บุรีรัมย์ - ทหาร ตชด.ตรึงกำลังตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.บุรีรัมย์ เพื่อป้องกันรักษาความสงบเรียบร้อย ล่าสุดสถานการณ์ยังปกติ ทางอำเภอประกาศเตือนห้ามเข้าใกล้ชายแดน พร้อมเตรียมแผนอพยพหากปชช.พื้นที่เสี่ยงภัย หากเกิดการปะทะบานปลาย
วันนี้ (5 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ ทำให้มีชาวบ้าน และทหารเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายนาย ต้องมีการอพยพชาวบ้านหมู่บ้านตามแนวชายแดนออกนอกพื้นที่เพื่อความปลอดภัยนั้น
ล่าสุด สำหรับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ติดกับพื้นที่ 3 อำเภอได้แก่ อ.ละหานทราย บ้านกรวด และ อ.โนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ สถานการณ์ยังเป็นปกติ อย่างไรก็ตามกำลังทหารสังกัดหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 26 (ละหานทราย) ร่วม 100 นาย ยังตรึงกำลังดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ 7 จุด ตลอดแนวชายแดน ตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ ยังมีกำลังตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) อีก 40 นาย ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณช่องโอบก และ จากข้อมูลพบว่าทางฝั่งกัมพูชาบริเวณเขตติดต่อกับ ช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด ยังคงมีทหารกัมพูชาตรึงกำลังดูแลพื้นที่ประมาณ 40 นาย
ส่วนชาวบ้านที่อาศัยอยู่ติดแนวชายแดน โดยเฉพาะใน ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด ยังคงใช้ชีวิตกันตามปกติ ไม่ได้มีการตื่นตระหนกกับเหตุปะทะที่ชายแดนด้าน จ.ศรีสะเกษ แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้มีการแจ้งเตือนชาวบ้านหมู่บ้านติดแนวชายแดนอยู่ตลอด ว่า ห้ามไม่ให้ชาวบ้านเข้าใกล้เขตชายแดนในช่วงนี้ เพราะเกรงจะได้รับอันตราย นอกจากนี้ยังมีการเฝ้าติดตามการเคลื่อนไหวของกำลังฝั่งกัมพูชาอยู่เป็นระยะ เพื่อเตรียมพร้อมอพยพประชาชนตามแนวชายแดน ออกนอกพื้นที่ทันทีหากเกิดเหตุปะทะกันเพื่อความปลอดภัย
นายณัฐ ชาติวัฒนศิริ นายอำเภอบ้านกรวด กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่ติดกับ อ.บ้านกรวด ยังเป็นปกติ เนื่องจากชายแดนฝั่ง จ.บุรีรัมย์ ไม่มีพื้นที่ทับซ้อนที่เป็นข้อพิพาท และไม่มีกลุ่มปราสาทที่เป็นปัญหาการอ้างสิทธิ์ระหว่างสองประเทศ ทำให้ไม่มีเหตุปะทะกันมานานแล้ว โดยชาวบ้านในพื้นที่ยังคงใช้ชีวิตปกติไม่มีการหวาดกลัวหรือวิตกต่อเหตุปะทะที่เกิดขึ้นใน จ.ศรีสะเกษ แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม เพื่อความไม่ประมาท จึงมีการวางกำลังทหาร และ ตชด.เฝ้าระวังรักษาความปลอดภัยตลอดแนวชายแดน 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ออกแจ้งเตือนชาวบ้านห้ามเข้าใกล้เขตชายแดนเด็ดขาด และให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากเกิดเหตุปะทะรุนแรงบานปลาย ก็ได้เตรียมแผนอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงออกนอกพื้นที่ทันที