xs
xsm
sm
md
lg

สายตรวจป่าไม้ภาคเหนือลุยยึดสวนยางกลางป่ารอยต่อแพร่-ลำปาง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แพร่ - เจ้าหน้าที่จากกรมป่าไม้ บุกยึดพื้นที่ป่าถูกทำลายในเขตรอยต่อจังหวัดแพร่-ลำปาง พบมีการโค่นป่าต้นน้ำปลูกยางพารา และ ตัดไม้มีค่าจำหน่าย เป็นบริเวณกว้าง ล่าสุด ยึดแล้ว 3 แปลงกว่า 100 ไร่ องค์กรพัฒนาเอกชนเชื่อว่าเป็นกลไกของรัฐต้นเหตุทำลาย

วันนี้ (27 ม.ค.) นายจรัส นีรนาทไพบูลย์ หัวหน้าสายตรวจปราบปรามการกระทำผิดว่าด้วยกฎหมายป่าไม้ภาคเหนือตอนบน กรมป่าไม้ เปิดเผยว่า หลังนำกำลังเข้าตรวจพื้นที่ที่มีการบุกรุกทำลายป่าอย่างรุนแรงในเขตติดต่อ อ.วังชิ้น จ.แพร่-อ.เถิน จ.ลำปาง เมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ม.ค.) พบมีการทำลายป่าเป็นบริเวณกว้าง จึงได้ขอกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้หน่วยปราบปรามพิเศษประจำจังหวัดแพร่ และจังหวัดลำปาง เข้าร่วมเดินสำรวจความเสียหายในเช้าวันนี้

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบมีการโค่นป่าไม้ที่มีสภาพสมบูรณ์ไปแล้วจำนวนกว่า 100 ไร่แบ่งออกเป็น 3 จุดใหญ่ๆ ในบริเวณป่าสงวนแห่งชาติแม่สรอย บ้านปางงุ้น ต.สรอย อ.วังชิ้น จ.แพร่ และที่บ้านปางกุ่ม หมู่ 4 ต.แม่ปะ อ.เถิน จ.ลำปาง แนวเขตติดต่อกันบริเวณป่าสงวนแห่งชาติแม่เวิม-แม่ปะ

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มทุนเข้าตัดไม้มะค่าโมง และไม้สักขนาดใหญ่ที่บริเวณสวนป่าที่มีโครงการปลูกป่าทดแทนในพื้นที่เดียวกันของทั้งสองจังหวัดดังกล่าวอีกด้วย

ทีมสายตรวจดังกล่าว ระบุว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ พบชาวบ้านกำลังดำเนินการตัดไม้อยู่ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงพากันหลบหนีไปทางบ้านปางกุ่ม ต.แม่ปะ อ.เถิน

นายจรัส เปิดเผยว่า พื้นที่ดังกล่าวตนทราบดีว่าบริเวณไหนกันให้กับชาวบ้าน และบริเวณไหนเป็นพื้นที่ป่า มีการทำระบบข้อมูลไว้หมดแล้ว ซึ่งจุดที่มีการแผ้วถางทำสวนยางเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่เคยมีสภาพป่าสมบูรณ์ เป็นป่าดงดิบ

ส่วนที่มีการทำลายป่ากรมป่าไม้ได้ทำการปลูกป่าทดแทนเมื่อปี 2551 นำเอาไม้พื้นถิ่นเข้าปลูก อาทิ ต้นแดง ต้นสัก ต้นมะค่าโมง ซึ่งเห็นการเจริญเติบโตเป็นอย่างดี เป็นที่น่าเสียดายมาก สำหรับการโค่นป่าครั้งนี้ ถือว่าเป็นการทำลายป่าที่รุนแรงที่สุดในภาคเหนือตอนบนในปัจจุบันก็ว่าได้

โดยกระบวนการทำลายป่า มีกลุ่มทุนที่ต้องการไม้มีค่า จะใช้วิธีจ้างชาวบ้านเข้าตัดเช่นไม้มะค่าขนาดใหญ่ และจ้างชาวบ้านเข้าตัดทำลาย สาเหตุใหญ่เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์มีน้ำดีเป็นที่ต้องการของกลุ่มทุนทำสวนยางพาราที่เข้ามากว้านซื้อที่ป่า และจ้างชาวบ้านตัดฟัน ซึ่งปัญหาดังกล่าวคงต้องมีการสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป ส่วนไม้ที่ยึดได้จะเร่งดำเนินคดี และดำเนินการปลูกป่าทดแทนโดยเร็วต่อไป

ทั้งนี้ หลังพบมีการทำลายพื้นที่ป่าต้นน้ำสรอย ซึ่งเป็นสาขาของลุ่มน้ำยมอย่างรุนแรง ชุดปราบปรามดังกล่าวได้เชิญตัว นายสมบูรณ์ ติ๊บปาละวงศ์ ผู้ใหญ่บ้านปางกุ่ม และ นายบัญญัติ แก้วแดง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านปางกุ่ม เข้ามาสอบถามและขอความร่วมมือในการหยุดชาวบ้านไม่ให้มีการทำลายป่าต่อไป

นายปณิธาน วรมงคล เจ้าหน้าที่ป่าไม้ชำนาญการ หน่วยแม่ปะ (ลป.22 ) กรมป่าไม้ หน่วยป่าไม้ในพื้นที่กล่าวว่า ตนไม่ทราบมาก่อนที่มีการทำลายป่าในบริเวณดังกล่าว เพราะปัญหากำลังคนทำงานมีน้อย พร้อมทั้งงบประมาณไม่เพียงพอ ข้อสำคัญงานเฉพาะหน้ามีมากจึงไม่สามารถออกดูแลในพื้นที่รับผิดชอบได้

ทั้งนี้ ปมปัญหาการบุกรุกที่ป่าในภาคเหนือกำลังรุนแรงมากขึ้นทุกวัน เนื่องจากยางพารามีราคาสูงขึ้นเป็นเหตุจูงใจให้นายทุนหาพื้นที่ปลูกยางโดยยืมมือชาวบ้านทำลายป่าแบบไม่รู้เท่าทัน อย่างไรก็ตามตัวแทนกลุ่มเครือข่ายอนุรักษ์ธรรมชาติกล่าวถึงแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าว ว่า ไม่ใช่เพียงเข้าจับกุมปักป้ายห้ามทำลายป่ายึดพื้นที่เท่านั้น

กลุ่มเครือข่ายได้เคยนำปัญหาไปหารือผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ อยู่หลายครั้ง แต่ไม่ได้ให้ความสำคัญในการแก้ปัญหามีเพียงชาวบ้านที่สนใจงานอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติที่ออกมาเคลื่อนไหวตั้งกลุ่มอนุรักษ์ป่า แม้แต่ของบประมาณผ่านทางราชการมาหนุนช่วยการแก้ปัญหายังไม่มีหน่วยงานไหนให้งบประมาณแม้แต่ อบจ.แพร่ ทำให้เกิดการรุกป่าขึ้นทุกอำเภอโดยเฉพาะใน อ.วังชิ้น อ.เด่นชัย อ.ลอง อ.สอง อ.ร้องกวาง

ซึ่งชาวบ้านส่วนหนึ่งที่จับมือกันร่วมปกป้องผืนป่ารอบชุมชนจะนัดหมายประชุมใหญ่ในวันที่ 7-8 มีนาคม 54 เพื่อเปิดโปงกระบวนการทำลายป่าต่อสาธารณะต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น