กาญจนบุรี - พบ นศ.สาว กลายเป็นศพในเกสต์เฮาส์ดังเมืองกาญจน์ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบรถเก๋งวีออสผู้ตายหายไปด้วย เร่งตามล่าตัวหนุ่มใกล้ชิดที่พบบัตรประชาชนหล่นบนเตียงข้างศพ กระทั่งล่าสุดเจ้าหน้าที่พบรถและหนุ่มต้องสงสัยแล้ว เจ้าหน้าที่นำตัวไปสอบเครียด แต่เจ้าตัวยังปฏิเสธ จึงจับตรวจฉี่สีม่วง
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (20 ม.ค.54) พ.ต.ท.ชูวิทย์ เจริญนาค พงส.(สบ.3) สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ว่าเกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิตภายใน V.L.เกรสเฮ้าส์ ตั้งอยู่ถนนแสงชูโต ต.บ้านเหนือ เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.โชติ วีรเดชกำแหง ผบก.ตร.ภ.จว.กาญจนบุรี, พ.ต.อ.กษณะ แจ่มสว่าง ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี,พ.ต.อ.ภัทรชัย กอสนาน ผกก.กสส.ภ.จ.กาญจนบุรี ,พ.ต.ท.กิตติพงษ์ บุญรอด รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.บัญชา ศรีรุจิเมธากร สว.สส. พ.ต.ท.เกรียงศักดิ์ ผ่องเกษม สวป. พ.ต.ท.เวช พิสูตร์ สว.กสส.ภ.จ.กาญจนบุรี แพทย์เวร รพ.พหลพลพยุหเสนา และเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์
พบว่าที่เกิดเหตุอยู่ภายในห้องพักหมายเลข 204 ชั้น 2 ของเกสต์เฮาส์ดังกล่าว โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เปิดประตูออกไป พบว่าภายในห้องเปิดแอร์เย็นฉ่ำและโทรทัศน์ถูกเปิดทิ้งเอาไว้ บนเตียงนอนพบศพหญิงสาวสวมเสื้อผ้าชุดนอนสีชมพู กางเกงขาสั้นสีชมพู นอนหงาย มีผ้าห่มสีฟ้าและหมอนสีขาวปิดใบหน้าเอาไว้ เมื่อเปิดออกดูพบว่าสภาพศพมีเลือดไหลออกปากออกจมูก คาดว่าเสียชีวิตมาประมาณ 12 ชั่วโมงขึ้นไป
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบหลักฐานผู้ตายชื่อ นางสาวชาร์ลีน ศิริโฉม อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 698 หมู่ 5 ต.เบญจขร อ.คลองหาด จ.สระแก้ว นอกจากนี้ยังพบบัตรนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงของผู้ตายอยู่ด้วย นอกจากนี้บนที่นอนยังพบพบบัตรประชาชนของนายวีระศักดิ์ สุขประสาท อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 157/102 หมู่ 3 ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.ลพบุรี ตกอยู่ และพบยาเม็ดชนิดต่างๆ จำนวนหลายซอง จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายหรือบาดแผลใด ๆ ในตัวผู้ตาย
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายเป็นลูกค้าที่เดินทางมาเข้าพักของเกสต์เฮาส์ดังกล่าวเป็นประจำ โดยขับรถเก๋งโตโยต้าวีออส สีบรอนซ์ ไม่ทราบทะเบียน หมวดจังหวัดปราจีนบุรี โดยผู้ตายมาเปิดห้องพักเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2554 เวลา 17.05 น. โดยมาเปิดห้องพักเพียงคนเดียว แต่พอช่วงดึกมีพยานเห็นว่า มีผู้ชายมาหาผู้ตายในห้องพัก ก่อนออกไปและขับรถเก๋งของผู้ตายไปด้วยและหายไป
หลังการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พล.ต.ต.โชต วีรเดชกำแหง ผบก.ตร.ภ.จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้นพบว่าผู้ตายไม่มีบาดแผลและร่องรอยใด ๆ ที่เกิดจากการฆาตกรรม ดังนั้น จึงได้กำชับให้ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรีและชุดสืบสวน บก.ตร.กจ.เร่งติดตามชายต้องสงสัยที่นำรถเก๋งผู้ตายไป รวมถึงให้ติดต่อหาตัวนายวีระศักดิ์ ที่พบบัตรประชาชนในที่เกิดเหตุว่าเป็นคนเดียวกันหรือไม่ เพื่อเป็นแนวทางในการสืบสวนในคดีนี้ ส่วนศพผู้ตายได้ส่งให้นิติเวชพิสูจน์ให้แน่ชัดว่าเสียชีวิตด้วยสาเหตุใด
มีรายงานข่าวว่า ชุดสืบสวนคลี่คลายคดีได้ตั้งประเด็นการสอบสวนแบบกว้างๆ แต่ไม่ทิ้งปมฆาตกรรม โดยเชื่อว่าชายที่ออกจากห้องผู้ตายและนำรถผู้ตายไปด้วย น่าจะเป็นกุญแจดอกสำคัญในการคลี่คลายคดีนี้ โดยอาจจะใช้หมอนปิดหน้าผู้ตายจนเสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ และเชื่อว่าอาจจะเป็นคนคนเดียวกันกับที่ทำบัตรประชาชนตกเอาไว้ในห้องพัก หรือไม่ก็ผู้ตายอาจช็อกหรือน็อกยาจนเสียชีวิตและเพื่อนชายที่มาหาตกใจจึงหลบหนีไปตั้งหลัก เพราะการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าทรัพย์หลายอย่างของผู้ตายหายไปด้วย โดยชุดสืบสวนของ กสส.ภ.จ.กาญจนบุรี และ สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้ลงพื้นที่ควานล่าตัวชายที่นำรถผู้ตายหนีไปแล้ว
พบรถ-หนุ่มต้องสงสัยแล้ว
จนท.นำตัวสอบเครียด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.กษณะ แจ่มสว่าง ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อม ตร.สืบสวนสภ.เมืองกาญจนบุรี ได้ลงพื้นที่พบรถโตโยต้าวีออส สีบรอนด์ หมายทะเบียน กค 5217 ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นของนางสาวชาร์ลีน ศิริโฉม ผู้ตาย โดยมีผู้ต้องสงสัยคือ นายท๊อป ขับขี่รถคันดังกล่าวอยู่บนถนนพัฒนาการ ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี และขับขี่ไปบนถนนแสงชูโตช่วงปากทางเข้าหมู่บ้านพฤกษากาญจน์ 5 ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
เจ้าหน้าที่จึงติดตามรถคันดังกล่าวไปและเข้าทำการสกัดรถคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวและได้ทำการควบคุมตัวนายท๊อปพร้อมนำรถคันดังกล่าวมาทำการตรวจสอบและสอบสวนที่สภ.เมืองกาญจนบุรี
ส่วนอีกด้าน พ.ต.อ.กษณะ แจ่มสว่าง ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้สั่งการให้ ตร.สืบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรีประสานงานกับวีแอลเกสต์เฮาส์ เพื่อขอตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบผู้ตายเข้ามาพักตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค.54 เวลา 17.00 น. ต่อมา 22.00 น.ผู้ตายออกไปข้างนอกกลับเข้าที่พักประมาณ 05.00 น.ของวันรุ่งขึ้น (19 ม.ค.54) โดยมาพร้อมกับนายท๊อป
ต่อมาเวลาประมาณ 08.00 น.นายท๊อปได้ขับขี่รถของผู้ตายออกไป ต่อมาวันที่ 20 ม.ค.54 เวลาประมาณ 09.20 น. แม่บ้านพบศพผู้ตายขณะจะเข้าไปทำความสะอาดจึงไขกุญแจสำรองเข้าไปเพราะประตูล็อกและเรียกไม่มีเสียงตอบรับ
ผลการสอบสวนนายท๊อป เบื้องต้น ให้การปฏิเสธไม่รู้เรื่องการเสียชีวิตในครั้งนี้ แต่รู้จักผู้ตายเจอกันที่หน้าร้านเซ่เว่นข้างเกสต์เฮาส์ พูดคุยถูกคอผู้ตายชวนไปที่ห้องพักจากนั้นตนก็ออกมาโดยคนตายให้รถไปใช้ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อทำการสอบปากคำอย่างคร่ำเคร่ง และได้ทำการตรวจฉี่พบว่ามีสีม่วง จึงดำเนินคดีคดีในข้อหาเสพยาเสพติดประเภท 1
