รับศพทหารกล้า “เขาวิหาร” กลับบ้านเกิด “สกลนคร” - แฟนสาวเศร้าเตรียมวิวาห์เดือนหน้า

ศรีสะเกษ - พ่อ-ญาติพี่น้อง และแฟนสาว รับศพ “ส.อ.วุธชรินทร์ ชาติคำดี” ทหารกล้าพลีชีพปกป้องแผ่นดินไทย “เขาพระวิหาร” กลับบ้านเกิด จ.สกลนคร แล้ว พ่อเผยเสียใจสูญเสียเสาหลักของครอบครัว แต่ภูมิใจลูกชายสละชีพเพื่อชาติอย่างสมศักดิ์ศรีลูกผู้ชายทหารไทย ด้านแฟนสาวเศร้ามีกำหนดเตรียมแต่งงานเดือนหน้า

วันนี้ (6 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 21.00 น. คืนวันที่ 5 ก.พ. ที่วัดศิริวราวาส ต.น้ำอ้อม อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายอุดม ชาติคำดี อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 หมู่ 5 บ้านโคกสีไคร ต.แวง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร พ่อของ ส.อ.วุธชรินทร์ ชาติคำดี ทหารสังกัด ร.16 พัน 2 จ.ยโสธร ที่เสียชีวิตจากการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาที่บริเวณช่องโดนอาว ใกล้กับภูมะเขือทิศตะวันตกของเขาพระวิหาร พร้อมด้วย น.ส.สุปราณี มาตเนตร อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44/1 บ้านเหนือ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ยโสธร แฟนสาวของ ส.อ.วุธชรินทร์ และญาติพี่น้องได้พากันเดินทางมาเพื่อรับศพ ของ ส.อ.วุธชรินทร์ นำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดป่าโนนแสงทอง บ้านโคกสีไคร เป็นบ้านเกิด เมื่อเวลา 21.00 น.คืนวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา

โดยได้รับความอนุเคราะห์รถยนต์จากมูลนิธิสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถานในการนำเคลื่อนศพทหารกล้า ส.อ.วุธชรินทร์ ชาติคำดี คลุมธงชาติชาติ เดินทางกลับบ้านเกิด โดยมีกำลังทหารไทยซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาและเพื่อนทหารมาคอยดูแลอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่บ้านโคกสีไคร ต.แวง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร

นายอุดม ชาติคำดี อายุ 61 ปี พ่อของทหารกล้า ส.อ.วุธชรินทร์ ชาติคำดี กล่าวว่า ตนมีลูก 6 คน โดย ส.อ.วุธชรินทร์ เป็นลูกคนที่ 5 และเป็นกำลังสำคัญในการเลี้ยงดูคนในครอบครัวมาโดยตลอด สำหรับแม่ของ ส.อ.วุธชรินทร์ เสียชีวิตนาน 3 ปีแล้ว หลังจากที่ ส.อ.วุธชรินทร์ บรรจุเข้ารับราชการทหาร ตนรู้สึกเสียใจมากที่ต้องสูญเสียลูกชายซึ่งเป็นกำลังหลักของครอบครัว แต่ภูมิใจที่ลูกชายคนนี้ได้สละชีพเพื่อชาติอย่างสมศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายทหารไทย โดยมีกำหนดจะประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ ในวันที่ 9 ก.พ. นี้

ทางด้าน น.ส.สุปราณี มาตเนตร อายุ 20 ปี แฟนสาวของ ส.อ.วุธชรินทร์ ซึ่งกำลังจะแต่งงานกันในเดือนหน้านี้ กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า เมื่อวันที่ 4 ก.พ. เวลาประมาณ 11.00 น.ตนได้โทรศัพท์คุยกับ ส.อ.วุธชรินทร์ เพื่อเตรียมการเกี่ยวกับการจัดงานแต่งงาน แต่ขณะนั้นรู้สึกว่า ส.อ.วุธชรินทร์ กำลังยุ่งกับภาระงานมาก ซึ่งคำสุดท้ายที่ ส.อ.วุธชรินทร์บอกกับตนก่อนวางหูโทรศัพท์คือ “พี่รักและห่วงแอนมากที่สุดในชีวิตนะ” ต่อมาในช่วงเช้าของวันที่ 5 ก.พ. ตนได้โทรศัพท์ไปหา ส.อ.วุธชรินทร์ ที่ประจำอยู่แนวหน้าบริเวณเขาพระวิหาร แต่ปรากฏว่า โทรศัพท์ไม่มีสัญญาณตอบรับ จึงได้โทรศัพท์ไปหาพ่อของ ส.อ.วุธชรินทร์ ก็ได้รับแจ้งว่า ส.อ.วุธชรินทร์เสียชีวิตแล้วจากการปะทะกันกับทหารกัมพูชาเมื่อช่วงเช้า

“เสียใจมาก ถึงกับเป็นลมล้มทั้งยืน อยากให้การตายของ ส.อ.วุธชรินทร์ เป็นศพสุดท้ายที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เขาพระวิหาร อยากให้ทั้งสองชาติมีความสุขสงบ ปรองดองสามัคคีกัน เพราะเราเป็นเพื่อนบ้านประเทศใกล้ชิดติดกัน” น.ส.สุปราณีกล่าว