บุรีรัมย์ - หลังทหารไทย-กัมพูชา ปะทะ เดือดเขาพระวิหาร รอง ผอ.กอ.รมน.บุรีรัมย์ เผยได้เพิ่มกำลังเฝ้าระวังเข้มตลอดพื้นที่ชายแดน ขณะผู้ว่าฯ บุรีรัมย์สั่ง 2 อำเภอชายแดนติดตามความเคลื่อนไหวรับมือสถานการณ์ พร้อมอพยพชาวบ้านได้ทันที
วันนี้ (4 ก.พ.) พ.อ.ประจักษ์ ประเมศรี รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยหลังมีข่าวกองกำลังทหารกัมพูชาปะทะกับทหารไทยที่บริเวณภูมะเขือ และ เขาพระวิหารชายแดนไทย-กัมพูชา อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษว่า ในส่วนของพื้นที่ชายแดนด้านจังหวัดบุรีรัมย์ ขณะนี้กองกำลังทหารพรานที่ 26 และตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.)
พร้อมทั้งกำลังทหารจากกองทัพภาคที่ 2 ได้มีการเฝ้าระวังอย่างเข้มข้นเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ และช่องทางที่สามารถผ่านเข้าออกระหว่างพื้นที่ไทย-กัมพูชา
จากรายงานขณะนี้ยังไม่มีการเสริมกำลังทหารไทยเข้าไปประชิดแนวชายแดน จุดดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบของหน่วยทหารที่ดูแลพื้นที่ยังไม่พบว่ามีกองกำลังทหารทางฝ่ายกัมพูชา เข้ามาประชิดชายแดนไทย บริเวณช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ แต่ก็ไม่ประมาทหลายฝ่ายได้มีการติดตามความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา มีเหตุการณ์ปะทะจะอยู่ห่างไกลจากพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ก็ตาม
ด้าน นายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ได้ให้ทางอำเภอและฝ่ายปกครองได้เข้าไปทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อ.บ้านกรวด และ อ.ละหานทราย ที่ติดแนวชายแดนไม่ให้ตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ปะทะที่เกิดขึ้นที่เขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ เพราะในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ยังไม่มีการปะทะของกำลังทั้ง 2 ฝ่ายแต่อย่างใด พร้อมให้ทางอำเภอได้ติดตามสถานการณ์ข่าวความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นจะได้เร่งอพยพช่วยเหลือประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวทันที
“สถานการณ์แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ล่าสุดขณะนี้สถานการณ์ยังเป็นปกติ ยังไม่มีการตรึงและเสริมกำลังทหารตามแนวชายแดนแต่อย่างใด มีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน และทหารพรานวางกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยตามปกติเท่านั้น” นายธานีกล่าว