ศรีสะเกษ - “องอาจ"ไปเคารพศพ “ส.อ.ธนากร” ทหารกล้าพลีชีพเพื่อชาติปกป้องแผ่นดินไทย “เขาพระวิหาร” เหตุปะทะหนักวันที่ 6 ก.พ. บาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตเป็นรายที่ 2 ที่รพ.วันนี้ ภรรยาเผยปูนบำเหน็จเลื่อนชั้นเป็นยศ “พันตรี” เตรียมหารือกำหนดพิธีพระราชทานเพลิงศพที่วัดบ้านเกิด อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
วันนี้ (8 ก.พ.) เมื่อเวลา 19.45 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดบ้านโนนไหล่ ต.เสียว อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายองอาจ คร้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและคณะ ได้เดินทางมาเคารพศพของ ส.อ.ธนากร พูลเพิ่ม ทหารสังกัดกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 6 จ.อุบลราชธานี ช่วยราชการ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งบาดเจ็บสาหัส จากการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ที่บริเวณผามออีแดง ชายแดนเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และได้เสียชีวิตในวันนี้ ( 8 ก.พ.) ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ซึ่งถือเป็นการเสียชีวิตรายที่ 2 ของทหารไทย โดยมีบรรดานายทหารและเพื่อนทหาร พ่อแม่ญาติพี่น้องของ ส.อ.ธนากร มาร่วมพิธีจำนวนมาก
น.ส.ธันยาภัทร์ ชนินทร์วลัย อายุ 31 ปี ภรรยาของ ส.อ.ธนากร กล่าวว่า รู้สึกเสียใจมากต่อการจากไปของ ส.อ.ธนากร ซึ่งถือว่าเป็นวีระบุรุษที่พลีชีพเพื่อชาติ ทราบว่าขณะนี้ทางราชการต้นสังกัดจะได้พิจารณาเลื่อนยศของ ส.อ.ธนากร เป็นยศ “พันตรี” ส่วนกำหนดพิธีพระราชทานเพลิงศพนั้น ต้องรอให้ตนหารือกับพ่อแม่ญาติพี่น้องของ ส.อ.ธนากร เสียก่อน จึงจะได้มีการกำหนดวันเวลาที่แน่นอนต่อไป ซึ่งคาดว่าจะกำหนดพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 12 ก.พ. นี้ เวลา 14.00 น. ที่วัดบ้านโนนไหล่ ต.เสียว อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
นางวิไลลักษณ์ เข็มเพชร อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นน้าสาวของ ส.อ.ธนากร กล่าวว่า ส.อ.ธนากร ซึ่งเป็นหลานชายของตนเป็นเด็กที่เรียนหนังสือเก่งมาก เป็นลูกคนโตของพี่เขย พี่สาวของตนคือ นายบัวลา พูลเพิ่ม และ นางบัวลา พูลเพิ่ม ต่อมาสอบเข้ารับราชการทหารได้ที่กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 6 จ.อุบลราชธานี และปฏิบัติงานร่วมกับสามีของตนซึ่งเป็นน้าเขยของ ส.อ.ธนากร และเป็นทหารปืนใหญ่เช่นกัน ซึ่งต่าง เป็นกำลังหลักในการหาเงินเลี้ยงครอบครัว ต่อมา ส.อ.ธนากร ได้รับคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และได้ไปประจำอยู่ที่บริเวณผามออีแดง ใกล้กับเขาพระวิหาร
นางวิไลลักษณ์ กล่าวต่อว่า ได้รับทราบเหตุการณ์จากเพื่อนสนิทของ ส.อ.ธนากร ว่า เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 54 เวลาประมาณ 18.00 น. ทหารกัมพูชาได้ยิงปืนใหญ่ เข้าถล่มเข้าใส่ฐานปฏิบัติการที่ ส.อ.ธนากร ประจำการอยู่ และได้มีการปะทะกัน ซึ่งปรากฏว่า ส.อ.ธนากร โดนสะเก็ดกระสุนปืนใหญ่เข้าที่บริเวณศีรษะด้านหลังเป็นแผลขนาดใหญ่กว้างประมาณ 1 นิ้ว และโดนสะเก็ดปืนใหญ่ที่บริเวณแขนข้างขวาเป็นแผลลึก 3 แห่ง ซึ่งเพื่อนทหารที่อยู่ด้วยกันได้พยายามนำตัว ส.อ.ธนากรลงมาโดยใช้รถยนต์ที่มีอยู่บนฐานผามออีแดง
แต่เนื่องจากหากเปิดไฟหน้ารถยนต์วิ่งลงมาจากผามออีแดง ทหารกัมพูชาจะระดมยิงปืนใหญ่ใส่อีก ดังนั้น จึงใช้วิธีดับไฟหน้ารถยนต์แล้วปล่อยให้รถยนต์ไหลลงมาตามถนนจนกระทั่งถึงบริเวณถนนด้านหน้าฐานภูลออ ซึ่งใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง (ชม.) จึงได้สตาร์ทเครื่องรถยนต์และรีบนำตัว ส.อ.ธนากร ส่งไปยังโรงพยาบาลกันทรลักษ์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
แต่เนื่องจากว่าอาการหนักมากแพทย์โรงพยาบาลกันทรลักษ์ จึงได้ส่งตัวไปยัง โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี และแพทย์ได้พยายามช่วยชีวิตอย่างเต็มที่ แต่ก้านสมองของ ส.อ.ธนากรไม่ทำงานแล้ว ส่วนร่างกายยังคงแข็งแรงและ ส.อ.ธนากร ได้เสียชีวิตในวันนี้ (8 ก.พ. ) เวลา 13.10 น.ที่ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี