xs
xsm
sm
md
lg

ภาคธุรกิจ-อุตสาหกรรมอีสานชี้ยุบสภายิ่งทำชาติพัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวขอนแก่น -ภาคเอกชนเมืองขอนแก่นประสานเสียง ไม่เห็นด้วยยุบสภา ตามกรอบเวลา 15 วันที่ กลุ่มม็อบไพร่เสนอ เพราะจะทำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย

นายวิฑูรย์ กมลนฤเมธ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า เห็นด้วยกับการเจรจา แต่ไม่เห็นด้วย ที่กลุ่มนปช. เรียกร้องให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยุบสภาภายใน 15 วัน โดยอ้างเพื่อแก้ปัญหาให้บ้านเมืองกลับสู่ความสงบสุขนั้น ตนมองว่า จะยิ่งซ้ำเติมปัญหาบ้านเมืองวุ่นวายไม่จบสิ้น จุดที่น่าห่วง คือ การฟื้นตัวเศรษฐกิจประเทศไทย ที่กำลังปรับตัวได้ดีตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดนี้

ทั้งนี้ หากนายกรัฐมนตรี ยอมตามข้อเรียกร้องของกลุ่มนปช. จะทำให้เศรษฐกิจเกิดภาวะชะงักงันทันที เพราะแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่รัฐบาลได้วางเอาไว้ ไม่สามารถเดินหน้าไปได้ การทำงานของรัฐหลังจากยุบสภา ตามกรอบระยะเวลา 3 เดือน รัฐบาลชุดนี้จะเป็นรัฐบาลรักษาการ ทำหน้าที่หลักเพียงแค่จัดการเลือกตั้ง ไม่สามารถสานต่อนโยบายเศรษฐกิจ หรือแก้ปัญหาประเทศด้านอื่นได้

นายวิฑูรย์ กล่าวต่อว่า เฉพาะกรณีผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น ที่ได้ขับเคลื่อนแผนจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมขอนแก่น ในรูปแบบกรีนอินดัสตรี กับรัฐบาลชุดนี้ไปแล้วนั้น ทั้งรมว.อุตสาหกรรม พร้อมสนับสนุน โดยสภาอุตสาหกรรมขอนแก่นได้เจรจาและยื่นแผนพัฒนานิคมอุตสาหกรรมจ.ขอนแก่น ไปที่การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.)ไปแล้วเช่นกัน

“หากยุบสภา จะทำให้แผนขับเคลื่อนจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมจ.ขอนแก่น สะดุดทันที ทั้งไม่มั่นใจว่า รัฐบาลชุดต่อไปจะเข้าใจเรื่องการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมขอนแก่น และจริงใจที่จะสนับสนุนต่อหรือไม่”

ด้านนายนริศร จรรยานิทัศน์ เลขาธิการชมรมผู้ค้าปลีกและผู้ประกอบการอาชีพอิสระ จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ไม่ควรรีบร้อนยุบสภาทันที การตัดสินใจยุบสภา ไม่ใช่เรื่องของคนเพียง 6 คนบนโต๊ะเจรจา มาตัดสินอนาคตของประเทศชาติ แต่หากจะยุบสภาจริง ควรให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมตัดสินใจของคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศ

เบื้องต้น การเสนอให้ทำประชามติการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามเงื่อนไข 6 ข้อนั้น เป็นสิ่งดี ต่อการวัดกระแสสังคมจากประชาชนทั้งประเทศว่า คิดเห็นอย่างไรต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่หากจะดื้อดึงให้ยุบสภาจริง ควรดำเนินการตามกรอบระยะเวลา 9 เดือนที่รัฐบาลวางไว้ ให้ปฏิบัติตามกรอบปฏิทินงบประมาณ และไม่กระทบต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย ซึ่งหากยุบสภาทันที จะทำให้เศรษฐกิจไทยหยุดชะงัก ทั้งจะลุกลามเป็นผลกระทบไปยังเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียนได้

ขณะที่นางเพ็ญพักตร์ ศรีทอง ประธานหอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวถึงข้อเสนอของรัฐบาลจะยุบสภาภายใน 9 เดือน เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองขณะนี้ว่า ความจริงนักธุรกิจไม่อยากให้รัฐบาลยุบสภา เพราะทำให้เกิดสุญญากาศต่อการบริหารราชการแผ่นดิน แต่เมื่อมีเหตุการณ์ไม่สงบเกิดขึ้น แล้วรัฐบาลเสนอยุบสภาหาทางออกให้ประเทศ โดยขอเวลา 9 เดือนถือว่าเหมาะสม ต้องให้เวลารัฐบาลและนักธุรกิจ ปรับตัวเตรียมพร้อม ไม่ให้การบริหารประเทศและเศรษฐกิจหยุดชะงัก

แกนนำคนเสื้อแดงต้องเข้าใจว่า การยุบสภาตามข้อเรียกร้องภายใน 15 วัน ทำให้เกิดผลเสียทั้งการบริหารและเศรษฐกิจ เพราะรัฐบาลยังไม่ได้ทำงบประมาณค่าใช้จ่ายประจำปี 2554 ปกติจะเสนอเข้าสู่สภาขอความเห็นชอบราวเดือนมิถุนายน และเริ่มใช้จ่ายงบประมาณใหม่ในวันที่ 1 ตุลาคม

“ถ้ายังไม่เสนองบประมาณเข้าสู่สภา แล้วต้องไปเลือกตั้งกันใหม่ ระหว่างนั้นก็จะไม่เกิดการใช้จ่าย จะส่งผลเสียต่อภาคธุรกิจการลงทุนของประเทศอย่างมหาศาล จึงไม่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องยุบสภาทันที กลุ่มคนเสื้อแดงต้องเรียกร้องอยู่ในเหตุในผล จะตามใจตัวเอง แล้วประเทศขับเคลื่อนไปไม่ได้ เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง”นางเพ็ญพักตร์ กล่าวและว่า

ระยะเวลา 9 เดือนที่รัฐบาลขอมานั้น รัฐบาลต้องทำตามที่ได้ทำข้อตกลงกับสังคมไว้ให้ได้ทั้งหมด แล้วคนเสื้อแดงรวมทั้งคนทุกฝ่ายต้องยอมรับกติกา หากเลือกตั้งใหม่แล้วได้ใครมาเป็นรัฐบาล ก็จะต้องไม่สร้างความวุ่นวายขึ้นอีก ประธานหอการค้าอุบลราชธานีกล่าว

ด้านนายชวลิต องควาณิช ประธานที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ขณะนี้นักธุรกิจไม่สนใจว่ารัฐบาลจะยุบสภาหรือไม่ยุบสภา แต่สิ่งที่นักลงทุนต้องการเห็นคือ ความสงบเรียกร้อยของบ้านเมือง ประเทศต้องไม่อึมครึม หากยังปล่อยให้เหตุการณ์เป็นอยู่อย่างนี้ ทำให้นักธุรกิจไม่กล้าลงทุน เพราะไม่มั่นใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับบ้านเมือง ดังนั้นต้องให้ประเทศสงบสุข เชื่อมั่นว่าจะทำให้การลงทุนตามมาเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น