ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชนขอนแก่นหลายกลุ่ม ร่วมแถลงจุดยืนค้านยุบสภา จี้แกนนำเสื้อแดงเคารพผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งประเทศ พร้อมเรียกร้องรัฐบาลสนับสนุนภาคประชาชนทุกภาคส่วนระดมสมองชี้ทิศทางประเทศไทย
วันนี้ (30 มี.ค.) ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จ.ขอนแก่น ตัวแทนสหภาพ นักกิจกรรมสร้างสังคมใหม่ (Union of Social Activist for New Society Building) , เครือข่ายประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งแผ่นดิน, เครือข่ายประชาสังคมจังหวัดขอนแก่น, คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคอีสาน และศูนย์พัฒนาการเมืองภาคพลเมือง สถาบันพระปกเกล้า จ.สมุทรสงคราม ได้ร่วมกันแถลงข่าวพร้อมอ่านแถลงการณ์แสดงจุดยืนคัดค้านการยุบสภา
โดย นายประวัติ บุนนาค ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาสังคมจังหวัดขอนแก่น กล่าวถึงสถานการณ์การเจรจาระหว่างรัฐบาลกับแกนนำคนเสื้อแดงที่ต้องการจะให้มีการยุบสภาภายใน 15 วันว่า ในฐานะภาคประชนชนไม่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องให้ยุบสภา เพราะไม่มีเหตุผลมากพอที่จะอธิบายต่อสาธารชนได้ ยังไม่ถึงเวลาตามระบบ ซึ่งคนเสื้อแดงไม่ใช่ผู้มีสิทธิในประเทศไทยแต่เพียงกลุ่มเดียว จะต้องถามความต้องการของคนไทยทั้งประเทศที่มีสิทธิเลือกตั้ง ทั้งหมดด้วย
ดังนั้น รัฐบาลควรแสดงความสามารถในการจัดการปัญหาและยุติปัญหาใดๆ โดยอำนาจและครรลองแห่งระบอบการปกครองประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ เป็นที่ตั้ง ขณะเดียวกันก็ต้องให้ความสำคัญ และรับผิดชอบต่อเสียงข้างน้อยด้วยหลักการและเหตุผลอันเป็นสากล ปฏิบัติโดยมิเป็นการละเมิดหรือบั่นทอน ต่อสิทธิเสรีภาพ ประชาธิปไตย เสียงข้างน้อยด้วยเหตุแห่งอยุติธรรมใดๆ
อย่างไรก็ตาม ภาคประชาชน ขอเสนอต่อรัฐบาลและพรรคการเมืองว่า เมื่อมีเหตุจำเป็นจะต้องยุบสภาตามวิถีทางระบอบประชาธิปไตยของประเทศ รัฐบาลที่รับผิดชอบรักษาการต้องดำเนินการส่งเสริมสนับสนุนและควบคุมให้องค์กร ทั้งรัฐและเอกชน ที่มีภารกิจเกี่ยวข้องกับกระบวนการเลือกตั้ง ตามกฎหมายได้ดำเนินการ ด้วยความสุจริตโปร่งใส และเป็นธรรม ให้ปรากฏแก่สาธารณะโดยไร้ข้อสงสัย
ขณะเดียวกัน ต้องอำนวยการเพื่อเปิดโอกาสให้ทุกพรรคการเมืองได้นำแนวทางและนโยบายพรรคฯ ไปรณรงค์หาเสียงกับประชาชนให้เข้าใจได้อย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน ตามกฎกติกาการเลือกตั้งภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญปัจจุบัน อย่างเคร่งครัด
นายประวัติระบุอีกว่า ในกระบวนการเลือกตั้ง รัฐบาลและพรรคการเมืองจะต้องเอื้ออำนวยให้เกิดเวทีสาธารณะ นำเสนอ นโยบายพรรคการเมือง ทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่นและมีการตรวจสอบโดยเปรียบเทียบ กับปัญหาของประชาชนชนบท เช่น ปัญหาหนี้สินเกษตรกร ปัญหาเกษตรกร, ปัญหาที่ดินทำกิน, ปัญหาแรงงานนอกระบบ และนอกภาคเกษตรฯลฯเป็นต้น
