xs
xsm
sm
md
lg

ศรีสะเกษทำบุญ “เอิ้นขวัญ” ชาวชายแดน “เขาวิหาร” -จี้ “มาร์ค” ฟ้องศาลโลกให้เขมรชดใช้ 3,000 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ นำขรก.- ปชช. ร่วมทำบุญตักบาตรและบายศรีเรียกขวัญชาวบ้านชายแดนเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ผู้ประสบภัยสู้รบระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา วันนี้ ( 23 ก.พ.)
ศรีสะเกษ - ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ นำ ขรก.-ปชช.ทำบุญตักบาตรบายศรี “เอิ้นขวัญ” ชาวชายแดน “เขาพระวิหาร” เหยื่อกระสุนปืนใหญ่-ลูกจรวดเขมร ขณะกำนัน ต.เสาธงชัย เดินหน้าจี้รัฐบาล “นายกฯมาร์ค” ฟ้องศาลโลกเรียกค่าเสียหายกัมพูชา 3,000 ล้าน ให้ ปชช.ทุกหมู่บ้านที่สูญเสียชีวิต ทรัพย์สินบ้านเรือนพังเสียหาย ส่วนผู้นำท้องถิ่น อ้างอุ่นใจจะมีผู้สังเกตการณ์อาเซียนมาเฝ้าจับตาพฤติกรรมทหารเขมรโหดยิงถล่มพลเรือน

วันนี้ (23 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 07.30 น.ที่ศาลาประชาคมบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย พล.ต.ชวลิต ชุนประสาร ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี (ผบ.กกล.สุรนารี) นายวินัย สิทธิมณฑล รองผู้ว่าฯศรีสะเกษ นายวรรณะ บุญสุข ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 4 ได้นำข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ร่วมกันประกอบพิธีทำบุญตักบาตรและบายศรีสู่ขวัญ หรือ “เอิ้นขวัญ” ชาวบ้านภูมิซรอลและประชาชนหมู่บ้านชายแดนในเขต ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ได้รับผลกระทบจากการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา บริเวณเขาพระวิหาร ระหว่างวันที่ 4-16 ก.พ.ที่ผ่านมา

โดยได้นิมนต์พระสงฆ์มาประกอบพิธีทางศาสนา ซึ่ง นายวีรยุทธ ดวงแก้ว กำนัน ต.เสาธงชัยและ นายโชคชัย สายแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เสาธงชัย นำประชาชนเข้าร่วมพิธีทำบุญตักบาตรและบายศรีสู่ขวัญเป็นจำนวนมาก

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว และในวันนี้ชาวบ้านภูมิซรอล และทุกหมู่บ้านชายแดนในเขต ต.เสาธงชัย ได้มาร่วมกันประกอบพิธีทำบุญตักบาตรบายศรีสู่ขวัญ เพื่อความเป็นสิริมงคลของหมู่บ้านที่ผ่านพ้นภาวะภัยสงครามมาแล้ว รวมทั้งเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ที่เสียชีวิตจากการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา และที่สำคัญเพื่อเป็นการเอิ้นขวัญ หรือเรียกขวัญของประชาชนที่เสียขวัญกำลังใจ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้ขวัญกลับมาอยู่บ้านเรือนตามความเชื่อมาแต่โบราณของชาวอีสาน

ในส่วนของการฟื้นฟูเยียวยาซ่อมแซมบ้านเรือนของประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากกระสุนปืนใหญ่ และจรวดของทหารกัมพูชานั้น ขณะนี้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งรัดดำเนินการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างบ้านเรือนให้กับชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายเนื่องจากถูกกระสุนปืนใหญ่พังเสียหายทั้งหลัง กลุ่มอาชีวศึกษาศรีสะเกษ ประกอบด้วย วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ วิทยาลัยการอาชีพศรีสะเกษ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีศรีสะเกษ และวิทยาลัยการอาชีพกันทรลักษ์ กำลังเร่งดำเนินการก่อสร้างบ้านเรือนให้กับชาวบ้านทั้ง 7 หลัง รวมมูลค่าบ้านหลังละ 500,000 บาท โดยจะใช้เวลาในก่อสร้างประมาณ 35 วันจะแล้วเสร็จ ซึ่งล่าสุดการก่อสร้างมีความคืบหน้าไปเป็นอย่างมาก

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการก่อสร้างหลุมหลบภัยเพื่อเป็นที่หลบภัยหากเกิดการสู้รบระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา ขึ้นอีกนั้น ได้เริ่มทำการก่อสร้างแล้วตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยจะทำการก่อสร้างหลุมหลบภัยทุกหมู่บ้านที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาด้าน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จำนวนทั้งสิ้น 451 แห่ง และซ่อมแซมหลุมหลบภัยเดิมที่ชำรุดจำนวน 297 แห่ง ซึ่งต้องขอขอบรัฐบาล ที่ได้ให้สนับสนุนงบประมาณดูแลเยียวยาประชาชนชาวศรีสะเกษทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สู้รบครั้งนี้

