ASTVผู้จัดการออนไลน์-- กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาได้ส่งหนังสือถึงประธานที่ประชุมคณะมนตรีความ มั่นคงแห่งสหประชาชาติประจำเดือน ก.พ. นี้ รายงานสถานการณ์การปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาในวันศุกร์ โดยกล่าวหาว่าไทยยิงปืนใหญ่ถล่มทำให้ปราสาทพระวิหารได้รับความเสียหายในหลาย แห่ง ขณะที่หน่วยโฆษกของรัฐบาลออกประโคมข่าวว่า ปราสาทเก่าแก่คริสต์ศตวรรษที่ 9 อยู่ในสภาพ "ใกล้พัง"
อย่างไรก็ตาม เพียงข้ามคืนที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชาได้ออกรายงานให้ข้อมูลสับสนกลับไปเปลี่ยนมาในหลายเรื่อง และ ยังไม่มีแหล่งข่าวอิสระใดสามารถพิสูจน์ทราบการกล่าวอ้างเกี่ยวกับปราสาทพระวิหารของฝ่ายกัมพูชาได้ในขณะนี้
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกของกองทัพไทยกล่าว ระหว่างให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ในเช้าวันเสาร์นี้ว่าทหารไทยที่นับถือพระพุทธศาสนาไม่มีทางที่จะ
ตั้งใจทำลายสิ่งปลูกสร้างทางศาสนา แต่ในการสู้รบ เมื่อข้าศึกยิงจากทิศทางใด ก็ต้องตอบโต้กลับไปในทิศทางนั้น
ทหารไทยกับกัมพูชาได้ปะทะกันอีกครั้งหนึ่งในเวลาเช้าวันเสาร์นี้ ทหารไทยในพื้นที่ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ทหารกัมพูชายิงลงจากบริเวณปราสาทพระวิหาร เข้าใส่ทหารไทยที่บริเวณเขามออีแดง ที่อยู่ในเขตแดนของไทย
ย้อนกลับไปในในตอนค่ำวันศุกร์ กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาได้ออกคำแถลงฉบับหนึ่ง ขู่จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐบาลไทย โดยกล่าวหาว่า ฝ่ายไทยยิงปืนใหญ่ 105 มม. 130 มม. ถล่มพื้นที่รอบๆ ปราสาทพระวิหาร และ ลึกเข้าไปในดินแดนกัมพูชาเกือบ 20 กม.
กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาได้ระบุในคำแถุลงอีกฉบับหนึ่งที่ออกในเช้าวันเสาร์กล่าวหาว่า ไทยได้ใช้ปืนใหญ่ขนาด 155 มม. ซึ่งเป็นปืนใหญ่ทันสมัย ยิงเป้าหมายระยะไกล ยิงถล่มฝ่ายตนอีกด้วย
ในวันศุกร์เช่นเดียวกัน รัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชาเตียบัญ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนยอมรับว่า การปะทะในวันนั้นฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงเข้าใส่ทหารไทยก่อนที่ชายแดนด้านภูมะเขือ แต่คำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศกัมพูาในเช้าวันเสาร์นี้ได้เปลี่ยนใหม่ กล่าวว่าทหารไทยที่ล้ำเข้าไปใน
ดินแดนกัมพูชาเป็นฝ่ายยิงเข้าใทหารกัมพูชาก่อน
กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชากล่าวหาไทยเช่นเดียวกันนี้ในหนังสือที่ทำถึง นางมาเรีย ลูยซา ริเบโร วิอ็อตตี (Maria Luiza Ribeiro Viotty) เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรของประเทศบราซิลประจำองค์การสหประชาชาติ โดยอ้างว่าระหว่าเวลา 15-17 น.วันศุกร์ ทหารไทยราว 300 นาย ได้รุกล้ำเข้าไปในดินแดนกัมพูาถึง 500 เมต ที่บริเวณห่างจากบันไดขึ้นปราสาทพระวิหารราว 500 เมตร กับอีกหลายจุดรวมทั้งที่ช่องลานอิทรีย์ กับภูมะเขือที่อยู่ถัดไปทางทิศตะวันตก
กัมพูชาอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ลึกเข้าไปในดินแดนกัมพูชา 1,120 และ 1,600 เมตรตามลำดับ
"การยิงถล่มโดยปืนใหญ่ของไทย ได้สร้างความเสียหายแก่ปราสาทพระวิหาร มรดกโลกองค์การยูเนสโกของกัมพูชา ทำให้ปราสาทเก่าแก่อายุ 900 ปี ตกอยู่ในภัยอันตรายเสี่ยงต่อการพังทลาย" สำนักข่าวเอเคพีของทางการอ้างคำแถลงฉบับหนึ่งของหน่วยตอบโต้ ในสังกัดกองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่เผยแพร่ในวันเสาร์
หน่วยนี้กล่าวหาด้วยว่า ในเช้าวันเดียวกันทหารไทยได้ยิงปืนครกเข้าไปในเขตภูมะเขืออีก ทำให้ทหารเขมรเสียชีวิต 1 คน พลเรือนอีก 1 คน
คำแถลงของกองโฆษกฯ อ้างว่า การปะทะในช่วง 2 วันมานี้ มีทหารกับพลเรือนกัมพูชาเสียชีวิตกว่า 10 คน แต่มีรายงานว่าทหารไทยกับราษฎรไทยเสียชีวิตอย่างน้อย 16 ราย นอกจากนั้นกัมพูชายังจับกุมทหารไทยอีก 5 คน ซึ่ง ในนั้น 4 คน “ถูกจับระหว่างการสู้รบ”
อย่างไรก็การกล่าวอ้างของฝ่ายกัมพูชาล้วนขัดแย้งกับตัวเลขที่ได้รับการยืนยันจากโฆษกฝ่ายทหารของไทย และ ที่รายงานโดยสื่ออิสระต่างๆ คือ ไม่มีทหารไทยเสียชีวิตในวันศุกร์ มีเพียงจำนวนหนึ่งได้รับบาดเจ็บ และ 1 นายพลีชีพในการปะทะเช้าวันเสาร์นี้
นอกจากนั้น ภาพโดยสำนักข่าวเอเอฟพี ที่ถ่ายออกจากพื้นที่ในวันศุกร์ ยังแสดงให้เห็นว่า ทหารไทยที่กัมพูชาอ้างว่าถูกจับ แท้จริงเป็นทหารชุดดำของไทย ที่เป็นตัวแทนไปเจรจากับฝ่ายกัมพูชา เพื่อหาทางุยติการปะทะ มีการติดเครื่องหมายกับธงชาติไทยบนไหล่ให้เห็นอย่างชัดเจน
โฆษกของทหารไทยยืนยันตั้งแต่วันศุกร์ว่า ไม่มีทหารไทยคนใดถูกจับ "เป็นเชลย".