อยากเรียกร้องให้รัฐจะต้องเอื้ออำนวย และสนับสนุนให้ภาคประชาชน ทุกภาคส่วน ได้เปิดเวที ระดมสมองเพื่อสร้าง “วิสัยทัศน์ไทยใหม่ในยุคโลกานุวัตร” จากภาคประชาชน, ภาค ธุรกิจ, ภาควิชาการ และภาคการเมืองฯลฯ เพื่อชี้ทิศทางประเทศไทย ที่จะสามารถนำไปสู่การ แก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชนทุกหมู่เหล่าได้ โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ชนบทจะต้องได้รับการช่วยเหลือและพัฒนาให้เป็นวาระสำคัญอย่างเร่งด่วน
“สถาบันและองค์กรต่างๆ ในสังคม ต้องระดม บุคลากรอาวุโส ผู้ทรงคุณวุฒิ และภูมิปัญญา ของของแต่ละองค์กรและสถาบัน เช่น คณะสงฆ์, ปัญญาชนอิสระ, ผู้แทนประชาคมทุกกลุ่ม อาชีพ ประชาคมรากหญ้า ทั้งหมดต้องเป็นองค์ประกอบสำคัญ ในการระดมแนวความคิดองค์ความรู้เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปใหญ่ประเทศไทย เพื่ออนาคตประเทศไทยอย่างแท้จริง ซึ่งภารกิจนี้ประชาชนทุกภาคส่วนจะต้องมีส่วนรับผิดชอบร่วมกันด้วย”
นายประวัติ กล่าวย้ำอีกว่า กรณีที่มีข้อเสนอหรือข้อตกลงในการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญปี 2550 ก่อนหรือหลังการเลือกตั้งก็จักต้องดำเนินการด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนเช่นเดียวกัน และต้องให้มีกระบวนการประชามติจากประชาชนผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งทั่วประเทศในทุกขั้นตอนตามกระบวนการยกร่างกฎหมาย ก่อนประกาศใช้เป็นกฎหมาย
สำหรับข้อเรียกร้องของกลุ่มแกนนำผู้ชุมนุมที่ได้เสนอข้อต่อรองให้รัฐบาลประกาศ ยุบสภา เพื่อยุติการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น นายประวัติระบุว่าถือเป็นข้อเรียกร้อง ที่กระทบต่อการคงสิทธิ ขั้นพื้นฐานสำคัญของประชาชนในฐานะผู้มีสิทธิเลือกตั้งอีกเป็นจำนวนมากทั่วประเทศ ดังนั้น พวกเราในฐานะประชาชนผู้มีสิทธิโดยชอบธรรมของประเทศนี้เช่นกัน จึงไม่อาจนิ่งเฉยต่อการกระทำและข้อเรียกร้องที่ละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานประชาชนของกลุ่มคนเสื้อแดงได้ต่อไป เราจึงขอใช้สิทธิอันชอบธรรมขั้นพื้นฐานนี้ เรียกร้องต่อรัฐบาลและพี่น้องประชาชนคนเสื้อแสดงให้คำนึงถึงสิทธิของประชาชนส่วนรวม โดยเอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง
อีกทั้งล่าสุดแกนนำ นปช.ยังแถลงข่าวในเช้าวันนี้ว่าจะยกระดับการชุมนุมให้ดุเดือดเข้มข้นขึ้นด้วยนั้น ตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชน ต้องการให้คนเสื้อแดงตอบว่าจะดุเดือดกับใคร สถานที่ราชการทุกแห่งเป็นสมบัติของคนทั้งชาติ ถนนทุกสาย เป็นของทุกคน คนกรุงเทพฯ และคนไทยทั้งประเทศ ไม่พอใจแน่กับการชุมนุมที่แกนนำปลุกระดมให้ใช้แต่ความรุนแรงของคนเสื้อแดงเช่นนี้