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (20 ม.ค.54) พ.ต.ท.ชูวิทย์ เจริญนาค พงส.(สบ.3) สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ว่าเกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิตภายใน V.L.เกรสเฮ้าส์ ตั้งอยู่ถนนแสงชูโต ต.บ้านเหนือ เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.โชติ วีรเดชกำแหง ผบก.ตร.ภ.จว.กาญจนบุรี, พ.ต.อ.กษณะ แจ่มสว่าง ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี,พ.ต.อ.ภัทรชัย กอสนาน ผกก.กสส.ภ.จ.กาญจนบุรี ,พ.ต.ท.กิตติพงษ์ บุญรอด รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.บัญชา ศรีรุจิเมธากร สว.สส. พ.ต.ท.เกรียงศักดิ์ ผ่องเกษม สวป. พ.ต.ท.เวช พิสูตร์ สว.กสส.ภ.จ.กาญจนบุรี แพทย์เวร รพ.พหลพลพยุหเสนา และเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์
พบว่าที่เกิดเหตุอยู่ภายในห้องพักหมายเลข 204 ชั้น 2 ของเกสต์เฮาส์ดังกล่าว โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เปิดประตูออกไป พบว่าภายในห้องเปิดแอร์เย็นฉ่ำและโทรทัศน์ถูกเปิดทิ้งเอาไว้ บนเตียงนอนพบศพหญิงสาวสวมเสื้อผ้าชุดนอนสีชมพู กางเกงขาสั้นสีชมพู นอนหงาย มีผ้าห่มสีฟ้าและหมอนสีขาวปิดใบหน้าเอาไว้ เมื่อเปิดออกดูพบว่าสภาพศพมีเลือดไหลออกปากออกจมูก คาดว่าเสียชีวิตมาประมาณ 12 ชั่วโมงขึ้นไป
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบหลักฐานผู้ตายชื่อ นางสาวชาร์ลีน ศิริโฉม อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 698 หมู่ 5 ต.เบญจขร อ.คลองหาด จ.สระแก้ว นอกจากนี้ยังพบบัตรนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงของผู้ตายอยู่ด้วย นอกจากนี้บนที่นอนยังพบพบบัตรประชาชนของนายวีระศักดิ์ สุขประสาท อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 157/102 หมู่ 3 ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.ลพบุรี ตกอยู่ และพบยาเม็ดชนิดต่างๆ จำนวนหลายซอง จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายหรือบาดแผลใด ๆ ในตัวผู้ตาย
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายเป็นลูกค้าที่เดินทางมาเข้าพักของเกสต์เฮาส์ดังกล่าวเป็นประจำ โดยขับรถเก๋งโตโยต้าวีออส สีบรอนซ์ ไม่ทราบทะเบียน หมวดจังหวัดปราจีนบุรี โดยผู้ตายมาเปิดห้องพักเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2554 เวลา 17.05 น. โดยมาเปิดห้องพักเพียงคนเดียว แต่พอช่วงดึกมีพยานเห็นว่า มีผู้ชายมาหาผู้ตายในห้องพัก ก่อนออกไปและขับรถเก๋งของผู้ตายไปด้วยและหายไป
หลังการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พล.ต.ต.โชต วีรเดชกำแหง ผบก.ตร.ภ.จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้นพบว่าผู้ตายไม่มีบาดแผลและร่องรอยใด ๆ ที่เกิดจากการฆาตกรรม ดังนั้น จึงได้กำชับให้ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรีและชุดสืบสวน บก.ตร.กจ.เร่งติดตามชายต้องสงสัยที่นำรถเก๋งผู้ตายไป รวมถึงให้ติดต่อหาตัวนายวีระศักดิ์ ที่พบบัตรประชาชนในที่เกิดเหตุว่าเป็นคนเดียวกันหรือไม่ เพื่อเป็นแนวทางในการสืบสวนในคดีนี้ ส่วนศพผู้ตายได้ส่งให้นิติเวชพิสูจน์ให้แน่ชัดว่าเสียชีวิตด้วยสาเหตุใด
