ชัยภูมิ - เหยื่อโรงงานแป้งมันฯชัยภูมิ ระเบิด เพลิงไหม้อาคารถล่ม บาดเจ็บสาหัสถูกไฟครอกทั้งตัวพุ่ง 26 ราย ต้องรับการรักษาอย่างใกล้ชิดที่รพ.ขอนแก่น-โคราช รมว.สาธารณสุข กำชับดูแลอย่างเต็มที่ ขณะจนท.เร่งหาสาเหตุการระเบิดไฟไหม้ ด้านโรงงานปิดกิจการชั่วคราว เคลียร์พื้นที่ พร้อมเปิดศูนย์ช่วยเหลือคนงาน
วันนี้ (27 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานคืบหน้ากรณีเกิดเหตุท่อแก๊สชีวภาพระเบิดภายใน โรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลัง บริษัท ชัยภูมิสตาร์ช จำกัด ตั้งอยู่บริเวณริมถนนสายชัยภูมิ-สีคิ้ว บ้านหนองหญ้าข้าวนก ต.ละหาน อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ ทำให้เกิดเพลิงไหม้อาคารโรงงานเสียหายถล่มลงมาทั้งหลัง มีผู้ได้รับบาดจำนวนมากกว่า 35 คน ในจำนวนนี้อาการสาหัส 26 คน ถูกนำส่งเข้ารักษาโรงพยาบาล ในจังหวัดชัยภูมิ จังหวัดขอนแก่นและจังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา นั้น
ล่าสุด นพ.สมปอง เจริญวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชัยภูมิ เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หลังจากได้รับทราบเรื่อง ได้สั่งการพร้อมกำชับให้ทางจังหวัดชัยภูมิ และโรงพยาบาลชัยภูมิ การดูแลช่วยเหลือคนงานผู้ประสบเหตุโรงงานแป้งสำปะหลัง อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ ระเบิดทั้งหมดอย่างเต็มที่ พร้อมมอบเงินและสิ่งของมาช่วยเหลือ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ผู้ประสบเหตุในครั้งนี้ด้วย
ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต โดยมีคนงานที่ได้รับบาดเจ็บเข้ารับการรักษาอยู่ที่ทางโรงพยาบาลชัยภูมิ ทั้งหมด 9 ราย อาการอยู่ในขั้นปลอดภัย ไม่รุนแรงมาก น่าจะให้กลับบ้านได้ในเร็วๆ นี้ ส่วนผู้บาดเจ็บที่มีอาการสาหัส ถูกไฟครอกทั้งตัวและต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอด 24 ชั่วโมง (ชม.) ได้ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น 4 ราย ,โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่นจ.ขอนแก่น อีก 4 ราย และ รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จ.นครราชสีมา อีกจำนวน 18 ราย รวมผู้บาดเจ็บสาหัสเป็น 26 ราย ซึ่งทั้งหมดต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ
ด้าน พ.ต.ท.สุชาติ เชิงชั้น พนักงานสอบสวน สภ.จัตุรัส อ.จตุรัส จ.ชัยภูมิ เปิดเผยว่า สาเหตุการเกิดแก๊สระเบิดเพลิงไหม้โรงงานแป้งมันสำปะหลังครั้งนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยตำรวจภูธรภาค 3 ได้ส่งเจ้าหน้าที่กองวิทยาการมาตรวจสอบหาสาเหตุการระเบิดครั้งนี้ ร่วมกับหน่วยงานวิศวกรของโรงงานต้นเหตุ ส่วนมูลค่าความเสียหายทางเจ้าของโรงงานแจ้งว่ายังประเมินค่ามิได้ ซึ่งไม่น่าจะน้อยกว่า 20 ล้านบาท และโรงงานได้ประกาศปิดกิจการโรงงาน 2-3 วัน เพื่อตรวจสอบเคลียร์พื้นที่ให้อยู่ในความปลอดภัย และเปิดเป็นศูนย์รับความช่วยเหลือร่วมกับบริษัทประกันภัย ที่บริเวณหน้าโรงงาน โดยทางเจ้าของโรงงานพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือคนงานที่ได้รับบาดเจ็บเสียหายทั้งหมดอย่างเต็มที่