหนาว ซึ่งสามารถปลูกได้ดีในประเทศจีนและเป็นที่นิยมของคนไทย เช่น แอปเปิ้ล สาลี่ ทับทิม ฯลฯ ทั้งมีราคาถูก สด กรอบ ประกอบกับมีข้อตกลงการค้าเสรีไทย-จีน เกี่ยวกับสินค้าด้านการเกษตร จึงทำให้ผู้ประกอบมีการนำเข้าผลไม้ผ่านเข้ามาทางถนนอาร์สามเอใน สปป.ลาว อย่างคึกคัก และแนวโน้มก็มีเพิ่มมากขึ้น เมื่อสะพานแม่น้ำโขงเชียงของ-ห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือน ธ.ค.2555 นี้

นายธนาพันธ์ กล่าวว่า ด้วยเหตุนี้ทั้งสองประเทศจึงตกลงที่จะใช้มาตรการดูแลการนำเข้าและส่งออกผลไม้ไทย-จีน ผ่านด่านศุลกากร อ.เชียงของ เพียงแห่งเดียวในภาคเหนือ ส่วนอีกจุดหนึ่งของไทยคือที่ด่านศุลกากรหนองคาย เพราะถือเป็นด่านพรมแดนที่มีการนำเข้าและส่งออกผลไม้ไทย-จีน โดยตรงผ่านเส้นทางทางบก ขณะที่ด่านอื่นๆ หลายจุดไม่มีเส้นทางคมนาคมที่สะดวกหรือบางแห่งเป็นการขนส่งทางเรือในแม่น้ำโขง ซึ่งไม่เข้าข่ายเป็นการค้าขายกับจีนโดยตรงทั้งขาส่งออกและนำเข้า แต่เป็นขาเข้าอย่างเดียว เป็นต้น

ทั้งนี้ ทางสำนักงานเกษตรสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติได้มีการลงนามความร่วมมือเบื้องต้นกับจีนไปแล้วเมื่อวันที่ 25 ก.พ.54 ที่ผ่านมา จากนั้นได้จัดทำร่างข้อตกลงอย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือน มี.ค.54 นี้เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายร่วมปฏิบัติพร้อมกันต่อไป

โดยข้อตกลงดังกล่าวจะเป็นการดูแลการนำเข้าและส่งออกพร้อมกัน ทั้งที่ด่านเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลหยุนหนัน ประเทศจีน และที่ด่านศุลกากรเชียงของ ตามพันธกรณีที่ได้ทำร่วมกัน เช่น ตรวจสอบว่าสินค้ามีการปนเปื้อนสารเคมี ศัตรูพืชหรือไม่ โรงงานบรรจุ ผู้ขนส่ง ฯลฯ ซึ่งกำหนดให้มีการดำเนินการกับสินค้าผลไม้จากไทย-จีน จำนวน 23 ชนิด และจีน-ไทย จำนวน 19 ชนิด

หลังข้อตกลงด้านการค้าดังกล่าวเกิดขึ้น คงจะทำให้มีความเปลี่ยนแปลงรูปแบบการค้าที่ชายแดน อ.เชียงของ มากขึ้น เพราะข้อตกลงนี้กำหนดให้สินค้าที่นำเข้าส่งออกต้องบรรจุในตู้คอนเทนเนอร์ให้ได้มาตรฐาน จึงทำให้ผู้ประกอบการคงต้องปรับตัวกันยกใหญ่ ทั้งเพื่อรองรับข้อตกลงนี้แล้วยังรองรับสะพานข้ามแม่น้ำโขงที่ไทย-จีน ได้ร่วมกันก่อสร้างด้วยประมาณ 1,400 ล้านบาทเริ่มก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 11 มิ.ย.2553 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 10 ธ.ค.2555 ระยะเวลาก่อสร้าง 30 เดือน

นายธนาพันธ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ที่ผ่านมาก็มีมาตรการในการดำเนินการดังกล่าวอยู่แล้ว แต่ยังไม่ถือว่าเต็ม 100% แต่เมื่อมีการลงนามในระดับรัฐบาลตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค.นี้เป็นต้นไปก็จะมีการปฏิบัติเพื่อให้ผู้บริโภคของทั้งสองฝ่ายได้รับประโยชน์สูงสุด

สำหรับการค้าผ่านด่านศุลกากรเชียงของ ในปี 2553 ที่ผ่านมา มีสินค้านำเข้ารวมทั้งหมด 1,731,282,994.07 บาท ส่งออก 3,206,834,671.71 บาท โดยสินค้านำเข้ามากที่สุดคือพืชผักจีน มีการนำเข้ากว่า 199,317,767.96 บาท ถ่านหินลิกไนต์ มูลค่า 111,988,800 บาท ดอกไม้และไม้ประดับมูลค่า 95,679,039.34 บาท ผลไม้สดมูลค่า 49,734,267.68 บาท ซึ่งผลไม้นำเข้าส่วนใหญ่เป็นแอปเปิ้ล สาลี่ ทับทิม ฯลฯ ส่วนการส่งออกมากที่สุดคือน้ำมันดีเซล มูลค่า 612,855,838.97 บาท และผลไม้ไทย ที่ส่วนมากจะเป็นลำไย กล้วยไข่ ขนุน มะม่วง มังคุด ฯลฯ




กำลังโหลดความคิดเห็น