ศรีสะเกษ - ชาวบ้านภูมิซรอลดับสยอง 1 รายเจ็บ 5 บ้านเรือน-โรงเรียนพังยับเยิน สังเวยกระสุนปืนใหญ่ “เขมร” เหตุปะทะเดือดทหารไทย-กัมพูชา ภูมะเขือ-เขาพระวิหาร “มทภ.2” รุดลงพื้นที่โทรฯคุยบิ๊กทหารเขมร สงบศึกสิ้นเสียงปืน เวลา 17.45 น. ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษเร่งช่วยเหลือชาวบ้านที่อพยพหนีภัยสงครามอย่างเต็มที่
วานนี้( 4 ก.พ.) เมื่อเวลา 18.10 น. ผู้สื่อข่าวรายงานประจำจังหวัดศรีสะเกษ ว่า บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษและคณะ ได้เดินทางไปตรวจสอบสถานที่เกิดบ้านเรือนของชาวบ้านที่ไฟกำลังลุกไหม้ เนื่องจากโดนกระสุนปืนใหญ่จากทหารฝ่ายกัมพูชาที่ยิงปะทะกันกับทหารไทยตั้งแต่เวลาประมาณ 15.00 น.ที่ผ่านมา ซึ่งจากการสำรวจเบื้องต้นปรากฏว่า มีบ้านเรือนของชาวบ้านได้รับความเสียหายประมาณ 5 หลัง และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นายเจริญ ผาหอม อายุ 59 ปี เสียชีวิตคาที่เนื่องจากโดนกระสุนปืนใหญ่ตกใส่ที่บริเวณคลองส่งน้ำที่แห้งขอด ขณะที่นายเจริญลงไปหลบซ่อนตัวอยู่
นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษกล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทำการสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น และได้จัดตั้งศูนย์อพยพชาวบ้านที่บริเวณหอประชุมที่ว่าการ อ.กันทรลักษ์ และอีกหลายแห่งในเขต อ.กันทรลักษ์ ซึ่งขณะนี้มีชาวบ้านอพยพหนีภัยสงครามมาพักอยู่จำนวนมาก พร้อมทั้งจะได้หาข้าวสารอาหารแห้งไปให้การช่วยเหลือชาวบ้านในครั้งนี้อย่างเต็มที่ ส่วนบ้านเรือนชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายนั้นจะได้ให้การช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการอย่างเต็มที่ต่อไป
ทั้งนี้ เหตุการณ์การปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น.ของวันนี้ที่บริเวณภูมะเขือ ด้านทิศตะวันตกของเขาพระวิหารติดกับแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงถล่มใส่ทหารไทยก่อนโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งทหารไทยที่ตรึงกำลังอยู่ที่บริเวณได้เปิดฉากยิงโต้ตอบทันที
โดยทหารทั้ง 2 ฝ่ายได้ใช้ปืนใหญ่ถล่มยิงใส่กันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้กระสุนปืนใหญ่ของทหารฝ่ายกัมพูชายิงเข้ามาตกในเขตแดนไทยที่บริเวณบ้านภูมิซรอล และบ้านโนนเจริญ ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทำให้บ้านเรือนและสวนยางยางพาราของชาวบ้านได้รับความเสียหายจำนวนมาก
นับตั้งเแต่เริ่มการปะทะกันทำให้ชาวบ้านจากหลายหมู่บ้าน เช่น บ้านภูมิซรอล บ้านโศกขามป้อม บ้านภูผาหมอก บ้านโนนเจริญ บ้านโนนดู่ และ บ้านบึงมะลู ได้พากันวิ่งหนีเข้าไปหลบในหลุมหลบภัย จากนั้นได้อาศัยช่วงจังหวะที่เสียงปืนเว้นระยะและได้พากันออกจากหลุมหลบภัยและพากันอพยพขึ้นรถปิกอัพและรถไถนาเดินตามจำนวนหลายสิบคัน พากันอพยพอย่างเร่งรีบเข้ามาในเขตตัว อ.กันทรลักษ์ เพื่อหนีภัยสงครามกันอย่างโกลาหล ขณะที่เด็กนักเรียนได้พากันวิ่งหนีเข้าหลุมหลบภัยเช่นกัน เมื่อเสียงปืนเว้นช่วง คณะครูได้จึงได้ให้เด็กนักเรียนพากันกลับบ้านไปหาผู้ปกครอง ขณะที่คณะครูก็ได้วิ่งพากันกลับบ้านเรือนของตนเองเพื่ออพยพเคลื่อนย้ายหนีภัยสงครามเช่นกัน
