xs
xsm
sm
md
lg

“ปวีณา”บุกโรงพักเมืองชาละวัน-พาแม่แจ้งจับหมอ รพ.พิจิตร-วินิจฉัยโรคผิดทำลูกไส้ติ่งแตกตาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พิจิตร - “ปวีณา” ขึ้นโรงพักพิจิตร นำแม่เด็กชายวัย 9 ขวบเข้าแจ้งความเอาผิดหมอโรงพยาบาลเมืองชาละวัน เชื่อวินิจฉัยโรคผิด จนลูกชายไส้ติ่งแตกตาย แถมขณะรักษาใช้กำลังบังคับ-ตบปากคนไข้ และใช้วาจาไม่สุภาพ ด้าน รอง ผอ.รพ.พิจิตร ยัน จนท.ทำงานเต็มที่ แต่พร้อมรับผิดชอบตามกฎหมาย จ่าย 2 แสนบาท ยันผู้ป่วยตัวโตเกินวัย-ขัดขืนการรักษา ถุยน้ำลายใส่พยาบาล จนต้องบังคับรักษา

วานนี้(25 ก.พ.) จังหวัดพิจิตร พล.ต.ต.ทวีชัย วิริยะโกศล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ นราพิสุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองพิจิตร ได้ร่วมกันสอบสวนและรับแจ้งความจากนางสมัย พิมพ์อักษร อายุ 39 ปี ที่เป็นชาวบ้าน อยู่บ้านเลขที่ 92 หมู่ 7 ต.ดงป่าคำ อ.เมือง จ.พิจิตร หลังนางปวีณา หงสกุล “มูลนิธิปวีณา” ได้นำเข้าแจ้งความว่า เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2554 นางสมัย ได้นำลูก คือ ด.ช.ธนกฤต พิมพ์อักษร อายุ 9 ขวบ ที่ปวดท้องอย่างหนักมาขอเข้ารับการรักษาที่รพ.ยุพราชตะพานหิน จากนั้นได้ส่งต่อมาทำการักษาที่ รพ.พิจิตร ในช่วงบ่าย ซึ่งแพทย์ได้รับตัวไว้

โดยนางสมัย พิมพ์อักษร ได้กล่าวโทษร้องทุกข์ว่าแพทย์และพยาบาลรพ.พิจิตร ไม่ยอมรักษาหรือผ่าตัดในทันทีทันใด มัวแต่เฝ้าดูอาการจนลูกเจ็บปวด จากนั้นก็จับฉีดยา เมื่อเด็กดิ้นขัดขืนพยาบาลก็ใช้มือตบปาก อุดปาก อุดจมูก ไม่ให้ร้องเสียงดัง และใช้วาจาไม่สุภาพ

จนต่อมาลูกชายคือ ด.ช.ธนกฤต ก็เกิดอาการกำเริบจนไส้ติ่งแตก และเสียชีวิต จึงคิดว่าการที่ลูกเสียชีวิตเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ที่บกพร่องของ รพ.พิจิตร จึงได้ทำหนังสือร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือ เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงไปร้องให้มูลนิธิปวีณา ขอให้ทำการช่วยเหลือเรียกร้องความเป็นธรรมและเข้าแจ้งความเพื่อจะเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องภายใน รพ.พิจิตร

ด้านนายแพทย์วิริยะ เอี๊ยวประเสริฐ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลพิจิตร ชี้แจงว่า ด.ช. ธนกฤต อายุ 9 ขวบ แต่น้ำหนักเกือบ 70 กก. หลังจากรับตัวไว้เป็นผู้ป่วยคนไข้ใน จึงได้ให้แพทย์ทำการวินิจฉัยหาสาเหตุของการปวดท้องแต่ยังสรุปได้ไม่ชัดเจน ว่าเป็นไส้ติ่ง เนื่องจากก่อนหน้านั้นขี่จักรยานล้มและปวดท้องจึงฟันธงไม่ได้ว่าเป็นไส้ติ่งหรือไม่ อีกทั้งผู้ป่วยอ้วนและตัวใหญ่ เมื่อโดนเข็มฉีดยา ที่ต้องเจาะหาเส้นเลือดหลายครั้งก็มีอาการเจ็บและดึงสายน้ำเกลือออก รวมถึงมีปฏิกิริยาขัดขืนดิ้นและส่งเสียงดังจนไม่สามารถตรวจร่างกายได้ พยาบาลจึงใช้วิธีบังคับในการรักษาด้วยการจับมัดมือมัดเท้ากับเตียงผู้ป่วย ทั้งยังถ่มน้ำลายใส่พยาบาล จึงต้องช่วยกันเอาผ้าปิดปากไม่ให้ถ่มน้ำลายใส่ ซึ่งแม่ก็เข้าใจผิดคิดว่าใช้วิธีการรุนแรง

จากนั้นอีก 2-3 ชั่วโมงต่อมา เด็กก็มีอาการกำเริบ แพทย์จึงให้ยาปฏิชีวนะ และมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือด และลงความเห็นว่ามีการติดเชื้อในเลือดจริง จึงได้เร่งให้ยาช่วยเหลือ ก่อนจะส่งเข้าตรวจระบบคอมพิวเตอร์แต่อาการก็แย่ลงอย่างรวดเร็ว จึงได้ใช้เครื่องช่วยหายใจและส่งเข้าห้อง ICU แต่เด็กก็มีอาการแย่ลง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

นายแพทย์วิริยะ บอกว่า ทางโรงพยาบาลก็ยอมรับว่าเกิดจากหลายปัจจัย ซึ่งก็ไม่ปฏิเสธที่จะแสดงความรับผิดชอบ ตามมาตรา 41 เพื่อให้เงินจำนวน 2 แสนบาท เป็นการบรรเทาเหตุดังกล่าวต่อไป โดยมีการเจรจากันต่อหน้าตำรวจและแม่ของเด็กผู้ตาย รวมถึงนางปวีณา หงสกุล ที่เข้าร่วมรับฟังการเจรจาดังกล่าวด้วย

แต่สุดท้ายนางสมัย พิมพ์อักษร แม่ของ ด.ช. ธนกฤต พิมพ์อักษร อายุ 9 ขวบ ที่เสียชีวิตยังคงยืนยันว่าติดใจจะเอาความผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้อง และขอให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ ตำรวจจึงได้ให้ลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อเป็นหลักฐานและจะได้ร่วมกันกับคณะกรรมการระดับจังหวัดที่มีนายสุวิทย์ วัชโรทยางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ตั้งขึ้นเพื่อสอบความจริง ถ้าพบว่าผิดก็จะดำเนินคดีและจะดำเนินการทางวินัยต่อไป สร้างความพอใจให้กับนางสมัย - นางปวีณา ที่เป็นผู้นำพาเข้าร้องทุกข์แจ้งความดังกล่าว

กำลังโหลดความคิดเห็น