ตราด - ค้าชายแดนตราด-กัมพูชาปี 53 ทะลุ 19,000 ล้านบาท นำเข้าแค่ 56 ล้านบาท เผยปี 54 น่าทะลุ 21,000 ล้านบาท ระบุแนวโน้มค้าทางตู้คอนเทนเนอร์มากขึ้น
นายกฤษฏา อินทชาติ พาณิชย์ จ.ตราด เปิดเผยว่า ภาวะการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านด้านจังหวัดตราด ปีงบประมาณ 2552 (ต.ค. 52-ก.ย. 53)ที่ผ่านพิธีการทางศุลกากร ณ ด่านศุลกากรคลองใหญ่ จังหวัดตราด มีมูลค่าการค้ารวม จำนวน 19,602.69 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีงบประมาณ 2552มูลค่าการค้ารวม จำนวน 16,778.23 ล้านบาท ปรากฏว่ามูลค่าการค้ารวมเพิ่มขึ้น จำนวน 2,824.46 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.83 ส่วนมูลค่าส่งออก จำนวน 19,545.90 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีงบประมาณ 2552 มูลค่าส่งออก จำนวน 16,735.41 ล้านบาท ปรากฏว่ามูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้น 2,810.49 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.79
ขณะที่มูลค่านำเข้า จำนวน 56.79 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีงบประมาณ 2552 มูลค่าการนำเข้า จำนวน 42.82 ล้านบาท ปรากฏว่ามูลค่านำเข้าเพิ่มขึ้น 13.97 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น ร้อยละ 32.62 ทำให้ดุลการค้าเกินดุล จำนวน 19, 489.11 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีงบประมาณ 2552 ดุลการค้าเกินดุล จำนวน 16,692.59 ล้านบาท ปรากฏว่าดุลการค้าเกินดุลเพิ่มขึ้น 2,796.52 ล้านบาท หรือเกินดุลเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.75
นายกฤษฏา กล่าวว่า ปัจจุบัน จังหวัดตราดทำการค้าโดยผ่านช่องทางการค้า 2 ช่อง ทางคือ 1 จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก พื้นที่ตำบลหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ ประกาศเปิดจุดผ่านแดนถาวร ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 21 กันยายน 2541 ตรงข้ามกับบ้านจามเยี่ยมอำเภอมณฑลสีมา จังหวัดเกาะกง ของกัมพูชา ลักษณะการค้าที่ผ่านช่องทางนี้ ร้อยละ 80 เมื่อได้ดำเนินการขออนุญาตผ่านด่านศุลกากรคลองใหญ่ถูกต้องแล้ว จะนำสินค้าลงเรือเพื่อขนส่งไปยังกัมพูชาโดยใช้ท่าเทียบเรือเอกชน 4 แห่ง คือ ท่าเทียบเรือชลาลัย ท่าเทียบเรือกัลปังหา ท่าเรือ ป.เกษม และท่าเรือ ส.กฤตวรรณ ซึ่งอยู่ห่างบ้านหาดเล็กประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นจุดขนถ่ายสินค้า ส่วนอีกร้อยละ 20 เป็นการนำเข้า-ส่งออก ผ่านจุดผ่านแดนถาวรโดยตรง และ 2. จุดผ่อนปรนการค้าบ้านมะม่วง พื้นที่ อำเภอบ่อไร่ (เนิน 400 ) วันเวลาเปิด-ปิด วันอังคาร , วันพุธ, วันพฤหัสบดี เวลา 8.00 - 17.00 น. ลักษณะการค้าที่ผ่านช่องทางนี้ปริมาณการค้าค่อนข้างน้อยมาก
ขณะที่นายประวัติ เอนกพูนสินสุข นายด่านศุลกากรคลองใหญ่ จ.ตราด กล่าวว่า มูลค่าการค้าชายแดนในงบประมารปี 2553 ที่มีมูลค่าสูงถึง 19,000 ล้านบาท นับเป็นตัวเลขที่เติบโตกว่าร้อยละ 15 ซึ่งสินค้าที่มีการส่งเข้าไปในกัมพูชามากสูงถึง 4,000 - 5,000 ล้านก็คือ น้ำตาลทราย รวมทั้งสินค้าอุปโภค-บริโภค ยารักษาโรค และรถยนต์ ขณะที่สินค้านำเข้ามีจำนวนลดลงเนื่องจากสินค้านำเข้ามีเพียงไม้แปรรูป เป็นหลักเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการค้าในปี 2554 ยังจะมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเหมือนเดิม และจะทะลุขึ้น 21,000 ล้านบาท แต่สินค้าบางตัวจะมีปริมาณและมูลค่าลดลง ก็คือ น้ำตาลทราย เนื่องจากปัจจุบันโรงงานน้ำตาลที่นายพัด สุภาภา และนักลงทุนไทยได้เปิดผลิตน้ำตาลทรายแล้ว แต่ปริมาณยังมีไม่เพียงพอต่อความต้องการจึงยังจำเป็นต้องสั่งซื้อน้ำตาลทรายจากรปะเทศไทยด้วย
"ที่มองเห็นก็คือ การค้าขายชายแดนด้าน จ.ตราด จะมีการปรับตัวในด้านการขนส่งโดยสินค้าบางชนิดเช่น ผลไม้ หรือสินค้าที่มีความจำเป็นต้องใช้เวลาในการขนส่ง จะหันมาขนส่งโดยผ่านตู้คอนเทนเนอร์มากขึ้น เพราะปัจจุบันมีนักธุรกิจกัมพูชา ลงทุนก่อสร้างทำขนส่งสินค้าทางบกที่ใช้ตู้คอนเทนเนอร์ห่างจากชายแดนบ้านหาดเล็กเพียง 1-2 กิโลเมตรเท่านั้น และจะทำให้มูลค่าการค้าส่งออกของ จ.ตราด มีปริมาณเพิ่มขึ้นด้วย"
