xs
xsm
sm
md
lg

ไฟไหม้แพล่องเมืองกาญจน์กลางดึก วอดกว่า 20 ล้านบาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กาญจนบุรี - เกิดเหตุไฟไหม้แพล่องเมืองกาญจนบรีกลางดึก เสียหายไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท ท่ามกลางความสายตาประชาชน และนักท่องเที่ยวตามร้านอาหารที่ตั้งอยู่บนถนนริมน้ำหน้าเมืองจำนวนมาก จนท.รีบออกตัว เชื่อไม่ได้มาจากการวางเพลิง ส่วนจะเกิดจากปัญหาใดนั้นต้องรอผลสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

เมื่อเวลาประมาณ 24.00 น.คืนที่ผ่านมา (26 ม.ค.) ศูนย์วิทยุจักรพรรดิเทศบาลเมืองกาญจนบุรีและศูนย์วิทยุ 191 ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนเทศบาลเมืองกาญจนบุรี (อปพร.) ว่ามีเหตุเพลิงไหม้แพปรีชา ที่บริเวณท่าเทียบแพเขื่อนขุนแผน จอดเทียบท่าอยู่ริมแม่น้ำแควใหญ่ ฝั่งสวนสุขภาพเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ถนนริมน้ำหน้าเมือง ต.บ้านเหนือ เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี จึงรีบนำรถดับเพลิงไปฉีดน้ำสกัดเพลิง

เมื่อเจ้าหน้าที่ดับเพลิงพร้อมรถดับเพลิงเดินทางถึง พบว่าเพลิงกำลังโหมลุกไหม้อย่างหนัก และมีลมแรงทำให้เพลิงลุกลามไปยังแพล่องหลังอื่นที่จอดเทียบใกล้กัน ประกอบกับโครงสร้างของแพแต่ละหลังส่วนใหญ่ทำด้วยไม้ และบางหลังหลังคามุงด้วยจากจึงทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังเกิดเสียงระเบิดจากถังแก๊สภายในแพเป็นระยะ

อย่่างไรก็ตาม ไฟได้ลุกไหม้นานกว่า 20 นาทีจนทำให้เชือกผูกแพเทียบท่าจะถูกไฟไหม้ขาด ทำให้แพที่มีเพลิงไหม้หลายหลังลอยไปตามลำน้ำข้ามฝั่งมายังริมน้ำหน้าเมืองกาญจนบุรี ลอยน้ำไปจอดเทียบมีแพจอดเทียบท่าอีกหลายสิบหลังทำให้เพลิงได้ลุกลามแพต่อแพอย่างรวดเร็ว ไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ในเบื้องต้น จึงประสานขอความช่วยเหลือจาก อปท.ใกล้เคียง คือ รถดับเพลิงและรถน้ำจากเทศบาลตำบลแก่งเสี้ยนจำนวน 3 คัน และเทศบาลตำบลปากแพรกจำนวน 4 คัน เดินทางมาชี่วยดับเพลิง

ต่อมา พล.ต.ต.โชต วีรเดชกำแหง ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี พ.ต.อ.กษณะ แจ่มสว่าง ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี นายประสิทธิ โอภาสทิพากร นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองกาญจนบุรี นายนพพร ถาวรประดิษฐ์ นายกสมาคมผู้ประกอบการชาวแพชาวเรือจังหวัดกาญจนบุรี ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุร่วมกันอำนวยการการช่วยเหลือดับเพลิงในครั้งนี้ พร้อมสั่งการสั่งการให้นำเรือดับเพลิงออกจากที่ตั้งเพื่อฉีดน้ำสกัดเพลิง เนื่องจากแพแต่ละหลังจะจอดซ้อนๆ กัน ทำให้รถดับเพลิงไม่สามารถเข้าถึงตัวแพที่ถูกไฟไหม้ ต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงเอาไว้ไม่ให้เพลิงลุกลาม

โดยรถดับเพลิงต้องกระจายกันแยกไป 2 ฝั่งลำน้ำเพื่อฉีดน้ำสกัดเพลิง ท่ามกลางชาวบ้านและผู้ประกอบการแพรวมถึงนักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวตามสถานบันเทิง และร้านอาหารที่ตั้งอยู่บนถนนริมน้ำหน้าเมืองจำนวนมาก ต่างเห็นเหตุการณ์ต่างลุกจากเก้าอี้นั่งเดินข้ามถนนมาดูเพลิงไหม้แพด้วยความสนใจจำนวนมากกลายเป็นภาพไฟไหม้แพในลำน้ำคล้ายทะเลเพลิง รถดับเพลิงระดมมาฉีดน้ำใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง จึงสามารถควบคุมเพลิงได้ในวงจำกัด ตรวจสอบเบื้องต้นมีแพล่องที่ถูกเพลิงลุกไหม้ประมาณ 12 หลัง โดยแต่ละหลังมีมูลค่าการก่อสร้างไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท รวมค่าเสียหายเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท

พล.ต.ต.โชต วีรเดชกำแหง ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า เบื้องต้นทราบว่าต้นเพลิงมาจากแพปรีชา ที่จอดเทียบท่าอยู่ฝั่งสวนสุขภาพเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ซึ่งเพลิงได้ลุกลามติดต่อแพที่ผูกติดกันอีกอีกราว 5-6 หลัง ก่อนที่เชือกที่ผูกตัวแพกับต้นไม้บนฝั่งจะถูกไฟไหม้ขาด แพบางหลังไหลตามลำน้ำข้ามฝั่งมาหาแพที่จอดเทียบท่าหน้าเมืองกาญจนบุรี ทำให้เกิดเพลิงไหม้ลุกลามเช่นกัน

เบื้องต้นได้สั่งการให้ พ.ต.อ.กษณะ แจ่มสว่าง ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี ตั้งณะทำงานพนักงานสอบสวนขึ้นมาสอบสวนหาสาเหตุที่เกิดเพลิงไหม้ พร้อมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการและพิสูจน์หลักฐานจังหวัดกาญจนบุรี มาร่วมตรวจเก็บหาหลักฐานที่พบในแพต้นเพลิง เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยเบื้องต้นเชื่อว่าไม่ได้มาจากการวางเพลิง แต่อาจเกิดปัญหาใดนั้น ต้องรอผลสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง จึงจะสามารถให้คำตอบที่แน่นอนได้

ส่วนด้าน นายนพพร ถาวรประดิษฐ์ หรือ “เสี่ยเล็ก แพกาญจน์” นายกสมาคมชาวแพชาวเรือจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ตนตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก ทางสมาคมชาวเรือชาวแพโดยตนจะเรียกประชุมคณะกรรมการของสมาคมในวันนี้ เพื่อติดตามตามสถานการณ์และข้อสรุปว่าเพลิงที่ลุกไหม้เกิดจากสาเหตุใด และจะต้องหามาตรการในการป้องกันอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป ที่ผ่านมาแพล่องที่ว่างจากการรับนักท่องเที่ยวและจอดเทียบท่าจะต้องมี พนักงานดูแลอยู่ในแพตลอด 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น