กาญจนบุรี - พ่อเมืองกาญจน์ เป็นประธานมอบเงินช่วยเหลือค่าประกอบอาชีพ “ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย” จังหวัดกาญจนบุรี ที่บริเวณหอประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้าน ที่ว่าการอำเภอสังขละบุรี เป็นเงินกว่า 20 ล้านบาท
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (17 ม.ค.) นายณฐพลษ์ วิเชียรเพริศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เดินทางไปเป็นประธานมอบเงินช่วยเหลือค่าประกอบอาชีพ “ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย” หรือ ผรท.ประจำจังหวัดกาญจนบุรี ที่บริเวณหอประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้าน ที่ว่าการอำเภอสังขละบุรี 89 ราย รายละ 225,000 บาท เป็นเงินรวมกันกว่า 20 ล้านบาท
โดยมี นายจำรัส กังน้อย นายอำเภอสังขละบุรี พ.อ.ภพอนันฒ์ เหลืองภานุวัฒน์ รอง ผอ.รมน.จ.กาญจนบุรี พ.อ.พนม ฉายาพันธ์ รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พ.ต.อ.ประยุทธ ชมมาลี รรท.ผกก.สภ.สังขละบุรี พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนจำนวนมากให้การต้อนรับ โดยมี พ.ท.อุดม อยู่เจริญ รองหัวหน้ากลุ่มงานอำนวยการ และบริหารงานบุคคล กอ.รมน.จ.กาญจนบุรี เป็นผู้กล่าวรายงานถึงความเป็นมา
พ.ท.อุดม อยู่เจริญ รองหัวหน้ากลุ่มงานอำนวยการ และบริหารงานบุคล กอ.รมน.จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า เนื่องด้วยรัฐบาลมีนโยบายให้การช่วยเหลือผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ซึ่งยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลมาก่อน จึงได้มีคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 190/2552 ลงวันที่ 18 สิงหาคม 2552 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของ ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย โดยมี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงเป็นประธาน กำหนดให้ทำการตรวจสอบและคัดกรองเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ที่ยังไม่เคยได้รับความช่วยเหลือดังกล่าว
ซึ่ง กอ.รมน.จ.กาญจนบุรี ได้เริ่มดำเนินการตามคำสั่งตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย.52 โดยได้แจ้งให้ทุกอำเภอช่วยประชาสัมพัน์ ผ่านกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ให้ ผรท.ที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือทราบ เพื่อให้มารายงานตัวและยื่นคำร้องเพื่อขอความช่วยเหลือจากทางราชการ ฐานะ ผรท.เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อน
จากการดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติเพื่อพิสูจน์สถานะความเป็น ผรท.และคัดกรองตามหลักเกณฑ์ โดยคณะกรรมการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของ ผรท.ในระดับพื้นที่ภาคกลาง และพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีได้ดำเนินการเรียบร้อยเมื่อวันที่ 21 ก.ย.53
ผลปรากฏว่า ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ได้ผ่านการคัดกรองสมควรได้รับการช่วยเหลือทั้งสิ้น 100 คน ซึ่งสำนักงบประมาณแจ้งขอให้ชะลอการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าประกอบอาชีพของ ผรท.ในเขตอำเภอสังขละบุรี 11 ราย ที่ไม่มีนามสกุลเพื่อตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้งหนึ่ง โดยในกรณีนี้ กอ.รมน.จังหวัดกาญจนบุรี ได้ประสานในการปฏิบัติกับทางอำเภอสังขละบุรีแล้ว และบุคคลทั้ง 11 รายกำลังดำเนินการยื่นคำร้องขอสัญชาติไทยเพื่อขอใช้นามสกุล เมื่อขั้นตอนดังกล่าวเรียบร้อย กอ.รมน.จังหวัดกาญจนบุรี จะได้ประสานขอรับการสั่งจ่ายงบประมาณเพิ่มเติมให้ต่อไป
พ.ท.อุดม อยู่เจริญ รองหัวหน้ากลุ่มงานอำนวยการ และบริหารงานบุคล กอ.รมน.จ.กาญจนบุรี กล่าวต่อว่า ในการมอบเงินช่วยเหลือค่าประกอบอาชีพ ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีในครั้งนี้มี 89 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 20,025,000 บาท (ยี่สิบล้านสองหมื่นห้าพันบาทถ้วน) โดยได้รับการช่วยเหลือรายละ 225,000 บาท โดยผ่าสมุดคู่ฝากบัญชีธนาคารกรุงไทยเป็นรายบุคคล คือ ผรท.อำเภอสังขละบุรี 64 ราย ผรท.อำเภอทองผาภูมิ 16 ราย ผรท.อำเภอไทรโยค 4 ราย ผรท.อำเภอเมืองกาญจนบุรี 3 ราย ผรท.อำเภอหนองปรือ 1 ราย และ ผรท.อำเภอท่ามะกา 1 ราย
ด้าน นายณฐพลษ์ วิเชียรเพริศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวภายหลังว่า จากการกล่าวรายงานทำให้ทราบว่า รัฐบาลมีความห่วงใยกับผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย จึงมีนโยบายให้การช่วยเหลือค่าประกอบอาชีพกับผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ที่ยังไม่เคยได้รับการช่วยเหลือ จากรัฐบาล สำหรับเงินจำนวนนี้เป็นเงินของรัฐบาล ที่ให้การช่วยเหลือในด้านการประกอบอาชีพ
ดังนั้น จึงขอให้ผู้ที่ได้รับเงินช่วยเหลือดังกล่าวนำเงินที่ได้รับไปเป็นต้นทุนประกอบอาชีพที่สุจริต โดยขอให้ยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทุกคนจะต้องร่วมมือร่วมใจผนึกกำลังกัน เพื่อเป็นหูเป็นตา สอดส่องพฤติกรรมที่เป็นบ่อนทำลายประเทศชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องเกี่ยวกับยาเสพติด และการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งจะต้องช่วยกันสอดส่องดูแลกันอย่างเคร่งครัด