มีรายงานข่าวว่า ชุดสืบสวนคลี่คลายคดีได้ตั้งประเด็นการสอบสวนแบบกว้างๆ แต่ไม่ทิ้งปมฆาตกรรม โดยเชื่อว่าชายที่ออกจากห้องผู้ตายและนำรถผู้ตายไปด้วย น่าจะเป็นกุญแจดอกสำคัญในการคลี่คลายคดีนี้ โดยอาจจะใช้หมอนปิดหน้าผู้ตายจนเสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ และเชื่อว่าอาจจะเป็นคนคนเดียวกันกับที่ทำบัตรประชาชนตกเอาไว้ในห้องพัก หรือไม่ก็ผู้ตายอาจช็อกหรือน็อกยาจนเสียชีวิตและเพื่อนชายที่มาหาตกใจจึงหลบหนีไปตั้งหลัก เพราะการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าทรัพย์หลายอย่างของผู้ตายหายไปด้วย โดยชุดสืบสวนของ กสส.ภ.จ.กาญจนบุรี และ สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้ลงพื้นที่ควานล่าตัวชายที่นำรถผู้ตายหนีไปแล้ว
พบรถ-หนุ่มต้องสงสัยแล้ว
จนท.นำตัวสอบเครียด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.กษณะ แจ่มสว่าง ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อม ตร.สืบสวนสภ.เมืองกาญจนบุรี ได้ลงพื้นที่พบรถโตโยต้าวีออส สีบรอนด์ หมายทะเบียน กค 5217 ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นของนางสาวชาร์ลีน ศิริโฉม ผู้ตาย โดยมีผู้ต้องสงสัยคือ นายท๊อป ขับขี่รถคันดังกล่าวอยู่บนถนนพัฒนาการ ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี และขับขี่ไปบนถนนแสงชูโตช่วงปากทางเข้าหมู่บ้านพฤกษากาญจน์ 5 ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
เจ้าหน้าที่จึงติดตามรถคันดังกล่าวไปและเข้าทำการสกัดรถคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวและได้ทำการควบคุมตัวนายท๊อปพร้อมนำรถคันดังกล่าวมาทำการตรวจสอบและสอบสวนที่สภ.เมืองกาญจนบุรี
ส่วนอีกด้าน พ.ต.อ.กษณะ แจ่มสว่าง ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้สั่งการให้ ตร.สืบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรีประสานงานกับวีแอลเกสต์เฮาส์ เพื่อขอตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบผู้ตายเข้ามาพักตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค.54 เวลา 17.00 น. ต่อมา 22.00 น.ผู้ตายออกไปข้างนอกกลับเข้าที่พักประมาณ 05.00 น.ของวันรุ่งขึ้น (19 ม.ค.54) โดยมาพร้อมกับนายท๊อป
ต่อมาเวลาประมาณ 08.00 น.นายท๊อปได้ขับขี่รถของผู้ตายออกไป ต่อมาวันที่ 20 ม.ค.54 เวลาประมาณ 09.20 น. แม่บ้านพบศพผู้ตายขณะจะเข้าไปทำความสะอาดจึงไขกุญแจสำรองเข้าไปเพราะประตูล็อกและเรียกไม่มีเสียงตอบรับ
ผลการสอบสวนนายท๊อป เบื้องต้น ให้การปฏิเสธไม่รู้เรื่องการเสียชีวิตในครั้งนี้ แต่รู้จักผู้ตายเจอกันที่หน้าร้านเซ่เว่นข้างเกสต์เฮาส์ พูดคุยถูกคอผู้ตายชวนไปที่ห้องพักจากนั้นตนก็ออกมาโดยคนตายให้รถไปใช้ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อทำการสอบปากคำอย่างคร่ำเคร่ง และได้ทำการตรวจฉี่พบว่ามีสีม่วง จึงดำเนินคดีคดีในข้อหาเสพยาเสพติดประเภท 1
