จันทบุรี - สถานการณ์ชายแดน จ.จันทบุรีตรึงเครียด โดยขณะนี้ ยังคงปิดด่านชายแดน หลังทหารทั้ง 2 ฝ่ายเสริมกำลังประชิดเต็มที่ ด้านกองกำลังป้องกันชายแดนได้เสริมกำลังอาวุธหนักเทียบเท่าทหารกัมพูชา ขนปืนใหญ่ขนาด 155 มม. พร้อมมีรายงานเตรียมอพยพชาวบ้านที่อยู่แนวชายแดนออกนอกพื้นที่ หากมีการปะทะกัน
วันนี้ (12 ก.พ.2554 ) บริเวณชายแดนด้านจังหวัดจันทบุรี คือ ด่านชายแดนถาวรบ้านแหลม ตำบลเทพนิมิต และด่านชายแดนถาวรบ้านผักกาด อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี บรรยากาศเป็นไปอย่างตรึงเครียด เนื่องจากทหารไทยและทหารกัมพูชาได้มีการเสริมกำลังทหารและอาวุธหนักเข้าประชิดชายแดนอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นปืนใหญ่ขนาด 155 มม.ที่มีรัศมีการยิงกว่า 40 กิโลเมตร มาประจำการในพื้นที่ชายแดน และรถหุ้มเกาะทำให้ด่านชายแดนถาวรทั้ง 2 แห่ง
ด้านจังหวัดจันทบุรีในขณะนี้เป็นไปอย่างเงียบเหงา แม้ด่านชายแดนทั้ง 2 แห่ง จะยังไม่มีการปิดด่านชายแดนก็ตาม ขณะที่ชาวกัมพูชา รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าที่เข้ามาทำการค้าขายในพื้นที่ชายแดนของไทยเริ่มที่จะไม่กล้าเข้ามาทำการค้าขายตามพื้นที่แนวชายแดน รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าชาวไทยด้วย บางร้านต้องมีการปิดร้านและหยุดการค้าขายชั่วคราว เนื่องจากเกรงว่าจะมีเหตุการณ์การปะทะและการสู้รบกันเกิดขึ้น และจะได้รับอันตรายจากการสู้รบ
ส่วนทางทางทหารเรือได้มีการจัดเรือรบลอยลำและลาดตระเวนอยู่ในน่านน้ำไทย และพร้อมหากมีการสู้รบกันเกิดขึ้น นอกจากนี้ทางจังหวัดรายงานว่าเตรียมอพยพประชาชนบริเวณชายแดนออกนอกพื้นที่ หากมีการปะทะกันเกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยนายธีรเทพ ศรียะพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้ให้ นายพจน์ รักความสุข นายอำเภอโป่งน้ำร้อน และนายอำเภอสอยดาวต่างมีการเตรียมความพร้อม หากมีการปะทะกันเกิดขึ้นก็ให้มีการรีบเร่งอพยพชาวบ้านที่อยู่ตามแนวชายแดนทั้ง 2 แห่ง ให้ออกมาอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย คือ จะเป็นที่ว่าการอำเภอของแต่ละพื้นที่ก่อน หรือ วัด และ โรงเรียน แล้วแต่ความสะดวกและปลอดภัย
ทั้งนี้ ทางจังหวัดจังหวัดจันทบุรี ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมด่วนเพื่อ วางแผนการอพยพหากมีการสู้รบตามแนวชายแดนจันทบุรีอย่างเร่งด่วน โดยมี นายเกรียงเดช เข็มทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เป็นประธานในการประชุม โดยมีผู้แทนส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว ซึ่งมีพื้นที่ชายแดนติดกับประเทศกัมพูชา เข้าหารือ ทบทวนแผนปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังของจังหวัดจันทบุรี หลังจากเกิดเหตุปะทะกันตามแนวชายแดนด้านจังหวัดศรีษะเกษ อำเภอกันทรลักษณ์ บริเวณภูมะเขือ ตำบลรุง และตำบลเสาธงชัย ตั้งแต่วันที่ 4 ต่อเนื่องถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ เพื่อเตรียมความพร้อมการปฏิบัติการช่วยเหลือราษฎร หากจำเป็นต้องทำการอพยพ เบื้องต้นผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รายงานความพร้อมของกำลังพล เครื่องมือเครื่องใช้ อุปกรณ์ที่จำเป็น รวมถึงการซ่อมบำรุงหลุมหลบภัยให้พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา ซึ่งเป็นปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่ ส่วนหลังในขั้นตอนก่อนเกิดภัย นอกจากนี้ยังหารือถึงขั้นตอน ขณะเกิดภัย โดยร่วมกันศึกษาแผนอพยพประชาชนและส่วนราชการของสองอำเภอ พื้นที่รับการอพยพที่กำหนดไว้ 3 ขั้น ตามความรุนแรงของเหตุการณ์ ประกอบด้วยเส้นทางเคลื่อนย้าย สถานที่รับการอพยพเช่น โรงเรียน และวัด ที่ปลอดภัยจากพื้นที่สู้รบ
สำหรับจำนวนครัวเรือนและประชาชน หากจำเป็นต้องใช้แผนการอพยพในเขตอำเภอโป่งน้ำร้อน ประกอบด้วยพื้นที่ตำบลเทพนิมิต ตำบลคลองใหญ่ ตำบลหนองตาคง รวมกว่า 4,500 ครัวเรือน ประชากรกว่า 17,000 คน ส่วนอำเภอสอยดาวประกอบด้วยพื้นที่ตำบลทุ่งขนาน ตำบลสะตอน จำนวนกว่า 6,800 ครัวเรือน ประชากรกว่า 19,000 คน