พิจิตร - ชาวนา 4 ตำบลของตะพานหินได้ทำนาปรังครั้งแรกบนผืนนากว่า 5 พันไร่ หลังชลประทานติดตั้งเครื่องสูบน้ำด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแม่น้ำน่านใส่คลองที่สูงลอยฟ้าเหนือผืนนา 2 เมตร ทุ่นค่าน้ำมันไม่ต้องสูบน้ำเข้านาแค่เปิดท่อน้ำก็ไหลทันที
วันนี้ (23 ก.พ.54) นายนิพนธ์ ดวงดารา หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำโครงการชลประทานจังหวัดพิจิตร ได้เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ดูความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาภัยแล้งของชาวนาในเขต อ.ตะพานหิน ซึ่งเป็นทุ่งรับน้ำจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ที่ถูกน้ำท่วมทุกปีจนไม่สามารถทำนาข้าวได้ตามฤดูกาล
ซึ่งกรมชลประทาน ได้หาแนวทางแก้ไขและสับหลีกฤดูกาลทำนาให้มาทำได้ในช่วงหมดฤดูฝนด้วยการผลักดันงบประมาณจำนวน 30 ล้านบาท สร้างสถานีสูบน้ำด้วยพลังงานไฟฟ้า 2 แห่งที่บริเวณบ้านไผ่ร้อยกอ ต.ไทรโรงโขน และบ้านหาดแตงโม ต.งิ้วราย อ.ตะพานหิน โดยสูบน้ำจากแม่น้ำน่านใส่ยังคลองที่สูงลอยฟ้าเหนือผืนนาถึง 2 เมตร ทำให้ชาวนาไม่ต้องสูบน้ำเพียงแค่เปิดท่อ น้ำก็จะไหลเข้านาได้อย่างทั่วถึงในพื้นที่ 4 ตำบล ของ อ.ตะพานหิน คือ ต.ไทรโรงโขน , งิ้วราย , ดงตะขบ , หนองพยอม ครอบคลุมพื้นที่นาให้ชาวนาได้ทำนาปรังได้มากถึง 5 พันไร่ และมีกรรมการหมู่บ้านเป็นผู้ดูแล
นายนิพนธ์ บอกว่า ขณะนี้ตั้งเป้าจะสูบน้ำเข้าคลองลอยฟ้าดังกล่าวประมาณ 5 แสนคิว แต่ตอนนี้ได้สูบน้ำด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแม่น้ำน่านช่วยชาวนาพื้นที่ดังกล่าวไปแล้ว 3 แสนคิว ซึ่งคาดว่าอีก 1 เดือนข้างหน้า ข้าวทั้งท้องทุ่งนี้ 5 พันไร่ จะได้ผลผลิตไม่น้อยกว่า 4 พันตันอย่างแน่นอน
ด้านนายยงยุทธ ชมมิ กำนันตำบลงิ้วรายประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำพร้อมด้วยนายบำรุง บัวทอง ซึ่งเป็นเลขากลุ่มผู้ใช้น้ำตำบลไทรโรงโขน ที่พาผู้สื่อข่าวลงดูพื้นที่ให้สัมภาษณ์ว่า ตลอด 20-30 ปีที่ผ่านมาพื้นที่ดังกล่าวแทบจะไม่ได้ผลผลิตจากการทำนาเลย เพราะอยู่นอกเขตชลประทาน เมื่อถึงฤดูฝน น้ำป่าก็จะไหลหลากมาจากเพชรบูรณ์ เข้าทับคล้อ เอ่อล้นมาท่วมพื้นที่ 4 ตำบล ของ อ.ตะพานหิน พอถึงหน้าแล้งน้ำก็แห้งขอด
นายยงยุทธ บอกว่า เพิ่งจะมีปีนี้เป็นปีแรกที่ได้ทำนา มีน้ำอุดมสมบูรณ์ เพราะสำนักงานชลประทานพิจิตร สร้างเครื่องสูบน้ำด้วยพลังงานไฟฟ้าสูบน้ำจากแม่น้ำน่านเข้ายังคลองลอยฟ้าที่สูงกว่าท้องนา 2 เมตร เพียงแค่เปิดท่อที่เชื่อมไว้น้ำก็ไหลเข้านาไม่ต้องเปลืองค่าน้ำมันใส่เครื่องสูบน้ำ แต่จะใช้วิธีเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำใครที่มีนาอยู่ติดริมคลองลอยฟ้ามีนาอยู่หมอนแรก หรือต้นคลอง น้ำใสไหลแรงก็ต้องจ่าย 150 บาทต่อไร่ ใครที่อยู่ปลายคลองน้ำอาจไหลไปช้าหรืออาจต้องมีการสูบบ้างก็จะเสียเพียงไร่ละ 130 บาทต่อไร่ ก็ถือว่าราคาแสนถูกและคุมค่าที่ได้ทำนามีน้ำอย่างอุดมสมบูรณ์ ซึ่งคาดว่าในปีถัดไปกระทรวงเกษตร ก็จะเข้ามาส่งเสริมให้เป็นพื้นที่ปลูกเมล็ดพันธุ์ข้าว เพื่อใช้เป็นข้าวพันธุ์ขายให้กับชาวนาทั่วไป อีกด้วย
นอกจากนี้ จะส่งเสริมให้มีการเลี้ยงสัตว์และเลี้ยงปลาเพื่อทำการเกษตรแบบไร่นาสวนผสมตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงได้อย่างสบาย เพราะน้ำคือชีวิต ถ้ามีน้ำก็สามารถเปลี่ยนเป็นเงินได้ด้วยการทำการเกษตรสารพัดรูปแบบ