ด้าน นายวีรยุทธ ดวงแก้ว กำนันตำบลเสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า จากเหตุการณ์การปะทะกันระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา ซึ่งจากประจักษ์พยานความเสียหาย และมีชาวบ้านเสียชีวิต ทำให้เชื่อได้ว่าผู้ที่ก่อเหตุสงครามในครั้งนี้ คือ ฝ่ายกัมพูชา ซึ่งเป็นฝ่ายกระหายสงคราม ระดมยิงอาวุธร้ายแรงเข้าใส่ที่พื้นที่พลเรือน ทำให้บ้านเรือนประชาชนไทยพังเสียหาย ไร่นา สวนยางพารา ไม่สามารถเข้าไปประกอบการเกษตรได้ ทำให้ขาดรายได้สูญเสียประโยชน์ และประชาชนเสียขวัญกำลังใจเป็นจำนวนมาก เฉพาะในเขตพื้นที่ ต.เสาธงชัย มีหมู่บ้านได้รับความเสียหายจำนวนทั้งสิ้น 11 หมู่บ้าน 177 ครัวเรือน พื้นที่ทางการเกษตรเสียหาย 664 ไร่

ดังนั้น จึงขอเรียกร้องให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำรัฐบาลไทย ได้เป็นตัวแทนของประชาชน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และทุกตำบลของ จ.ศรีสะเกษที่ได้รับความเสียหาย และได้รับผลกระทบจากการสู้รบกันในครั้งนี้ ได้ฟ้องศาลโลกหรือศาลยุติธรรมระหว่างประเทศเพื่อเรียกค่าเสียหายจำนวน 3,000 ล้านบาท จากรัฐบาลกัมพูชาให้กับประชาชนไทยทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากภัยการสู้รบและอาวุธสงครามของทหารกัมพูชาโดยด่วน

ทั้งนี้ เนื่องจากรัฐบาลกัมพูชาก้าวร้าว กระทำการอย่างโหดร้ายรุนแรงกับชาวบ้านภูมิซรอล และประชาชนไทยชายแดนด้านเขาพระวิหาร ซึ่งพยานหลักฐานต่างๆ นั้น ไม่ต้องหายากเพราะภาพเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นประจักษ์พยานที่ชัดเจนอยู่แล้ว เรื่องนี้รัฐบาลไทยต้องปกป้องรักษาผลประโยชน์ให้กับชาวบ้านภูมิซรอลและประชาชนชายแดนทุกหมู่บ้านในเขต ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ

“ควรต้องเอาเดือดร้อนของประชาชนไทยครั้งนี้ นำเสนอให้ศาลโลกได้รับทราบถึงความโหดเหี้ยมของฝ่ายกัมพูชา ที่ยิงถล่มใส่บ้านเรือนของประชาชน จนทำให้ชาวบ้านเสียชีวิต 1 รายและบ้านพังเสียหายยับเยินจำนวนมาก” นายวีรยุทธ กล่าว

นางบิน ดอกดวง อายุ 87 ปี อยู่บ้านเลขที่ 291 ม.12 บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และกำนัน ต.เสาธงชัย ร่วมกับทางฝ่ายทหารที่ได้จัดพิธีทำบุญตักบาตร บายศรีสู่ขวัญ เพื่อเอิ้นขวัญ หรือเรียกขวัญ ให้กับชาวบ้านทุกคนในครั้งนี้ เพราะทำให้ชาวบ้านทุกคนได้รับขวัญกำลังใจและมีความอุ่นใจว่า ได้รับการดูแลจากทุกส่วนราชการเป็นอย่างดี ซึ่งขณะนี้ตนและครอบครัวได้กลับเข้ามาอยู่บ้านภูมิซรอลแล้ว หลังจากที่ต้องทิ้งร้างไว้ เพราะต้องอพยพหนีภัยการสู้รบไปนานกว่า 10 วัน

ด้าน นายโชคชัย สายแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เสาธงชัย กล่าวว่า กรณีที่กลุ่มอาเซียนจะส่งทหารผู้สังเกตการณ์จากประเทศอินโดนีเซียเข้ามาสังเกตการณ์ในพื้นที่ไทยและกัมพูชา ที่บริเวณเขาพระวิหาร ฝ่ายละ 15 คน นั้น เห็นว่า เป็นการดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะชาวบ้านทุกคนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร จะได้รู้สึกอุ่นใจว่า ต่อไปทหารกัมพูชาจะได้ไม่ยิงปืนใหญ่ หรือยิงจรวดเข้ามาในเขตแดนไทยอีก หากกัมพูชายิงปืนใหญ่หรือจรวดเข้ามา ก็จะทำให้มีพยานรู้เห็นว่าฝ่ายกัมพูชาเป็นฝ่ายก่อสงคราม ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ตนและชาวบ้านชาว ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ รู้สึกอบอุ่นใจมากขึ้น


นายวีรยุทธ  ดวงแก้ว  กำนันตำบลเสาธงชัย





นายสมศักดิ์  สุวรรณสุจริต  ผู้ว่าฯศรีสะเกษ

กำลังโหลดความคิดเห็น