บุรีรัมย์แจง ปชช.ชายแดนอย่าตื่นการสู้รบ-ชาวบ้านยังผวาหันกรีดยางกลางวัน

บุรีรัมย์ - อำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ รุดลงพื้นที่ชี้แจงทำความเข้าใจ ปชช.หมู่บ้านแนวชายแดน ไม่ให้ตื่นตระหนกกับเหตุปะทะระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ที่เขาพระวิหาร ศรีสะเกษ ขณะชาวบ้านยังผวาหวั่นไม่ปลอดภัย ต้องเข้าไปกรีดและเก็บน้ำยางกลางวันแทนกลางคืน

เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (8 ก.พ.) นายณัฐ ชาติวัฒนศิริ นายอำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่ชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้าน บ้านสายโท 6 ใต้ ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านอยู่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา มากที่สุด โดยอยู่ห่างจากตะเข็บชายแดนเพียง 4 กิโลเมตร (กม.) เท่านั้น

ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ปะทะระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา ที่บริเวณชายแดนเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย เพราะเชื่อว่าสถานการณ์ปะทะจะไม่บานปลาย ประกอบกับขณะนี้พื้นที่ตามแนวชายแดนในเขต จ.บุรีรัมย์ ยังไม่มีเหตุปะทะหรือความรุนแรงใดๆ เกิดขึ้น จึงขอให้ชาวบ้านใช้ชีวิตตามปกติ

อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านบางส่วน โดยเฉพาะผู้ที่มีสวนยางพาราอยู่ติดตะเข็บชายแดน ยังมีความหวาดผวาและไม่มั่นใจในสถานการณ์ จึงไม่กล้าออกไปกรีดและเก็บน้ำยางในช่วงกลางคืน ต้องออกไปกรีดและเก็บน้ำยางในช่วงกลางวันแทน เพราะเกรงไม่ปลอดภัย

ขณะที่ นายสนั่น สะอิ้งรัมย์ อายุ 80 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 ม. 5 บ.สายโท 6 ใต้ ต.จันทบเพชร บอกว่า ครอบครัวของตนมีสวนยางอยู่ทั้งหมดกว่า 20 ไร่ ถึงแม้รู้สึกหวาดกลัวกับเหตุการณ์ปะทะกันที่ จ.ศรีสะเกษอยู่บ้าง แต่ช่วงนี้ยังต้องออกไปกรีดและเก็บน้ำยางตามปกติ เพราะครอบครัวจะมีรายได้จากการขายน้ำยาง ประกอบกับช่วงนี้ยางมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละกว่า 160 บาท

“ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ก็อยากให้เหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทยกับกัมพูชาที่ จ.ศรีสะเกษ ได้ยุติและสงบลงโดยเร็ว เพราะไม่อยากให้เกิดการสูญเสียทั้งสองฝ่าย แต่หากสถานการณ์บานปลายหรือมีการปะทะกันขึ้นจริงในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ คงจะไม่พาครอบครัวอพยพไปอยู่ที่อื่น เพราะอายุมากแล้ว ทั้งเป็นห่วงบ้านและทรัพย์สินด้วย” นายสนั่น กล่าว

ด้าน นายศูนย์ ชัยปัญญา อายุ 60 ปี อดีตกำนัน ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด กล่าวว่า เมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว หมู่บ้านสายโท 6 ใต้ แห่งนี้เป็น 1 หมู่บ้านที่เคยได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างไทยกับกัมพูชา ที่บริเวณช่องโอบก จึงทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ค่อยตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ปะทะกันที่ชายแดน จ.ศรีสะเกษ มากนัก

อย่างไรก็ตาม อำเภอบ้านกรวด และผู้นำชุมชน ได้มีการติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวต่างๆ อย่างใกล้ชิด ทั้งเตรียมพร้อมในการพัฒนาปรับปรุงหลุมหลบภัย ที่มีอยู่ในทุกหมู่บ้าน ๆ ละ 1-2 แห่ง รวมทั้งจัดเตรียมศูนย์อพยพในสถานที่ปลอดภัยไว้รองรับช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยไว้พร้อมแล้ว หากมีเหตุการณ์สู้รบกันเกิดขึ้นจริงในพื้นที่