xs
xsm
sm
md
lg

ยอดเหยื่อ “รง.แป้งมัน” ชัยภูมิระเบิดเสียชีวิตแล้ว 7 ราย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์โรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลัง บริษัท ชัยภูมิสตาร์ช จำกัด อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ ระเบิดเพลิงไหม้อาคารถล่ม ส่วนหนึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลชัยภูมิ
ชัยภูมิ- ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุบ่อแก๊สชีวภาพ รง.แป้งมันชัยภูมิ ระเบิด ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตแล้ว 7 ราย อีก 17 เป็นตายเท่ากัน ขณะโรงงานบอกเป็นเหตุสุดวิสัยจากภัยธรรมชาติ พร้อมเยียวยารับผิดชอบคนงานได้รับบาดเจ็บทุกคน ล่าสุด จังหวัดเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ประกอบการหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ

วันนี้ (1 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุการณ์โรงงานแป้งมันสำปะหลัง บริษัท ชัยภูมิสตาร์ช จำกัด เลขที่ 50 บ้านดอนละนาม หมู่ 11 ต.ละหาน อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ อยู่ถนนชัยภูมิ-สีคิ้ว เกิดระเบิดจากระบบผลิตแก๊สชีวภาพใช้ผลิตไฟฟ้าใช้เองในโรงงาน เมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้คนงานได้รับบาดเจ็บกว่า 30 คน ส่วนใหญ่อาการสาหัสถูกไฟคลอกไหม้เกรียมไปทั่วร่างกาย นั้น

ล่าสุด สำหรับผู้บาดเจ็บที่ถูกนำส่งเข้ารักษาโรงพยาบาลชัยภูมิ ซึ่งจำนวนนี้อาการไม่สาหัส ส่วนใหญ่พ้นขีดอันตรายแล้ว ส่วนผู้บาดเจ็บอาการสาหัสที่นำส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จ.นครราชสีมา, โรงพยาบาลศรีนครินทร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น และโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น จ.ขอนแก่น รวมผู้ป่วย 24 ราย มีอาการน่าเป็นห่วง เนื่องจากบาดแผลที่เกิดจากไฟคลอกตลอดทั้งตัวบางรายไฟไหม้ลึกถึงอวัยวะภายใน ซึ่งต้องใช้เครื่องหายใจตลอดเวลา ล่าสุด มีรายงานผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตไปแล้วรวม 7 ราย ประกอบด้วย

1.นางปิยพร แถลงกลาง อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 11 บ้านดอนละนาม ต.ละหาน อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ

2.นายคำบุญ บัวศิลา อายุ 60 อยู่บ้านเลขที่ 126 หมู่ 12 บ้านเนินสง่าสามัคคี ต.ละหาน อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ

3.นางวงเดือน โถชัย อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 130 หมู่ 17 บ้านวังกุ่ม ต.ลุ่มลำชี อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ

4.นายประดิษฐ์ ศรีวิไล อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 หมู่ 8 บ้านโคกแพงพวย ต.ละหาน อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ

5.นายเลื่อน โถชัย อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 122 หมู่ 17 บ้านวังกุ่ม ต.ลุ่มลำชี อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ

6.นายประพล ปัทมะ อายุ 37 ปี อยบ้านเลขที่ 130 หมู่ 17 บ้านวังกุ่ม ต.ลุ่มลำชี อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ

และ 7.นายณรงค์ ปัทมะ อายุ 18 ปี บ้านเลขที่130 หมู่ 17 บ้านวังกุ่ม ต.ลุ่มลำชี อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ

โดยยังคนงานที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา, โรงพยาบาลศรีนครินทร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น และโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น จ.ขอนแก่น รวม 17 ราย อาการเป็นตายเท่ากัน ซึ่งญาติของผู้เสียชีวิตบางคนทนเห็นผู้ป่วยที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากพิษบาดแผลไม่ได้ เพราะเกินการเยียวยารักษาและผู้ป่วยมีชีวิตอยู่ได้เพราะเครื่องช่วยหายใจเท่านั้น ถึงกับขอให้แพทย์ถอดเครื่องช่วยหายใจ เพื่อให้จากไปอย่างสงบ ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานต่อไป

ด้าน นายศิริพงษ์ สุนทรีรัตน์ หุ้นส่วนบริษัท ชัยภูมิสตาร์ช จำกัด เปิดเผยว่า ทางโรงงานเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งก่อนเกิดเหตุ ได้มีพายุเกิดขึ้นที่ท้ายโรงงาน บริเวณบ่อบำบัด ไบโอแก๊ส ซึ่งมีความรุนแรงมากกว่าทุกครั้ง จนผ้าใบที่คลุมแก๊สฉีกขาด เกิดมีไฟลุกขึ้น และลมโหมพัดพาเอาไฟไหม้ลามเข้าไปในโรงงานอย่างรวดเร็วจนเกิดระเบิดขึ้น ทำให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงในครั้งนี้ ซึ่งเป็นเหตุสุดวิสัยมาจากภัยธรรมชาติ โดยระบบเซฟตี้ของบริษัทมีความปลอดภัยและไม่บกพร่อง พร้อมยืนยันว่า ในขณะที่เกิดเหตุนั้นที่โรงงานไม่มีการเชื่อมเหล็กหรือเชื่อมใดๆ ทั้งสิ้นตามที่มีกระแสข่าวออกมา

จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้ทางโรงงานจะเลิกใช้บ่อแก๊สไปเลย ไม่กล้าเสี่ยงอีกแล้ว ซึ่ง ขณะนี้ได้ประกาศเป็นเขตควบคุมและปิดโรงงานชั่วคราว โดยจะหยุดรับซื้อมันสำปะหลังสด 3 เดือน เพื่อซ่อมแซมโรงงาน ค่าเสียหายประเมินไว้คร่าวๆ ประมาณ 20 กว่าล้านบาท

ส่วนด้านการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นทางโรงงานจะจ่ายให้รายละ 20,000 บาท เพื่อให้ญาตินำไปใช้จ่ายดูแลผู้ป่วย และรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลให้จนกว่าจะหาย พร้อมกับจะเยียวยาให้อีกครั้งหลังจากหายป่วยแล้ว ส่วนผู้เสียชีวิต ทางโรงงานจะช่วยเหลือเบื้องต้นรายละ 50,000 บาทก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุด จังหวัดชัยภูมิ ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ประกอบการ ทุกโรงงานเข้าประชุมปรึกษาเป็นการด่วน โดยเฉพาะโรงงานที่ทำการบำบัดน้ำเสียด้วยการเติมเชื้อแบคทีเรียซึ่งมีคุณสมบัติติดไฟง่าย แล้วนำก๊าซไปใช้ภายในโรงงานเพื่อลดต้นทุนการผลิตด้านพลังงาน ทั้งนี้ เพื่อร่วมกันหาทางวางมาตรการป้องกันและแก้ไขร่วมกัน ตลอดจนการวางแผนซ้อมแผน เพื่อป้องกันเหตุ โดยนำเหตุการณ์ที่เกิดกับโรงงานแป้งมันสำปะหลัง บริษัท ชัยภูมิสตาร์ช จำกัด เป็นกรณีศึกษา
กำลังโหลดความคิดเห็น