ขณะเดียวกัน ที่บริเวณด้านทิศตะวันตกรอบเขาพระวิหาร ปรากฏว่ากระสุนปืนใหญ่ของฝ่ายไทยได้ยิงถล่มใส่ทหารกัมพูชาและทำให้เกิดเพลิงไหม้รอบบริเวณเขาพระวิหาร ใกล้กับวัดแก้วสิขาคีรีสวาระ ด้านทิศตะวันตกของเขาพระวิหาร ควันจากเพลิงไหม้ได้พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าสามารถมองเห็นในระยะไกลได้อย่างชัดเจน ขณะที่ทหารไทยที่เป็นชุดประสานงานจำนวน 5 นายประจำอยู่ที่วัดแก้วสิขาคีรีสวาระ ได้รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับหน่วยเหนือได้รับทราบ
จากนั้นเวลาประมาณ 17.00 น. พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) และคณะ ได้เดินทางมาที่บริเวณที่มีการปะทะกันและได้รับรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งจากนั้นมีรายงานข่าวว่า พล.ท.ธวัชชัย ได้มีการประสานงานทางโทรศัพท์กับ พล.ท.ซะรัย ดึ๊ก ผบ.กองกำลังทหารกัมพูชาที่รับผิดชอบบริเวณเขาพระวิหาร และได้มีการหยุดยิงหลังจากที่มีการการเจรจากันแล้วประมาณ 30 นาที
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 17.45 น.วันเดียวกัน เสียงปืนใหญ่จากฝ่ายกัมพูชาจึงได้สงบลง และทหารไทยก็ได้หยุดยิ่งเช่นกัน ส่วนชาวบ้านยังคงอพยพหนีภัยสงครามเข้าไปในเขต อ.กันทรลักษ์ เพื่อหนีวิถีกระสุนปืนใหญ่ของฝ่ายกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้หมู่บ้านของชาวบ้านกลายเป็นหมู่บ้านร้าง มีเพียงทหารและตำรวจเท่านั้นที่เข้าไปดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย
นายฉลวย มีผุย รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ที่กำลังเข้าไปให้การช่วยเหลือชาวบ้านกล่าวว่า ทหารกัมพูชายิงปืนใหญ่เข้ามาชุดละประมาณ 10 นัด จำนวนประมาณ 3 ชุด รวมประมาณ 30 นัด และกระสุนปืนใหญ่ได้ตกใส่บ้านเรือนของชาวบ้านภูมิซรอลได้รับความเสียหายประมาณ 5 หลัง และหลังคาที่ทำการ อบต.เสาธงชัย ซึ่งอยู่ติดกับหมู่บ้านภูมิซรอล ได้รับความเสียหาย และมีกระสุนปืนใหญ่ไปตกใส่หลังคา โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา จำนวน 2 ลูกได้รับความเสียหายยับเยิน
อีกทั้งสวนยางของชาวบ้านโดนกระสุนปืนใหญ่ตกใส่ ทำให้เกิดไฟไหม้สวนยางได้รับความเสียหายประมาณ 50 ไร่ และมีผู้เสียชีวิตเป็นลูกบ้านของตนคือ นายเจริญ ผาหอม อายุ 59 ปี เสียชีวิตคาที่ และมีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 5 ราย ขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล กันทรลักษ์
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทย-กัมพูชาในครั้งนี้ ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พากันหวาดผวาภัยสงครามเป็นอย่างมาก และชาวบ้านจำนวนมากได้เตรียมพากันอพยพย้ายบ้านไปอยู่หมู่บ้านอื่น ที่ห่างไกลจากชายแดนไทย-กัมพูชาบริเวณเขาพระวิหารเพื่อความปลอดภัยจากภัยสงครามที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา