xs
xsm
sm
md
lg

ชาวนาแปดริ้ว ปูดเหตุ ฮ. ตก เสียงเครื่องยนต์ดังกราวก่อนร่วงลงพื้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ฉะเชิงเทรา - ชาวนาทำงานใกล้จุด เฮลิคอปเตอร์ ของ สตช. ตก เผยได้ยินเสียงเครื่องยนต์ ดังกราวด์ คล้ายวาล์วรั่ว ก่อนหล่นลงพื้น ขณะรองพ่อเมืองชื่นชมนักบิน มีไหวพริบ และสติดี ก่อนนำเครื่องร่อนลงจอดที่ปลอดภัย ด้านผู้การแปดริ้วเตรียมส่งกำลังเฝ้าอารักขาเครื่อง คาดใช้เวลาเก็บกู้นานหลายวัน

วันนี้( 11 ม.ค.54) นายอรัญ ยอระมิน กล่าวถึงเหตุการณ์ เฮลิคอปเตอร์ ของ สตช. ร่อนลงจอดฉุกเฉิน กลางท้องนา เมื่อช่วงก่อนเวลา 09.00 น. วันนี้ว่า ขณะเกิดเหตุตนกำลังระบายน้ำเข้าสู่ท้องนา อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ ฮ. ตก เพียง 2 เส้นนา (80 เมตร) เท่านั้น หลังเห็นเครื่องลงจอดด้วยการใช้ส่วนหน้าของเครื่องลงมายังพื้นก่อนอย่างนุ่มนวล

จากนั้นส่วนหางจึงฟาดลงมาที่พื้นเสียงดัง "ตุ๊บ" จึงได้รีบเข้าไปร้องถามคนบนเครื่อง ว่า "ต้องการให้ช่วยอะไรไหม" แต่เจ้าหน้าที่ทั้งหมดในเครื่องต่างพากันนั่งนิ่งเงียบ อยู่บนเครื่องอยู่ครู่ใหญ่ ส่วนตนนั้นได้สังเกตเห็นกลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นมาเป็นไอ จากตัวเครื่องยนต์ในตอนท้ายของเครื่องบิน จึงได้ผงะถอยกลับออกมาเพราะหวั่นเกรงว่าเครื่องยนต์จะระเบิด

จากนั้นจึงได้เห็นนักบินเปิดประตูเดินลงมาจากเครื่อง พร้อมร้องบอกว่าไม่เป็นอะไร ก่อนที่เครื่องบินอีกลำที่บินผ่านเลยไปก่อนหน้า ได้บินวนกลับมาลงจอดยังที่พื้นท้องนาด้านหลังเครื่องบินที่ตก ก่อนที่เจ้าหน้าที่ ที่มาด้วยกันจะพากันช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ พร้อมขนกระเป๋าอุปกรณ์สัมภาระ ย้ายไปขึ้นยังอีกเครื่องหนึ่ง ก่อนที่จะบินขึ้นไป

โดยในตอนแรกก่อนเห็นเครื่องลงจอด ตนได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของ ฮ.ลำดังกล่าว มีเสียงดังกราวลั่นอย่างผิดปกติ คล้ายกับเสียงของเครื่องจักรกลการเกษตร ที่วาล์วรั่วจนเครื่องหลวมรวนไม่มีแรงควบแน่น ก่อนที่ตัวเครื่องจะตกลงพื้น ขณะที่ใบพัดยังคงหมุนอยู่แบบช้าๆ

ด้าน นางสุมิตรา ศรีสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวถึงสาเหตุที่เครื่องบินลงจอดฉุกเฉินในครั้งนี้ว่า จากคำบอกเล่าของนักบิน ทราบว่า ขณะกำลังขึ้นบินอยู่ที่ความสูงประมาณ 500 ฟิต อยู่ๆ เครื่องยนต์ก็ได้ดับเงียบหายไปเฉยๆ โดยที่ไม่ทราบสาเหตุจนนักบินทั้งคู่ต้องหันมามองหน้ากัน ก่อนที่จะหาทางนำเครื่องร่อนลงจอด

เนื่องจากตัวเครื่องยังคงมีแรงเหวี่ยงของใบพัดที่ยังคงหมุนอยู่ ประคองให้เครื่องลอยอยู่บนอากาศได้ชั่วขณะ โดยต้องขอชื่นชมในความสามารถ ในตัวของนักบินทั้งสองนาย ที่ยังมีสติดีอยู่ตลอดเวลา และได้นำเครื่องร่อนลงจอดยังในที่ปลอดภัย ซึ่งเป็นบริเวณกลางท้องทุ่งนา ที่ยังมีทั้งต้นข้าวขึ้นสูง และที่พื้นดินยังคงนุ่มอยู่ เนื่องจากเป็นผืนดินเลน และยังมีน้ำขังแฉะพื้น จึงทำให้ทุกคนปลอดภัยดี ไม่ได้รับบาดเจ็บไปมากกว่านี้

สำหรับคนเจ็บนั้นทราบแน่ชัดแล้วว่า ทางสำนักพระราชวัง โดยสมเด็จพระเทพฯ ท่านทรงส่งเครื่องบินมารับ เพื่อนำไปทำการรักษาอาการบาดเจ็บ ยังที่ รพ.พระมงกุฎเกล้า ใน กทม. แล้ว สำหรับความเสียหายของตัวเครื่องนั้น ได้รับรายงานว่าเกิดความเสียหายขึ้นที่บริเวณขาตั้งรองตัวเครื่อง และส่วนของโคนหางใต้ท้องเครื่องยนต์

พล.ต.ต.มณฑล มีอนันต์ ผบก. ภ. จว.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า สาเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้น ทราบแน่ชัดแล้วว่าเครื่องยนต์ดับกลางอากาศ จึงทำให้เครื่องตกลงมา แต่โชคดีที่เป็นบริเวณกลางท้องนา ที่มีพื้นอ่อนนุ่ม ซึ่งหากเป็นพื้นที่ดินแข็งก็อาจมีการสูญเสียมากกว่านี้ ส่วนการเคลื่อนย้าย และสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงนั้นเป็นหน้าที่ของกองบินตำรวจจะเป็นผู้มาดำเนินการจัดการเอง และยังไม่ทราบกำหนดว่าจะแล้วเสร็จเมื่อใด

สำหรับเครื่องบินที่เกิดเหตุร่อนลงฉุกเฉินนั้น ไม่ทราบว่าเป็นรุ่นใด แบบใด หรือยี่ห้อใด เนื่องจากทาง ภ.จว.ฉะเชิงเทรา นั้น ไม่มีผู้ชำนาญการทางด้านนี้ ขณะนี้จึงทำได้เพียงการเฝ้าดูแลรักษาพื้นที่ไว้ ไม่ให้ใครเข้าไปทำลายตัวเครื่องได้ ด้วยการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดูแลอยู่ตลอดเวลา

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ตัวเครื่องบินลำดังกล่าวนั้น ติดตราโลโก้ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สีขาวคาดเลือดหมู หมายเลขตัวเครื่อง 1722 เป็นเครื่องบินขนาดค่อนข้างใหญ่ มีที่นั่งผู้โดยสารแบบเก้าอี้ผ้าใบ สีขาวสองแถว ด้านหน้า 3 ที่นั่ง ด้านหลัง 5 ที่นั่ง พร้อมที่พักช่างเครื่อง 2 ที่นั่ง และนักบิน 2 ที่นั่ง รวม 12 ที่นั่ง โดยพบร่องรอยของการชำรุดเสียหายหนักที่บริเวณส่วนโคนหาง ซึ่งมีร่องรอยของการลงกระแทกพื้นจนผิดรูปร่าง และที่ใต้เครื่องยนต์ยังคงมีน้ำมันหยดลงมาที่พื้นอยู่ตลอดเวลา



กำลังโหลดความคิดเห็น