พะเยา - คนแห่ชมพระพุทธรูปวัดลี ที่มีอายุกว่า 500 ปี หลังมีกระแสข่าวว่ามีประชาชนเข้าไปกราบไหว้แล้วเจอพระพุทธรูปแจกยิ้มก่อนกลับ แถมส่งสายตามองตามคนไหว้จนสุดสายตา เจ้าอาวาสวัดวัดเผยเป็นพระพุทธรูปที่ช่างสมัยโบราณ หรือสกุลช่างเมืองพะเยา แกะสลักขึ้นเป็นตัวแทนองค์พระสัมมาสัมมาพุทธเจ้า
หลังจากชาวบ้านร่ำลือว่ามีพระพุทธรูปภายในวัดลี ต.เวียง อ.เมือง จ.พะเยา ให้โชคและมีลักษณะเด่นพิเศษ คือ ใบหน้าจะยิ้มและมีดวงตาที่ชอบมองตามผู้คนที่เดินจากไป หลังจากที่เข้ากราบไหว้แล้วเสร็จ จนทำให้พุทธศาสนิกชนแปลกใจไปตาม ๆ กัน ผู้สื่อข่าวจึงได้เข้าพบกับหลวงพ่อพระครูอนุรักษ์ บุรานันท์ (ครูบาชื่น) เจ้าคณะอำเภอเมืองพะเยา เจ้าอาวาสวัดลี เพื่อขออนุญาตชมพระพุทธรูปองค์ดังกล่าว
หลวงพ่อครูบาชื่น ให้ไปพบพระวิบูลย์ ถิรจิตโต พระผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์เวียงพยาว (วัดลี) และนายหล้า คณะกรรมการดูแลพิพิธภัณฑ์เวียงพยาว ได้พาขึ้นไปชมองค์พระพุทธรูปดังกล่าว พบว่า เป็นพระพุทธรูปหินทรายแกะสลัก ปางมารวิชัย ศิลปะล้านนา สกุลช่างพะเยา มีขนาดหน้าตักประมาณ 16 นิ้ว สูง 24 นิ้ว มีลักษณะรูปร่างสวยงามสง่างาม ใบหน้าและปาก จะมีลักษณะยิ้มอย่างสงบ จมูกโด่ง คิ้วตา ได้รูปแบบสง่างาม
ที่สำคัญ พบว่า พระพุทธรูปมีดวงตาสีดำมักจะเหลียวมองตามผู้คนที่มาดูชมหลังจากเดินจากไป ซึ่งได้สร้างความแปลกใจ จนผู้คนที่มาดูเที่ยวชมในพิพิธภัณฑ์ ต่างสงสัยในสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก บางคนได้มากราบไหว้เพื่อขอโชคลาภ
พระครูอนุรักษ์ บุรานันท์ (ครูบาชื่น) เจ้าคณะอำเภอเมืองพะเยา เจ้าอาวาสวัดลี บอกว่า พระพุทธรูปองค์นี้ได้เก็บรักษาไว้ที่วัดมาหลายร้อยปีแล้ว จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ.2550 ทางวัดกับนายธนเษก อัศวานุวัตร อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา และหน่วยงานหอจดหมายเหตุเฉลิมพระเกียรติพะเยา, สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด, ลูกศิษย์ลูกหา, คณะศรัทธาชุมชนในเมืองพะเยา ชุมชนวัดลี, วัดศรีจอมเรือง, วัดเมืองชุม ตลอดจนญาติโยมได้ร่วมแรงร่วมใจ ช่วยกันสร้างพิพิธภัณฑ์เวียงพยาวขึ้นมาภายในวัดลี
ทั้งนี้ เพื่อรวบรวมเก็บรักษาวัตถุโบราณ ทั้งพระพุทธรูป สิ่งของเครื่องใช้สมัยโบราณกาล ที่มีจำนวนมาก ได้นำมาเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์ เพื่อให้ นักเรียน นิสิต นักศึกษาตลอดจนผู้คนทั่วไปทั้งในและต่างจังหวัดมาเที่ยวชมกันจนถึงปัจจุบัน
ส่วนเรื่ององค์พระพุทธรูปที่ญาติโยมมาดูชมนั้น เป็นพระพุทธรูปที่ช่างสมัยโบราณหรือสกุลช่างเมืองพะเยา ได้แกะสลักขึ้นมาเพื่อเป็นตัวแทนองค์พระสัมมาสัมมาพุทธเจ้า หรือองค์แทนพระพุทธเจ้า มีอายุประมาณ 500 ปี และเคยถูกขโมยไปเมื่อหลายปีก่อน แต่ไม่สามารถนำไปได้ คนที่ก่อเหตุต้องทิ้งไว้ในป่า จนกระทั่งชาวบ้านพบเห็น จึงได้พากันนำเอามาเก็บรักษาไว้จนทุกวันนี้
ด้าน พระวิบูลย์ ถิรจิตโต ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์เวียงยาว และนายหล้า กรรมการพิพิธภัณฑ์ ต่างระบุว่า พระพุธรูปองค์นี้มีลักษณะเด่นสง่างามมีผู้คนมาชมกันทุกวัน บางคนมาขอโชคลาภต่างๆก็ได้ไปตามที่ขอมั่งไม่ได้มั่งแล้วแต่ความเชื่อศรัทธา และเมื่อมองดูใบหน้าพระพุทธรูปแล้ว ท่านจะยิ้มแบบทักทาย และเมื่อเราจากท่านไป ก็จะมองตามเราด้วย ขณะมายืนดูหรือกราบไหว้ท่านเสร็จ ทุกวันนี้ มีผู้คนมาชมกันทุกวันไม่ขาดสาย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา พบว่า ลักษณะพระพุทธรูปองค์นี้ เก่าแก่เหมือนทุกองค์ ที่ตั้งประดิษฐานในพิพิธภัณฑ์ แต่ที่แปลกกว่าองค์อื่นก็ตรงความสง่างาม อมยิ้ม และส่งสายตามองตามดังกล่าว ส่วนเรื่องการห้ามไม่ให้ผู้คนทั่วไปขอโชคลาภนั้น เป็นความเชื่อของชาวบ้านพระไม่สามารถไปยุ่งได้เพราะเป็นพระสงฆ์ ทุกวันก็เปิดพิพิธภัณฑ์ให้ชมทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00-15.30 น.ทุกวัน โดยไม่เก็บค่าเข้าชมแต่อย่างใด