เชียงราย - ฝ่ายความมั่นคงระดมสื่อวิทยุเสื้อแดง-วิทยุชุมชน เข้าห้องติวเข้ม ร่วมปกป้องสถาบัน ลดยุแยงตะแคงรั่ว ก่อให้เกิดการแตกสามัคคีในบ้านเมือง พร้อมจับตาเครือข่ายหลายศาสนาแย่งชิงมวลชนในพื้นที่ หวั่นพันสถานการณ์ชายแดนใต้ หลังปี 47 มีคนจากเชียงราย-กัมพูชา ร่วมขบวนปล้นปืนด้วย
วันนี้ (1 มี.ค.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดเชียงราย ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) จ.เชียงราย โดย พ.อ.พรชัย ดุริยพันธ์ รอง ผอ.กอ.รมน.เชียงราย ได้จัดประชุมร่วมกับสื่อมวลชนโดยเฉพาะวิทยุชุมชนที่กระจายเสียงในเขต อ.เมือง โดยมีการเชิญวิทยุชุมชนของคนเสื้อแดงเข้าร่วมด้วยเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของ กอ.รมน.รวมทั้งขอความร่วมมือจากสื่อวิทยุชุมชนที่เข้าถึงประชาชนได้ดีในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารเพื่อความมั่นคงของประเทศในสถานการณ์ปัจจุบัน
โดยครั้งนี้ มี นายอรรถกร กันทะไชย แกนนำกลุ่มคนเชียงรายฮักประชาธิปไตย เจ้าของวิทยุชุมชนคนเสื้อแดงเอฟเอ็ม 100.5 เมกะเฮิรตซ์ ตั้งอยู่ชุมชนรั้วเหล็กเหนือ เทศบาลนครเชียงราย และ น.ส.จิรนันท์ จันทวงษ์ แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยเชียงราย และเจ้าของวิทยุชุมชนเอฟเอ็ม 104 เมกะเฮิรตซ์ ต.สันทราย อ.เมือง เข้ารับฟังด้วย ขณะที่ผู้ประกอบอาชีพด้านวิทยุคลื่นหลักและวิทยุชุมชนเข้าร่วมประมาณ 50 คน
พ.อ.พรชัย กล่าวว่า กอ.รมน.ต้องขอความร่วมมือจากสื่อโดยเฉพาะวิทยุชมชนหลายเรื่อง ประกอบไปด้วย เรื่องแรงงานต่างด้าว เพราะเชียงรายมีอาณาเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านเป็นระยะทางยาวไกล ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติอาจจะไม่มีมากในพื้นที่ แต่เนื่องจากภูมิประเทศเอื้ออำนวย จึงกลายเป็นทางผ่านของอาชญากรได้เช่นกัน
โดยกรณีของเชียงราย พบมากในเรื่องการลักลอบเข้าเมืองของชาวเกาหลีเหนือ เพื่อจะผ่านประเทศไทยไปยังเกาหลีใต้ ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นปัญหาระหว่างชาติ เพราะเกาหลีเหนือก็มีท่าทีที่ไม่พอใจกับเรื่องนี้ส่วนเกาหลีใต้ มีท่าทีไปในทางตรงกันข้าม เพราะรับช่วยเหลือคนเหล่านี้หมด กรณีอาชญากรรมข้ามชาติยังมีเรื่องการค้ามนุษย์ การขนเงิน และทองคำข้ามชาติด้วย
นอกจากนี้ กอ.รมน.ยังมีโครงข่ายงานเกี่ยวข้องกับปัญหาความยากจนในบางมิติ เช่น ความยากจนจนทำให้เกิดการเผาป่าทำไร่แต่ได้ส่งผลกระทบในวงกว้าง ปัญหาภัยธรรมชาติ และปัญหายาเสพติด
พ.อ.พรชัย กล่าวอีกว่า สิ่งที่ กอ.รมน.จะขอความร่วมมือที่สำคัญอีกประการ คือ เรื่องผลกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยขอให้ทุกฝ่ายได้คำนึงว่า เราเป็นคนไทย ซึ่งมีพระมหากษัตริย์ หรือในหลวง เป็นพ่อของพวกเรา ที่ผ่านมา ได้เป็นที่ประจักษ์แล้วว่าพระองค์ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อคนไทยอย่างหนักและเหน็ดเหนื่อยพระวรกาย คนไทยทุกคนเคารพและเทิดทูนในหลวง ดังนั้นผู้ที่ทำการที่กระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงถือเป็นการทำร้ายจิตใจของคนไทยทั้งชาติ
“อีกประการที่สำคัญ คือ เรื่องความแตกแยกในสังคม ซึ่งผมเคยทำงานด้านมวลชนที่ลำพูน ก็รู้กันดีว่ามีการเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช.แต่เมื่อทำงานก็รู้จักคุ้นเคยกันหมด จึงอยากบอกว่าการเคลื่อนไหวหรือแสดงออกสามารถทำได้ตามระบอบประชาธิปไตย แต่ต้องเป็นไปตามกฎหมาย ตามหลักรัฐธรรมนูญ ความแตกแยกทางความคิดมีได้ แต่ต้องไม่แตกความสามัคคี จึงขอให้ใช้หลักเหตุผลและวิจารณญาณอยู่เหนืออารมณ์ด้วย” พ.อ.พรชัย กล่าว
พร้อมกับระบุถึงการขอความร่วมมือในตอนท้ายว่า ส่วนปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งอาจจะไม่เกี่ยวข้องกับเชียงรายโดยตรง แต่กรณีปล้นปืนที่ค่ายทหารเมื่อปี 2547 พบผู้ก่อเหตุกว่า 50% ไปจากภาคเหนือและกัมพูชา ซึ่งถูกหลอกว่าเมื่อก่อเหตุแล้ว เจ้าหน้าที่จะไม่สามารถทำร้ายได้ ปัจจุบันพบหลายศาสนาได้แย่งมวลชนกันในพื้นที่ ดังนั้น สื่อจึงสามารถทำความเข้าใจให้ถูกต้องร่วมกับ กอ.รมน.ได้