นายกฤษฏา อินทชาติ พาณิชย์ จ.ตราด เปิดเผยว่า ภาวะการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านด้านจังหวัดตราด ปีงบประมาณ 2552 (ต.ค. 52-ก.ย. 53)ที่ผ่านพิธีการทางศุลกากร ณ ด่านศุลกากรคลองใหญ่ จังหวัดตราด มีมูลค่าการค้ารวม จำนวน 19,602.69 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีงบประมาณ 2552มูลค่าการค้ารวม จำนวน 16,778.23 ล้านบาท ปรากฏว่ามูลค่าการค้ารวมเพิ่มขึ้น จำนวน 2,824.46 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.83 ส่วนมูลค่าส่งออก จำนวน 19,545.90 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีงบประมาณ 2552 มูลค่าส่งออก จำนวน 16,735.41 ล้านบาท ปรากฏว่ามูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้น 2,810.49 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.79
ขณะที่มูลค่านำเข้า จำนวน 56.79 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีงบประมาณ 2552 มูลค่าการนำเข้า จำนวน 42.82 ล้านบาท ปรากฏว่ามูลค่านำเข้าเพิ่มขึ้น 13.97 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น ร้อยละ 32.62 ทำให้ดุลการค้าเกินดุล จำนวน 19, 489.11 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีงบประมาณ 2552 ดุลการค้าเกินดุล จำนวน 16,692.59 ล้านบาท ปรากฏว่าดุลการค้าเกินดุลเพิ่มขึ้น 2,796.52 ล้านบาท หรือเกินดุลเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.75
นายกฤษฏา กล่าวว่า ปัจจุบัน จังหวัดตราดทำการค้าโดยผ่านช่องทางการค้า 2 ช่อง ทางคือ 1 จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก พื้นที่ตำบลหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ ประกาศเปิดจุดผ่านแดนถาวร ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 21 กันยายน 2541 ตรงข้ามกับบ้านจามเยี่ยมอำเภอมณฑลสีมา จังหวัดเกาะกง ของกัมพูชา ลักษณะการค้าที่ผ่านช่องทางนี้ ร้อยละ 80 เมื่อได้ดำเนินการขออนุญาตผ่านด่านศุลกากรคลองใหญ่ถูกต้องแล้ว จะนำสินค้าลงเรือเพื่อขนส่งไปยังกัมพูชาโดยใช้ท่าเทียบเรือเอกชน 4 แห่ง คือ ท่าเทียบเรือชลาลัย ท่าเทียบเรือกัลปังหา ท่าเรือ ป.เกษม และท่าเรือ ส.กฤตวรรณ ซึ่งอยู่ห่างบ้านหาดเล็กประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นจุดขนถ่ายสินค้า ส่วนอีกร้อยละ 20 เป็นการนำเข้า-ส่งออก ผ่านจุดผ่านแดนถาวรโดยตรง และ 2. จุดผ่อนปรนการค้าบ้านมะม่วง พื้นที่ อำเภอบ่อไร่ (เนิน 400 ) วันเวลาเปิด-ปิด วันอังคาร , วันพุธ, วันพฤหัสบดี เวลา 8.00 - 17.00 น. ลักษณะการค้าที่ผ่านช่องทางนี้ปริมาณการค้าค่อนข้างน้อยมาก
ขณะที่นายประวัติ เอนกพูนสินสุข นายด่านศุลกากรคลองใหญ่ จ.ตราด กล่าวว่า มูลค่าการค้าชายแดนในงบประมารปี 2553 ที่มีมูลค่าสูงถึง 19,000 ล้านบาท นับเป็นตัวเลขที่เติบโตกว่าร้อยละ 15 ซึ่งสินค้าที่มีการส่งเข้าไปในกัมพูชามากสูงถึง 4,000 - 5,000 ล้านก็คือ น้ำตาลทราย รวมทั้งสินค้าอุปโภค-บริโภค ยารักษาโรค และรถยนต์ ขณะที่สินค้านำเข้ามีจำนวนลดลงเนื่องจากสินค้านำเข้ามีเพียงไม้แปรรูป เป็นหลักเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการค้าในปี 2554 ยังจะมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเหมือนเดิม และจะทะลุขึ้น 21,000 ล้านบาท แต่สินค้าบางตัวจะมีปริมาณและมูลค่าลดลง ก็คือ น้ำตาลทราย เนื่องจากปัจจุบันโรงงานน้ำตาลที่นายพัด สุภาภา และนักลงทุนไทยได้เปิดผลิตน้ำตาลทรายแล้ว แต่ปริมาณยังมีไม่เพียงพอต่อความต้องการจึงยังจำเป็นต้องสั่งซื้อน้ำตาลทรายจากรปะเทศไทยด้วย
"ที่มองเห็นก็คือ การค้าขายชายแดนด้าน จ.ตราด จะมีการปรับตัวในด้านการขนส่งโดยสินค้าบางชนิดเช่น ผลไม้ หรือสินค้าที่มีความจำเป็นต้องใช้เวลาในการขนส่ง จะหันมาขนส่งโดยผ่านตู้คอนเทนเนอร์มากขึ้น เพราะปัจจุบันมีนักธุรกิจกัมพูชา ลงทุนก่อสร้างทำขนส่งสินค้าทางบกที่ใช้ตู้คอนเทนเนอร์ห่างจากชายแดนบ้านหาดเล็กเพียง 1-2 กิโลเมตรเท่านั้น และจะทำให้มูลค่าการค้าส่งออกของ จ.ตราด มีปริมาณเพิ่มขึ้นด้วย"
