ศรีสะเกษ - ชาวกันทรลักษ์ชายแดนเขาพระวิหาร เร่งปัดกวาดบ้านเรือน หลังทิ้งร้างหนีกระสุนปืนใหญ่เขมรไปนาน 9 วัน ขณะสัตว์เลี้ยงหิวโซวิ่งโผเข้าหาเจ้าของ ด้านกลุ่มอาชีวศึกษาศรีสะเกษระดมสร้างบ้านใหม่-ซ่อมแซมบ้านเรือนที่พังเสียหาย ส่วนซาก ร.ร.ภูมิซรอลวิทยา เหยื่อกระสุนปืนใหญ่กลายเป็นจุดสนใจ พระเณร-ชาวบ้านแห่มาดูความเสียหาย
วันนี้ ( 12 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามถนนทุกสายที่มุ่งไปสู่หมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เช่น หมู่บ้านภูมิซรอล บ้านโนนสว่าง บ้านโนนเจริญ ต.เสาธงชัย และบ้านโศกขามป้อม บ้านภูผาหมอก ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ คึกคักไปด้วยกลุ่มประชาชนที่ทยอยเดินทางกลับบ้านเรือนของตัวเอง โดยรถยนต์ของทางราชการที่เดินทางเข้ามาส่งและรถยนต์ส่วนตัว รวมทั้งรถไถนาที่เดินตามบรรทุกเอาทรัพย์สิน สัมภาระข้าวของ ส่วนตัวและลูกเมียกลับบ้าน หลังจากเสียงปืนการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาที่ชายแดนเขาพระวิหารได้เงียบหายมานาน 5 วัน อย่างไรก็ตามจากการสังเกตเห็นว่าใบหน้าแววตาของประชาชนในพื้นที่ ก็ยังมีอาการหวาดหวั่น ไม่มั่นใจในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เนื่องจากเกรงว่าจะมีเหตุการณ์ปะทะเกิดขึ้นได้อีกตลอดเวลา
นางเพชร ภาษี อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 / 3 บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า เมื่อกลับมาถึงบ้านพบว่ามีเศษใบไม้และฝุ่นละอองเต็มบ้านเรือนไปหมด ต้องเร่งทำความสะอาดเพื่อให้สามารถเข้าไปอยู่อาศัยได้เช่นเดิม ขณะเดียวกันสัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงเอาไว้คือ เจ้าปุย สุนัขเพศเมียพันทาง และเป็ด ไก่ เมื่อเห็นเจ้าของเดินเข้ามาในบ้านก็พากันวิ่งเข้ามาหาด้วยอาการหิวโซ เพราะไม่ได้ให้อาหารมานานถึง 9 วันแล้ว นับตั้งแต่ทิ้งบ้านไปอยู่ที่ศูนย์อพยพวิทยาลัยการอาชีพกันทรลักษ์ เพื่อหนีภัยการสู้รบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าปุยได้เข้ามาคลอเคลียอยู่ไม่ยอมห่าง ทำให้ตนถึงกับน้ำตาซึมที่ต้องทอดทิ้งบ้านเรือน สัตว์เลี้ยงไปอยู่ที่อื่น อย่างไรก็ตาม พวกเรายังไม่มั่นใจว่าจะมีความปลอดภัย เพราะทางฝ่ายกัมพูชาอาจยิงปืนใหญ่เข้ามาได้ตลอดเวลา
ทั้งนี้ ในหมู่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ มีกลุ่มอาชีวศึกษาศรีสะเกษ ประกอบด้วย วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ วิทยาลัยสารพัดช่างศรีสะเกษ วิทยาลัยการอาชีพศรีสะเกษ วิทยาลัยการอาชีพกันทรลักษ์ กำลังช่วยกันรื้อซากบ้านเรือน เพื่อเตรียมสร้างบ้านใหม่ให้กับชาวบ้านที่บ้านถูกกระสุนปืนใหญ่ทหารกัมพูชาถล่ม ไฟไหม้เสียหายทั้งหลัง และเร่งซ่อมแซมบ้านเรือนให้กับชาวบ้านในส่วนที่เสียหายบางส่วน
โดยมีการติดตั้งป้ายหน้าบ้านที่พังเสียหายว่าเป็นความรับผิดชอบของวิทยาลัยใดที่จะเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการก่อสร้างให้ ขณะที่ชาวบ้านที่บ้านพังเสียหายก็ได้มีส่วนราชการต่าง ๆ นำเอาข้าวของ เครื่องอุปโภค บริโภคและอาหารมาแจกจ่ายให้ เพื่อเป็นอาหารรับประทานในครอบครัวในช่วงที่เพิ่งอพยพยกลับมาสู่บ้านวันแรกนี้ ซึ่งมี นายวีรยุทธ ดวงแก้ว กำนัน ต.เสาธงชัย และคณะ ช่วยกันแจกจ่ายสิ่งของที่ได้รับจากการบริจาคจำนวนมากให้กับชาวบ้าน เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน
นายวีรยุทธ ดวงแก้ว กำนัน ต.เสาธงชัย กล่าวว่า ชาวบ้านในเขต ต.เสาธงชัย ที่กลับมาอยู่บ้านเรือนของตัวเองทั้งหมดยังไม่ไว้วางใจว่าจะไม่มีการปะทะกันขึ้นมาอีกระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย เนื่องจากการปะทะกันทางทหารที่บริเวณเขาพระวิหารนี้ มักเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แต่อย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณ พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และประชาชนชาวไทยทั่วประเทศที่ช่วยบริจาคสิ่งของ เพื่อมาให้การช่วยเหลือแก่ประชาชนชาวบ้านในเขต ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่อพยพหนีภัยการสู้รบในครั้งนี้ สำหรับในคืนนี้ ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ ได้จัดกิจกรรมปลอบขวัญชาวบ้าน โดยการนำเอาภาพยนตร์จอยักษ์มาฉายหนังให้กับชาวบ้านชม จำนวน 2 เรื่อง เพื่อให้ชาวบ้านได้มีความอบอุ่น คลายกังวลจากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา เมื่อวันที่ 4 - 6 ก.พ.54 ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกัน ที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นจุดที่กระสุนปืนใหญ่ของทางฝ่ายกัมพูชาตกใส่ 3 ลูก ทำให้อาคารเรียนพังเสียหายยับเยิน ปรากฏว่า ได้มีพระสงฆ์ และประชาชนทั่วไปพากันมาดูความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพระครูกิตติ ปริยัติคุณ เจ้าอาวาสวัดบ้านหนองคู ต.ยาง อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ที่นำพระเณรมาดูความเสียหายที่เกิดขึ้น กล่าวว่า อาตมาภาพไม่คาดคิดมาก่อนว่า ความร้ายแรงของอาวุธสงครามจะมีประสิทธิภาพที่น่ากลัวมากขนาดนี้ ทำให้อาคารเรียนพังเสียหายยับเยิน
