สกลนคร -ศพ ส.อ.วุธชรินทร์ ชาติคำดี ทหารกล้าพลีชีพปกป้องแผ่นดินไทย กลับบ้านเกิด จ.สกลนคร เตรียมจัดงานพระราชทานเพลิงศพสมเกียรติทหารกล้า
วันนี้ (7 ก.พ.) ที่บ้านเลขที่ 75 หมู่ที่ 5 บ้านโคกสีไค ต.แวง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ซึ่งเป็นบ้านพักของ ส.อ.วุธชรินทร์ ชาติคำดี สังกัด ร.16 พัน 2 ค่ายบดินทร์เดชา อ.เมือง จ.ยโสธร ซึ่งได้เข้าปฎิบัติหน้าที่ พัน ร.11 อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ท่ามกลางความเศร้าโศกของญาติ ซึ่งบรรดาญาติได้ช่วยกันตกแต่งบ้านพักในการตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านพัก หลังจากที่เสียชีวิตจากการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาที่บริเวณช่องโดนอาว ใกล้กับภูมะเขือ ทิศตะวันตกของเขาพระวิหาร
โดยมี น.ส.สุปราณี มาตเนตร อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44/1 บ้านเหนือ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ยโสธร แฟนสาวของ ส.อ.วุธชรินทร์ และญาติพี่น้องได้ติดตามมาช่วยงานจนถึงนาทีสุดท้ายของงานพระราชทานเพลิงศพ
นายอุดม ชาติคำดี อายุ 61 ปี กล่าวว่า ตนมีลูก 6 คน โดย ส.อ.วุธชรินทร์ เป็นลูกคนที่ 6 สุดท้อง และเป็นกำลังสำคัญในการเลี้ยงดูคนในครอบครัวมาโดยตลอด สำหรับแม่ของ ส.อ.วุธชรินทร์ เสียชีวิตนาน 3 ปีแล้ว พี่น้องทำงานโรงงานอยู่ที่กรุงเทพฯ หมด
ส.อ.วุธชรินทร์ มีอาชีพรับราชการคนเดียว พ่ออาศัยอยู่กับหลานชาย และหลานสาว ตนรู้สึกเสียใจมากที่ต้องสูญเสียลูกชาย ซึ่งเป็นกำลังหลักของครอบครัว แต่ภูมิใจที่ลูกชายคนนี้ได้สละชีพเพื่อชาติอย่างสมศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายทหารไทย ตนเคยพูดกับบุตรชายว่าอยากให้ลาออกจากชีวิตรับราชการทหาร แต่บุตรชาย บอกว่า ตนรักประเทศชาติ ขอมุ่งมั่นที่จะรับใช้ชาติ อย่างชายชาติทหาร
นางสาวสุปราณี มาศเนตร แฟนสาว อายุ 20 ปี กล่าวว่า ประกอบอาชีพขายเสื้อผ้าในห้างแห่งหนึ่งที่จังหวัดอุบลราชธานี คบกันมาเกือบ 3 ปี เดือนหน้าจะให้ผู้ใหญ่ไปสู่ขอ เมื่อวันที่ 4 ก.พ. เวลาประมาณ 17.00 น.ตนได้โทรศัพท์คุยกับ ส.อ.วุธชรินทร์ เพื่อเตรียมการเกี่ยวกับการที่จะส่งผู้ใหญ่ไปสู่ขอ แต่ขณะนั้นรู้สึกว่า ส.อ.วุธชรินทร์ กำลังยุ่งกับภาระงานมาก
โดยบอกว่า เมื่อสักครู่ได้มีปืนใหญ่มาตกที่บริเวณหน้าฐานที่มั่นของตน ตนก็เลยบอกไปว่าขอให้พี่ระวังตัวนะ และรักษาสุขภาพด้วย และในช่วงประมาณ 4 ทุ่ม ตนจะโทร.กลับไปคุยอีกรอบ ซึ่งคำพูดสุดท้ายที่ ส.อ.วุธชรินทร์ บอกกับตนก่อนวางหูโทรศัพท์ คือ “พี่รักและห่วงแอนมากที่สุดในชีวิตนะ” ต่อมาในช่วงกลางคืนประมาณ 4 ทุ่มเศษ ตนได้โทรศัพท์ไปหา ส.อ.วุธชรินทร์ ที่ประจำอยู่แนวหน้าบริเวณเขาพระวิหาร แต่ปรากฏว่า โทรศัพท์ไม่มีสัญญาณตอบรับ
ในช่วงเช้าวันที่ 5 ก.พ.54 ตนได้โทรศัพท์ไปหาพ่อของ ส.อ.วุธชรินทร์ ก็ได้รับแจ้งว่า ส.อ.วุธชรินทร์ เสียชีวิตแล้วจากการปะทะกันกับทหารกัมพูชา เมื่อช่วงเช้า หลังทราบข่าวตนเสียใจมาก เพราะเขาเป็นคนดี และอยากให้ทั้งสองชาติมีความสุขสงบ ปรองดองสามัคคีกัน เพราะหากเกิดสงครามย่อมมีการสูญเสีย ไม่เขาก็เรา ทุกคนก็ย่อมรักครอบครัว ที่ไม่อยากให้มีการสูญเสียไปมากกว่านี้
สำหรับ ส.อ.วุธชรินทร์ ในปี 2548 ได้เข้ารับใช้ชาติเป็นทหารกองประจำการ สังกัด ร.3 พัน 1 ค่ายกฤษณ์สีวะรา จังหวัดสกลนคร และได้ปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นผู้ที่มีจิตใจรักในเครื่องแบบทหาร ต่อมาสอบเข้าเรียนที่โรงเรียนนายสิบทหารบก เหล่าทหารราบ และเข้าปฏิบิติหน้าที่ที่ต้นสังกัดดังกล่าว
ทั้งนี้ นายทหารกล้านายนี้ได้รับพระราชทานยศ เป็น ร้อยเอก จากการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องคุ้มครองอธิไตยบนผืนแผ่นดินไทย โดยมีกำหนดจะประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ ในวันที่ 9 ก.พ.นี้