นครปฐม - ตำรวจภูธรภาค 7 เดินเครื่องเต็มสูบบุกจู่โจมจับกุมเครือข่ายยาเสพติดปิดล้อมชุมชนต้องสงสัยตามบัญชีดำ พร้อมกดดันค้นอาวุธสงครามได้จำนวนมหาศาล ก่อนรายงานผลผ่านวีดิโอคอนเฟอร์เร้นท์ ตรง ผบ.ตร.
วันนี้ (7 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ท.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ล.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผบช.ภ.7 พล.ต.ต.เรวัช กลิ่นเกสร รอง ผบช.ภ.7 และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี สมุทรสาครและสมุทรสงคราม ที่มี่หน้าที่หน้าที่รับผิดชอบงานด้านยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส.ภ.7 ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการปิดล้อมแห่งแพร่ระบาดยาเสพติดต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผ่าน Video conference system ร่วมกับตำรวจภูธรทั้ง 9 ภาค
พล.ต.ท.พงษ์สันต์ เจี่ยมอ่อน ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า จากการประเมินสถานการณ์ยาเสพติด พบว่าแหล่งกระจายมีการเพิ่มขึ้นไปยังสถานศึกษา ชุมชน โรงงาน และกลุ่มเยาวชน ซึ่งตำรวจภูธรภาค 7 เห็นว่า หากไม่มีการดำเนินการอย่างจริงและต่อเนื่องเพื่อให้สามารถลดปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างเป็นรูปธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้กำหนดให้หน่วยดำเนินการสืบสวน ขยายผลการจับกุมผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวมทั้งการให้มาตรการทางทรัพย์สินต่อผู้ค้าและผู้ผลิต ภายใต้กฎหมายและระเรียบที่เกี่ยวข้อง จึงได้มีการปิดล้อมกดดันสานที่เป้าหมายที่ล่อแหลม
โดยมีการสรุปผลการจับกุม ปิดล้อมตรวจค้นในระหว่างวันที่ 21 ธ.ค.53-5ม.ค.54 ตามเป้าหมายของตำรวจภูธรภาค 7 ได้ขึ้นบัญชีไว้ 753 เป้า ในพื้นที่ 488 หมู่บ้าน 24 ชุมชน ซึ่งได้มีการเข้าปิดค้นชุมชน 513 แห่ง สามารถจับกุมผู้ค้ายาเสพติดที่มีรายชื่อในเป้าหมาย 577 ราย และจับกุมนอกบัญชีเป้าหมาย 144 ราย
นอกจากนี้ยังมีการจับกุมคดียาเสพติดทุกประเภท ได้รวม 2,536 ราย ผู้ต้องหา 2,573 ราย แยกเป็นผลิต 3 ราย จำหน่าย 135 ราย ครอบครองเพื่อจำหน่าย 164 ราย ครอบครอง 1,082 ราย เสพ 1,152 ราย จับกุมผู้ต้องหาตามหสายจับคดียาเสพติด 29 คน
ทั้งนี้ยังมีการจับกุมความผิดเกี่ยวกับอาวุธสงคราม , วัตถุระเบิด , อาวุธปืน , จำนวน 269 ราย ผู้ต้องหา 269 คน โดยมีของกลางที่จับกุมในการปฎิบัติครั้งนี้ เป็นยาบ้า จำนวน 38,602 เม็ด ยาไอซ์ 250.98 กรัม กัญชา จำนวน 6,057.63 กรัม กระท่อม 22.53.15 กิโลกรัม สารระเหย 1 กระป๋อง 1ถุง อัลปาโซแลม 56 เม็ด อาวุธสงคราม จำนวน 2 กระบอก ระเบิดขว้าง 6 ลูก อาวุธปืน 269 กระบอก (มีทะเบียน 225 กระบอก , อาวุธปืน 44 กระบอก) กระสุนปืน 602 นัด รถยนต์เบ๊นซ์ c200 จำนวน 1 คัน รถจักรยานยนต์ 5 คัน
นอกจากนี้ยังมีอาวุธปืนที่มีการยิงขึ้นฟ้าภายในเขตจังหวัดราชบุรีจนเป็นเหตุให้โดนนักเรียนหญิงเสียวชีวิต และอาวุธปืนที่ยิงนายกอบตงในจังหวัดกาญจนบุรีมาตรวจสอบในครั้งนี้ด้วย ซึ่งจะมีการกวาดล้างและกดดันในเรื่องนี้อย่างเข้มข้นอีกต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับอาวุธปืนที่ยึดได้บางกระบอกสามารถดัดแปลงเป็นปืนกลสามารถบรรจุกระสุนปืน เอ็ม16 ได้ซึ่งหากพบกระบอกใดมีการดัดแปลงที่ทำให้กลายเป็นอาวุธที่มีอานุภาพรุนแรงจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับผู้ครอบครองด้วย
