พิษณุโลก - USAID ลงพื้นที่เชื่อมกับ NGO ภาคเหนือตอนล่าง แลกเปลี่ยน“ประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม”เสริมศักยภาพองค์กรเอกชนให้เข้มแข็ง เป็นกลไกตรวจสอบของภาครัฐ
วันนี้ (19 ม.ค.) ที่โรงแรมเทพนคร อ.เมือง พิษณุโลก Mr.David pottebaum, Mr.Marjan Jukic, น.ส.รวิประภา ศรีสาสนรัตน์ และ น.ส.พุทธณี กางกั้น เจ้าหน้าที่คณะ USAID ได้เดินทางมาพบปะกับเครือข่ายภาคประชาชน เพื่อเข้าร่วมประชุมกับมูลนิธิคนเพียงไพร, เครือข่ายทรัพยากร ดิน น้ำ ป่า รักษ์ถิ่นกำแพง, ศูนย์เสริมสร้างองค์กรชาวบ้านเพื่อฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมจังหวัดอุตรดิตถ์ และพิษณุโลก ประมาณ 20 คน เพื่อเสริมศักยภาพองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ และสร้างศักยภาพองค์กรเอกชนให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้นเป็นกลไกตรวจสอบของภาครัฐได้ ลดความขัดแย้งในภาคใต้ วางเป้าหมายให้คนไทยเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ ตระหนักถึงสิทธิและหน้าที่ของตนเอง โดยหลักการทำงาน เริ่มจากรับฟังความคิดเห็น นำข้อเสนอที่ได้มาสรุปเป็นแผนการทำงาน ทำกิจกรรมทุก 6 เดือน เน้นการปฏิบัติจริงในพื้นที่ เน้นประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมและธรรมาภิบาล
โดยที่ผ่านมาได้ดำเนินการใน 15 จังหวัด เช่น เชียงใหม่, ขอนแก่น และกรุงเทพฯ สามารถพบปะองค์กรประชาชนว่าด้วยการตรวจสอบงานของรัฐบาล กระทั่งทราบว่าแต่ละพื้นที่องค์กรอิสระไม่ทำงานตามหน้าที่ ถือว่าเป็นจุดบอด ควรให้ประชาชนเข้ามาส่วนร่วมในการตรวจสอบเพิ่มขึ้น แต่ประเด็นสำคัญคือ พบว่าว่าจนถึงขณะนี้ไม่มีมาตรการใดๆ คุ้มครองแก่ภาคประชาชน
นายสาคร สงมา มูลนิธิคนเพียงไพรกล่าวว่า “ยูเสด” มุ่งหวังให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมือง เชิงสร้างสรรค์ ขับเคลื่อนกลไกตรวจสอบการทำงานของรัฐ องค์กรภาคประชาชนจะต้องร่วมกันทำงานกับองค์กรอิสระของการเมืองต่างๆ และในประเด็นปัญหาต่างๆ ในพื้นที่ เช่น การกระจายที่ดินที่ไม่เป็นธรรม ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหมืองแร่ทองคำ ใน 3 จังหวัดรอยต่อ เพชรบูรณ์, พิจิตรและพิษณุโลก ซึ่งพิษณุโลกเองก็ยังมีปัญหาโรงโม่หิน ฯลฯ เกิดขึ้นในพื้นที่อนุรักษ์ อ.เนินมะปราง
นายสาครบอกอีกว่า วันนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เริ่มพุดคุย ทำความรู้จักกันก่อน ต่อไปจะมีการอบรม เสวนา แบบการทำงาน “ยูเสด” ไม่ได้มาบังคับให้ใครทำ ขึ้นอยู่ว่าภาคประชาชนจะทำหรือไม่
Mr.David pottebaum กล่าวว่า เงินของยูเสดมาจากภาษีของคนอเมริกัน เพราะไทยและอเมริกาเป็นเพื่อนกันมานานแล้ว เราช่วยได้ก็อยากจะช่วย ปัญหาในไทย เหมือนกับอเมริกา เพื่อนำไปปรับใช้กับอเมริกา อยากให้คนไทยมีโอกาสที่ดี ในแง่ขององค์กร มองความมั่นคงในด้านประชาธิปไตย เสถียรภาพความมั่นคงก็จะสะท้อนกลับไปในประเทศนั้น เรามีความเชี่ยวชาญทางด้านนี้ แล้วประเมินแล้วว่า ความเข้มแข็งของประชาชนลดน้อยลง ทางโครงการจึงอยากจะมาหนุนเสริม และที่ผ่านมายูเสดนำเสนอความก้าวหน้าในโครงการต่างๆ แก่รัฐบาลต่อการเข้ามาสนับสนุนการทำงานในพื้นที่ เน้นให้ทุกคนมีส่วนร่วม ไม่มีการแบ่งแยกเรื่องชนชั้น ศาสนา
